หวั่นภัยแล้ง! สธ. กำชับ รพ. ทั่วประเทศสำรองน้ำให้พอดูแลผู้ป่วย ใช้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด พร้อมให้ สสจ. คุมความสะอาดของน้ำกินน้ำใช้ของ ปชช. เฝ้าระวังโรคระบบทางเดินอาหาร
วันนี้ (15 ก.ค.) ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงมาตรการบรรเทาผลกระทบจากวิกฤตภัยแล้งว่า ขณะนี้ได้กำชับให้สถานบริการในสังกัด สธ. ทุกระดับทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ประสบภัยแล้งรวม 9 จังหวัด 36 อำเภอ ได้แก่ น่าน นครราชสีมา สระแก้ว แพร่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก ชลบุรี และ ปทุมธานี ให้สำรองน้ำใช้ในการให้บริการดูแลผู้เจ็บป่วยอย่างเพียงพอ และให้ใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ดำเนินการเฝ้าระวังป้องกันโรคระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคอุจจาจะร่วง เป็นต้น และให้ดูแลควบคุมคุณภาพมาตรฐานความสะอาดน้ำดื่มน้ำใช้ของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมายังไม่มีโรคระบาดเกิดขึ้น
นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยได้ดำเนินการควบคุมมาตรฐานของน้ำดื่ม น้ำใช้ โดยกรณีที่เป็นน้ำประปา จะต้องมีระดับคลอรีนตกค้างไม่ต่ำกว่า 0.2 พีพีเอ็ม ซึ่งคลอรีนจะช่วยฆ่าเชื้อโรคที่อยู่ในน้ำ อาจจะมีกลิ่นบ้างแต่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย สำหรับกรณีที่เป็นน้ำใช้ ประชาชนอาจนำน้ำจากแหล่งอื่น ๆ มาใช้ทดแทน และมีปัญหาน้ำขุ่น สามารถปรับสภาพน้ำก่อนใช้โดยใช้สารส้มแกว่งนานประมาณ 10 นาที เพื่อให้น้ำตกตะกอน จากนั้นจึงใส่คลอรีนเม็ดเพื่อฆ่าเชื้อโรคในปริมาณ 1 เม็ดต่อน้ำ 20 ลิตร จากนั้นสามารถนำน้ำมาใช้ในครัวเรือนได้ และหากจะใช้ดื่ม สามารถนำมาต้มให้เดือดก่อน ความร้อนจะฆ่าเชื้อโรคที่อยู่ในน้ำทุกชนิด ปลอดภัยต่อสุขภาพ โดยประชาชนสามารถซื้อคลอรีนและสารส้มได้ที่ร้านขายยาทั่วไป
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (15 ก.ค.) ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงมาตรการบรรเทาผลกระทบจากวิกฤตภัยแล้งว่า ขณะนี้ได้กำชับให้สถานบริการในสังกัด สธ. ทุกระดับทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ประสบภัยแล้งรวม 9 จังหวัด 36 อำเภอ ได้แก่ น่าน นครราชสีมา สระแก้ว แพร่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก ชลบุรี และ ปทุมธานี ให้สำรองน้ำใช้ในการให้บริการดูแลผู้เจ็บป่วยอย่างเพียงพอ และให้ใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ดำเนินการเฝ้าระวังป้องกันโรคระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคอุจจาจะร่วง เป็นต้น และให้ดูแลควบคุมคุณภาพมาตรฐานความสะอาดน้ำดื่มน้ำใช้ของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมายังไม่มีโรคระบาดเกิดขึ้น
นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยได้ดำเนินการควบคุมมาตรฐานของน้ำดื่ม น้ำใช้ โดยกรณีที่เป็นน้ำประปา จะต้องมีระดับคลอรีนตกค้างไม่ต่ำกว่า 0.2 พีพีเอ็ม ซึ่งคลอรีนจะช่วยฆ่าเชื้อโรคที่อยู่ในน้ำ อาจจะมีกลิ่นบ้างแต่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย สำหรับกรณีที่เป็นน้ำใช้ ประชาชนอาจนำน้ำจากแหล่งอื่น ๆ มาใช้ทดแทน และมีปัญหาน้ำขุ่น สามารถปรับสภาพน้ำก่อนใช้โดยใช้สารส้มแกว่งนานประมาณ 10 นาที เพื่อให้น้ำตกตะกอน จากนั้นจึงใส่คลอรีนเม็ดเพื่อฆ่าเชื้อโรคในปริมาณ 1 เม็ดต่อน้ำ 20 ลิตร จากนั้นสามารถนำน้ำมาใช้ในครัวเรือนได้ และหากจะใช้ดื่ม สามารถนำมาต้มให้เดือดก่อน ความร้อนจะฆ่าเชื้อโรคที่อยู่ในน้ำทุกชนิด ปลอดภัยต่อสุขภาพ โดยประชาชนสามารถซื้อคลอรีนและสารส้มได้ที่ร้านขายยาทั่วไป
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่