“หมอกัมปนาท” ติงโพสต์รูป - คลิปล้างท้องช่วยชีวิต “แตงโม” ในห้องฉุกเฉินละเมิดสิทธิผู้ป่วย เตือนใช้โซเชียลอย่างพอดี ตั้งคำถาม “เพื่อนแตงโม” บอกรักเพื่อนแต่แพร่คลิปที่ไม่น่าดูสมควรหรือไม่ พร้อมถาม รพ. เคยห้ามไม่ให้ถ่ายหรือไม่ ย้ำชีวิตผู้ป่วย ไม่ใช่ในละคร เปิด กม. สุขภาพ มาตรา 7 ระบุชัดห้ามนำข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคลไปเผยแพร่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล จิตแพทย์ชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กตนเองถึงกรณีเพื่อนสนิทของดาราสาว “แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” ได้เผยแพร่ภาพและคลิปวิดีโอของสาวแตงโมขณะเจ้าตัวกำลังอยู่ในโรงพยาบาลสภาพกำลังร่ำไห้โดยไร้สติ ระหว่างกำลังช่วยชีวิตจากการกินยาฆ่าตัวตาย โดยมีการประกาศข้อความรักเพื่อนสาว หากได้สติโปรดอย่าซ้ำเติม เป็นต้น ว่า ในฐานะจิตแพทย์สันนิษฐานว่าดาราหญิงผิดหวังกับความรักจากแฟนแล้วคงกินยาฆ่าตัวตาย และใส่เสื้อที่เป็นรูปของแฟนเธอไว้กะให้เสียชีวิตในเสื้อยืดตัวนี้ อย่างไรก็ตาม ขอตั้งคำถามไปยังผู้เกี่ยวข้องดังนี้ 1. การแสดงความรักของเพื่อนในขณะที่เพื่อนยังสติสัมปชัญญะไม่ดี โดยการเอามาโพสต์แบบนี้สมควรหรือไม่ สำหรับตนไม่เห็นด้วย ดูโหดร้ายเกินไปสำหรับเพื่อนที่บอกว่ารักกัน
2. การโพสต์ภาพและวีดิทัศน์การใส่สายยางผ่านจมูกลงไปยังกระเพาะอาหาร (Nasogastric tube) เพื่อการล้างท้องเอาสารต่างๆ ที่รับประทานลงไปออกมาให้หมดนั้นเป็นภาพที่ไม่น่าดูอย่างยิ่ง ควรอยู่เฉพาะในห้องปฏิบัติการบำบัดรักษาเท่านั้น เป็นการละเมิดสิทธิผู้ป่วยอย่างมาก (หากผู้ป่วยหรือญาติไม่ยินยอม หรือยังไม่ทันยินยอม) 3. อยากถามสถานพยาบาลว่าเคยห้ามปรามการถ่ายภาพหรือวีดิทัศน์แบบนี้หรือไม่ หรือเตี๊ยมกันให้ถ่ายหรืออย่างไร คาดว่า สถานที่น่าจะเป็นห้องฉุกเฉิน (ER) เป็นการกระทำที่เหมาะสมหรือไม่
นอกจากนี้ ยังระบุอีกว่า การใช้โลกโซเชียลควรใช้อย่างพอดีและพอเพียงจะดีกว่าหรือไม่ จะรักใคร สงสารใครควรดูความเหมาะสมด้วย แม้เจ้าตัวอาจไม่เอาเรื่องเมื่อตื่นขึ้นมา แต่ก็ไม่เห็นด้วยว่านี่เป็นวิธีการประคับประคองจิตใจที่ดี สำหรับสถานพยาบาลอันนี้เหนื่อยใจ มันคือชีวิตผู้ป่วย ไม่ใช่ชีวิตในละคร อย่าสับสน รวมไปถึงให้ข้อคิดด้วยว่าการดูแลสุขภาพจิตสุขภาพใจตนเอง เป็นการแสดงความรักความเมตตาต่อตนเองที่ดีที่สุด ฟ้าหลังฝนอาจจะสดใสอีกครั้งหากยังไม่หมดกำลังใจ และย้ำว่าช่วยกันระมดระวังเรื่องการละเมิดสิทธิผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ป่วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามมาตรา 7 พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 กำหนดว่า ข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคลเป็นความลับส่วนบุคคล ผู้ใดจะนำไปเปิดเผยในประการที่น่าจะทำให้บุคคลนั้นเสียหายไม่ได้ เว้นแต่การเปิดเผยนั้นเป็นไปตามความประสงค์ของบุคคลนั้นโดยตรง หรือมีกฎหมายเฉพาะบัญญัติให้ต้องเปิดเผย แต่ไม่ว่าในกรณีใด ๆ ผู้ใดจะอาศัยอำนาจหรือสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ หรือกฎหมายอื่นเพื่อขอเอกสารเกี่ยวกับข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคลที่ไม่ใช่ของตนไม่ได้ นอกจากนี้ ตามสถานพยาบาลจะมีการติดประกาศเอาไว้ชัดเจนว่า การถ่ายภาพหรือบันทึกเสียงในขณะที่แพทย์ พยาบาล ทำการรักษาพยาบาล ถือเป็นการละเมิดสิทธิในการทำการรักษาผู้ป่วยของแพทย์และพยาบาล และเป็นการขัดขวาง หรือทำให้การตรวจรักษาไม่สะดวก ซึ่งอาจเกิดผลร้ายต่อผู้ป่วย หากนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตและเกิดความเสียหายขึ้น จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยมีโทษทั้งจำทั้งปรับ
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่