พม.เผยพ่อเตะ-บีบคอลูกชาย 5 ขวบที่สงขลา เหตุเชื่อว่าไม่ใช่ลูกตนเอง แม่ไม่กล้าแจ้งความเพราะเป็นชาวเขา ไม่มีบัตรประชาชน หวั่นปู่เด็กเป็นตำรวจ เร่งดูแลฟื้นฟูเด็กแล้ว ห่วงพ่อ-แม่ ทำร้ายลูกเกิดบ่อยในสังคมไทย
วันนี้ (26 ก.ค.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงกรณีการเผยแพร่คลิปในสังคมออนไลน์เป็นภาพเหตุการณ์ที่พ่อทำร้ายร่างกายลูกชายด้วยการเตะและบีบคอลูกหลายครั้ง โดยแม่สงสารลูกแต่ช่วยเหลือไม่ได้ จึงแอบถ่ายคลิปเพื่อให้สังคมช่วยเหลือว่า เหตุการณ์เกิดขึ้น พม.ได้เข้าคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กและครอบครัวแล้ว โดยมอบหมายและกำชับให้หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสงขลาให้การดูแลแล้ว ทั้งนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า เด็กชายที่ถูกทารุณกรรม อายุ 5 ขวบ เรียนหนังสือชั้นอนุบาล 1 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดสงขลา พ่ออายุ 30 ปี ไม่ได้ประกอบอาชีพ และแม่เป็นชาวเขาเผ่ามูเซอ ไม่มีบัตรประชาชน อายุ 25 ปี มีอาชีพรับจ้างร้านข้าวแกง มีรายได้วันละ 400 บาท และเด็กมีพี่น้องทั้งหมด 4 คน สำหรับสาเหตุที่พ่อทำร้ายร่างกายลูกนั้น เนื่องจากพ่อติดยาเสพติด ทำร้ายร่างกายเด็กอยู่เป็นประจำ เพราะมีความเชื่อว่าลูกคนนี้ไม่ใช่ลูกของตนเอง ส่วนแม่ไม่กล้าแจ้งความเนื่องจากไม่มีบัตรประชาชน และปู่ของเด็กเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ
พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมดำเนินคดีพ่อเด็กตามกฎหมายแล้ว ส่วนสภาพร่างกายของเด็กบาดเจ็บฟกช้ำบริเวณต้นคอ แพทย์ได้ตรวจรักษาแต่ไม่พบความผิดปกติ ส่วนสภาพจิตใจเด็กยังมีอาการหวาดกลัวพ่อ หลังจากการตรวจสอบและประเมินสภาพปัญหาแล้ว เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจะเร่งให้การฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจของเด็ก โดยจะประสานนำเด็กไปพบจิตแพทย์ เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจของเด็กและครอบครัวต่อไป นอกจากนี้ยังได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภค และเงินช่วยเหลือ 2,000 บาท เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนเบื้องต้น
“หน้าที่ของพ่อแม่คือปกป้อง คุ้มครอง เลี้ยงดูลูกให้มีสวัสดิภาพ ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา การที่พ่อทำร้ายลูกตามกรณีดังกล่าวต้องให้นักสังคมสงเคราะห์ลงพื้นที่ตรวจสอบและประเมินสาเหตุเพื่อพิจารณาแนวทางในการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กและครอบครัวดังกล่าวต่อไป แต่ล่าสุดพ่อเด็กถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมและดำเนินคดีตามกฎหมายไปแล้ว ถือว่าเด็กได้รับความปลอดภัยในเบื้องต้น อย่างไรก็ตาม พม.จะดูแลช่วยเหลือเด็กและครอบครัวดังกล่าวอย่างต่อเนื่องต่อไป สำหรับกรณีดังกล่าวเป็นกรณีการกระทำความรุนแรงต่อเด็ก ซึ่งเป็นปัญหาของสังคมที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ตนมีความห่วงใยความปลอดภัยของเด็กทุกคนที่จะเติบโตเป็นกำลังสำคัญของเป็นประเทศ ทั้งนี้ ขอให้พ่อแม่ ผู้ปกครองเลี้ยงดูลูกหลานเป็นอย่างดี ด้วยความรักความเข้าใจ คุ้มครองสวัสดิภาพทั้งด้านร่างกายและจิตใจให้ดี แต่หากเด็กทำอะไรในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ควรให้การอบรมสั่งสอนด้วยคำพูดเพื่อสร้างความเข้าใจ ไม่ควรใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกายเด็ก หากประชาชนประสบหรือพบเห็นปัญหาในลักษณะดังกล่าว สามารถขอความช่วยเหลือได้ที่ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม OSCC โทร.1300 ตลอด 24 ชั่วโมง” รมว.พม.กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่