ASTVผู้จัดการรายวัน-“แตงโม ภัทรธิดา” ร่ำไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด รับโง่มากกินยานอนหลับ - กรีดข้อมือหวังฆ่าตัวตาย พ้อต่อให้ตาย “โตโน่” ก็ไม่มีวันกลับมา ด้านพ่อเผยนักร้องดังโทรศัพท์มาหาแต่ตนไม่รับ ขณะที่น้องสาว "โตโน่" ถามพี่ชายทำอะไรผิดถึงต้องมารุมด่า บอกเลิกกันก็เจ็บทั้งสองฝ่าย ด้านสบส.ฟันธง เพื่อนรักถ่ายคลิปผิดกม.ละเมิดสิทธิผู้ป่วย จี้ รพ.เอกชนแจง หากรู้เห็นเป็นใจผิดด้วย มีโทษทั้งจำทั้งปรับ
ตกเป็นข่าวช็อควงการกรณีหวังปลิดชีพตัวเองด้วยการกินยานอนหลับและกรีดข้อมือโชคดีที่แพทย์ช่วยชีวิตไว้ได้ทัน ล่าสุดช่วงเย็นวันวานทางนักแสดงสาว "แตงโม ภัทรธิดา" พร้อมบิดา "นายโสภณ พัชรวีระพงษ์" และ “นพ.คมสัน อังคณานุพงศ์” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรม รพ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น ก็ได้ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว
ทั้งนี้นักแสดงสาวซึ่งร้องไห้อยู่ตลอดเวลาได้เปิดเผยถึงสาเหตุที่ตัดสินใจคิดสั้นว่าเป็นเพราะชีวิตคู่กับสามีหนุ่ม "โตโน่ ภาคิน" นั้นไม่สวยงามและเป็นไปตามที่ตนเองคิดไว้ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาตนและอีกฝ่ายต่างก็พยายามที่จะปรับตัวเพื่อใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว แต่สุดท้ายก็เป็นไปไม่ได้ ก่อนที่ฝ่ายชายจะตัดสินใจเดินจากไปซึ่งทำให้ตนรู้สึกเสียใจและสับสนเพราะตนทุ่มเทให้กับความรักครั้งนี้มาก ประกอบกับตนเป็นโรคซึมเศร้าอยู่แล้ว พอมาเจอเรื่องเช่นนี้ก็เลยเกิดอาการคิดสั้นขึ้นมา
"การที่ได้รับคำพูดหรือเหตุการณ์สถานการณ์ในช่วงนี้หนักมาก ภายนอกเหมือนจะรับไหว แต่ข้างในอ่อนแอมาก ไม่อยากเล่าให้ใครฟังแม้แต่พ่อเลยเก็บไว้คนเดียวตลอดเวลา เลยขาดความยั้งคิด เป็นอารมณ์ชั่ววูบด้วยความน้อยใจเลยขาดสติ คิดว่าไม่อยากจะอยู่รับอะไรหลายๆ เรื่อง...ตลอดระยะเวลาที่ห่างกันมันคลุมเครือก่อนที่จะห่างกันมันมีเรื่องของชีวิตคู่ที่ไม่เข้าใจกัน เราพยายามปรับกันแล้ว แต่ก็เป็นไปไม่ได้"
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าหลังเกิดเรื่องฝ่ายชายหรือครอบครัวได้ติดต่อเข้ามาบ้างหรือไม่? นางเอกดังส่ายหน้า ก่อนเผยว่า ตนยังไม่กล้าพูดอะไรมาก สภาพจิตใจตอนนี้มันยังสับสนอยู่หลายอย่างว่าตนควรจะตัดใจอย่างไร ตนสับสน พยายามทำทุกวิถีทางให้เขากลับมา พยายามบอกเขาว่าพร้อมเสมอ ทำทุกอย่างแล้วจริง ๆ จนถึงวันนี้ตนไม่เคยไม่รักเขา ยังรักเขาอยู่ถึงตอนนี้
" ตั้งแต่เขาออกไปเขาไม่เคยคิดต่อกลับมาอีกเลย เราติดต่อไปส่งไลน์ไปเขาก็ไม่ตอบกลับเป็นเวลา 2 เดือน ทุกครั้งที่เราให้สัมภาษณ์เราห่างกันแต่ยังไม่มีใครพูดว่าหย่าร้างจากปาก ตนก็ไม่รู้จะเชื่อจะตัดสินใจยังไง ในชีวิตคริสเตียน ผู้หญิงคนหนึ่งแต่งงานกับผู้ชายแล้ว เรามอบชีวิตให้พระเจ้า ผู้หญิงไม่สามารถจะไปมีครอบครัวใหม่ได้ ตนยึดถือคำนี้และไม่คิดจะมีใคร ตนผิดพลาดเองที่คิดว่าเขาจะเชื่อเหมือนตน คิดว่าเราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกครั้ง"
นอกจากนี้ เจ้าตัวยังขอโทษไปยังทางโรงพยาบาลที่มีรูปและคลิปหลุดออกไปจากเพื่อนสนิท โดยบอกว่าต้องขอโทษแทนเพื่อน เพราะตอนตนเข้ามาก็ไม่รู้สึกตัวแล้ว ควบคุมอะไรไม่ได้ ตอนนี้ก็ให้เพื่อนลบออก เพราะจะเกิดผลเสียต่อโรงพยาบาล
ด้านบิดาของนักแสดงสาวได้ กล่าวว่า หลังจากเหตุการณ์เมื่อคืนโตโน่ได้โทรศัพท์ติดต่อมา แต่พ่อไม่รับสาย เขามาพ่อก็ต้อนรับ ในเมื่อเขาออกไปก็ออกไป ไม่เป็นไร
ขณะที่ทางนายแพทย์มสัน ระบุถึงอาการของนักแสดงสาวตอนที่มาถึงโรงพยาบาลว่า เจ้าตัวรู้สึกตัวน้อยมากซึ่งเป็นผลมาจากยา ส่วนแผลจากการกรีดข้อมือค่อนข้างตื้นเหมือนรอยถลอก ส่วนอาการของนักแสดงสาวในตอนนี้ปลอดภัยแล้ว แต่ยังมีโรคทางด้านจิตใจ โรคซึมเศร้า ซึ่งต้องเน้นที่การดูแลรักษาจิตใจเป็นหลักและหลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือน
ส่วนของความเคลื่อนไหวในโลกโซเชียลเองได้มีนักแสดงหลายคนเข้ามาแสดงความเห็นใจ ให้กำลังใจรวมถึงเตือนสตินักแสดงสาวกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นในรายของ อ้วน รีเทิร์น, เปิ้ล ไอริณ, ดีเจพี่อ้อย นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล ฯ ขณะที่น้องสาวแท้ๆ ของหนุ่ม "โตโน่" อย่าง "ต้องตา แสงรวี คำวิลัยศักดิ์" ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุคระบายความในใจหลังพี่ชายของตนเองต้องตกเป็นจำเลยว่าไม่เข้าใจว่าทำไมหลายๆ คนต้องมาต่อว่าพี่ชายตนเองทั้งๆ ที่หลายคนก็ไม่รู้ว่าความจริงเป็นเช่นไร กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงไม่มีใครอยากให้ใครต้องมาเสียชีวิตอยู่แล้ว ที่ผ่านมาพี่ชายก็ไม่เคยทำเรื่องเสียหาย และการเลิกกันครั้งนี้ก็เจ็บด้วยกันทั้งสองฝ่าย
***สบส.ฟันธงคลิปแตงโมผิดกม.
วานนี้ (7 ก.ค.) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวถึงคลิปดาราสาว "แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์" ขณะเจ้าตัวกำลังอยู่ในโรงพยาบาลสภาพกำลังร่ำไห้โดยไร้สติ ระหว่างกำลังช่วยชีวิตจากการกินยาฆ่าตัวตาย ว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความลับของผู้ป่วย ถ้าเอามาเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือทำให้ได้รับความเสียหาย ถือว่าผิดกฎหมาย เป็นความลับส่วนบุคคล ผู้ใดจะนำไปเปิดเผยไม่ได้ เว้นแต่เป็นไปตามความประสงค์ของบุคคลนั้นโดยตรง หรือมีกฎหมายเฉพาะบัญญัติให้ต้องเปิดเผย หากฝ่าฝืนต้องโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ความผิดนี้สามารถยอมความได้ หากดาราสาวไม่ฟ้องร้องก็ไม่สามารถเอาผิดได้
อย่างไรก็ตาม ตามปกติแล้วสถานพยาบาลจะมีมาตรการดูแลไม่ให้มีการถ่ายภาพ ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นจะให้เจ้าหน้าที่ สบส.ประสานกับ รพ.เอกชนดังกล่าวเพื่อให้ชี้แจงว่าปล่อยให้มีการถ่ายคลิปขณะทำการรักษาได้อย่างไร สถานพยาบาลมีส่วนรู้เห็นหรือไม่ หรือว่าเป็นการแอบถ่าย ซึ่งหากเป็นการแอบถ่าย รพ.อาจจะเป็นผู้เสียหายโดยตรง แต่หาก รพ.มีส่วนรู้เห็นเป็นใจก็ถือว่ามีความผิดตามมาตรา 323 ประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งผู้เสียหายสามารถฟ้องได้
***จิตแพทย์ชี้กรณี "แตงโม" อยู่ในจุดอ่อนแอ
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงเรื่องของดาราสาวนั้นว่า เป็นสัญญาณหนึ่งที่บอกว่าบุคคลดังกล่าวอยู่ในจุดที่อ่อนแอ อ่อนล้า และต้องการความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง ซึ่งสาเหตุในการทำร้ายตัวเองมี 3 สาเหตุคือ 1.ภาวะอารมณ์ที่อ่อนไหวมากๆ 2.ความเครียด และ 3.กลุ่มโรคซึมเศร้า
ตกเป็นข่าวช็อควงการกรณีหวังปลิดชีพตัวเองด้วยการกินยานอนหลับและกรีดข้อมือโชคดีที่แพทย์ช่วยชีวิตไว้ได้ทัน ล่าสุดช่วงเย็นวันวานทางนักแสดงสาว "แตงโม ภัทรธิดา" พร้อมบิดา "นายโสภณ พัชรวีระพงษ์" และ “นพ.คมสัน อังคณานุพงศ์” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรม รพ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น ก็ได้ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว
ทั้งนี้นักแสดงสาวซึ่งร้องไห้อยู่ตลอดเวลาได้เปิดเผยถึงสาเหตุที่ตัดสินใจคิดสั้นว่าเป็นเพราะชีวิตคู่กับสามีหนุ่ม "โตโน่ ภาคิน" นั้นไม่สวยงามและเป็นไปตามที่ตนเองคิดไว้ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาตนและอีกฝ่ายต่างก็พยายามที่จะปรับตัวเพื่อใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว แต่สุดท้ายก็เป็นไปไม่ได้ ก่อนที่ฝ่ายชายจะตัดสินใจเดินจากไปซึ่งทำให้ตนรู้สึกเสียใจและสับสนเพราะตนทุ่มเทให้กับความรักครั้งนี้มาก ประกอบกับตนเป็นโรคซึมเศร้าอยู่แล้ว พอมาเจอเรื่องเช่นนี้ก็เลยเกิดอาการคิดสั้นขึ้นมา
"การที่ได้รับคำพูดหรือเหตุการณ์สถานการณ์ในช่วงนี้หนักมาก ภายนอกเหมือนจะรับไหว แต่ข้างในอ่อนแอมาก ไม่อยากเล่าให้ใครฟังแม้แต่พ่อเลยเก็บไว้คนเดียวตลอดเวลา เลยขาดความยั้งคิด เป็นอารมณ์ชั่ววูบด้วยความน้อยใจเลยขาดสติ คิดว่าไม่อยากจะอยู่รับอะไรหลายๆ เรื่อง...ตลอดระยะเวลาที่ห่างกันมันคลุมเครือก่อนที่จะห่างกันมันมีเรื่องของชีวิตคู่ที่ไม่เข้าใจกัน เราพยายามปรับกันแล้ว แต่ก็เป็นไปไม่ได้"
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าหลังเกิดเรื่องฝ่ายชายหรือครอบครัวได้ติดต่อเข้ามาบ้างหรือไม่? นางเอกดังส่ายหน้า ก่อนเผยว่า ตนยังไม่กล้าพูดอะไรมาก สภาพจิตใจตอนนี้มันยังสับสนอยู่หลายอย่างว่าตนควรจะตัดใจอย่างไร ตนสับสน พยายามทำทุกวิถีทางให้เขากลับมา พยายามบอกเขาว่าพร้อมเสมอ ทำทุกอย่างแล้วจริง ๆ จนถึงวันนี้ตนไม่เคยไม่รักเขา ยังรักเขาอยู่ถึงตอนนี้
" ตั้งแต่เขาออกไปเขาไม่เคยคิดต่อกลับมาอีกเลย เราติดต่อไปส่งไลน์ไปเขาก็ไม่ตอบกลับเป็นเวลา 2 เดือน ทุกครั้งที่เราให้สัมภาษณ์เราห่างกันแต่ยังไม่มีใครพูดว่าหย่าร้างจากปาก ตนก็ไม่รู้จะเชื่อจะตัดสินใจยังไง ในชีวิตคริสเตียน ผู้หญิงคนหนึ่งแต่งงานกับผู้ชายแล้ว เรามอบชีวิตให้พระเจ้า ผู้หญิงไม่สามารถจะไปมีครอบครัวใหม่ได้ ตนยึดถือคำนี้และไม่คิดจะมีใคร ตนผิดพลาดเองที่คิดว่าเขาจะเชื่อเหมือนตน คิดว่าเราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกครั้ง"
นอกจากนี้ เจ้าตัวยังขอโทษไปยังทางโรงพยาบาลที่มีรูปและคลิปหลุดออกไปจากเพื่อนสนิท โดยบอกว่าต้องขอโทษแทนเพื่อน เพราะตอนตนเข้ามาก็ไม่รู้สึกตัวแล้ว ควบคุมอะไรไม่ได้ ตอนนี้ก็ให้เพื่อนลบออก เพราะจะเกิดผลเสียต่อโรงพยาบาล
ด้านบิดาของนักแสดงสาวได้ กล่าวว่า หลังจากเหตุการณ์เมื่อคืนโตโน่ได้โทรศัพท์ติดต่อมา แต่พ่อไม่รับสาย เขามาพ่อก็ต้อนรับ ในเมื่อเขาออกไปก็ออกไป ไม่เป็นไร
ขณะที่ทางนายแพทย์มสัน ระบุถึงอาการของนักแสดงสาวตอนที่มาถึงโรงพยาบาลว่า เจ้าตัวรู้สึกตัวน้อยมากซึ่งเป็นผลมาจากยา ส่วนแผลจากการกรีดข้อมือค่อนข้างตื้นเหมือนรอยถลอก ส่วนอาการของนักแสดงสาวในตอนนี้ปลอดภัยแล้ว แต่ยังมีโรคทางด้านจิตใจ โรคซึมเศร้า ซึ่งต้องเน้นที่การดูแลรักษาจิตใจเป็นหลักและหลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือน
ส่วนของความเคลื่อนไหวในโลกโซเชียลเองได้มีนักแสดงหลายคนเข้ามาแสดงความเห็นใจ ให้กำลังใจรวมถึงเตือนสตินักแสดงสาวกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นในรายของ อ้วน รีเทิร์น, เปิ้ล ไอริณ, ดีเจพี่อ้อย นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล ฯ ขณะที่น้องสาวแท้ๆ ของหนุ่ม "โตโน่" อย่าง "ต้องตา แสงรวี คำวิลัยศักดิ์" ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุคระบายความในใจหลังพี่ชายของตนเองต้องตกเป็นจำเลยว่าไม่เข้าใจว่าทำไมหลายๆ คนต้องมาต่อว่าพี่ชายตนเองทั้งๆ ที่หลายคนก็ไม่รู้ว่าความจริงเป็นเช่นไร กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงไม่มีใครอยากให้ใครต้องมาเสียชีวิตอยู่แล้ว ที่ผ่านมาพี่ชายก็ไม่เคยทำเรื่องเสียหาย และการเลิกกันครั้งนี้ก็เจ็บด้วยกันทั้งสองฝ่าย
***สบส.ฟันธงคลิปแตงโมผิดกม.
วานนี้ (7 ก.ค.) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวถึงคลิปดาราสาว "แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์" ขณะเจ้าตัวกำลังอยู่ในโรงพยาบาลสภาพกำลังร่ำไห้โดยไร้สติ ระหว่างกำลังช่วยชีวิตจากการกินยาฆ่าตัวตาย ว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความลับของผู้ป่วย ถ้าเอามาเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือทำให้ได้รับความเสียหาย ถือว่าผิดกฎหมาย เป็นความลับส่วนบุคคล ผู้ใดจะนำไปเปิดเผยไม่ได้ เว้นแต่เป็นไปตามความประสงค์ของบุคคลนั้นโดยตรง หรือมีกฎหมายเฉพาะบัญญัติให้ต้องเปิดเผย หากฝ่าฝืนต้องโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ความผิดนี้สามารถยอมความได้ หากดาราสาวไม่ฟ้องร้องก็ไม่สามารถเอาผิดได้
อย่างไรก็ตาม ตามปกติแล้วสถานพยาบาลจะมีมาตรการดูแลไม่ให้มีการถ่ายภาพ ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นจะให้เจ้าหน้าที่ สบส.ประสานกับ รพ.เอกชนดังกล่าวเพื่อให้ชี้แจงว่าปล่อยให้มีการถ่ายคลิปขณะทำการรักษาได้อย่างไร สถานพยาบาลมีส่วนรู้เห็นหรือไม่ หรือว่าเป็นการแอบถ่าย ซึ่งหากเป็นการแอบถ่าย รพ.อาจจะเป็นผู้เสียหายโดยตรง แต่หาก รพ.มีส่วนรู้เห็นเป็นใจก็ถือว่ามีความผิดตามมาตรา 323 ประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งผู้เสียหายสามารถฟ้องได้
***จิตแพทย์ชี้กรณี "แตงโม" อยู่ในจุดอ่อนแอ
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงเรื่องของดาราสาวนั้นว่า เป็นสัญญาณหนึ่งที่บอกว่าบุคคลดังกล่าวอยู่ในจุดที่อ่อนแอ อ่อนล้า และต้องการความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง ซึ่งสาเหตุในการทำร้ายตัวเองมี 3 สาเหตุคือ 1.ภาวะอารมณ์ที่อ่อนไหวมากๆ 2.ความเครียด และ 3.กลุ่มโรคซึมเศร้า