xs
xsm
sm
md
lg

รู้แล้วจะอึ้ง! “แชทแล้วขับ” โอกาสตายมากกว่า “เมาแล้วขับ” เสียอีก เรื่องเล็กๆ อาจที่ต้องแลกด้วยชีวิต [ชมคลิป]

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ขับไปแชทไปไม่เป็นไรหรอกน่า”
“รถติดๆ อย่างนี้ อยู่ว่างๆ จะให้ทำอะไร หยิบโทรศัพท์มาเล่นเฟซฯ คุยไลน์สักหน่อย ใครเขาก็ทำกัน”
“งานด่วน เรื่องสำคัญ พิมพ์ตอบตอนนี้แหละ!”


คุณรู้ไหมว่า วัยรุ่นอเมริกันตายขณะ “แชทตอนขับรถ” มากกว่า “เมาแล้วขับ” โดยตัวเลขดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมาเมื่อปี 2556 รายละเอียดระบุว่า จากรายงานวิจัยโดยศูนย์การแพทย์เด็กโคเฮน ที่นิว ไฮเดปาร์ก รัฐนิวยอร์ก พบว่าวัยรุ่นชาวอเมริกันมากกว่า 3,000 รายต่อปี ถูกคร่าชีวิตขณะแชทส่งข้อความขณะขับรถมากกว่า สาเหตุจากการเมาแล้วขับที่มีจำนวนยอดวัยรุ่นเสียชีวิตประมาณ 2,700 รายต่อปี เสียอีก

สาเหตุก็คือ มีการศึกษามาแล้วว่า การพิมพ์ข้อความในโทรศัพท์มือถือระหว่างขับรถนั้น ผู้ขับขี่จะละสายตาจากถนนเฉลี่ยนานถึง 4.6 วินาที หรือ เปรียบเทียบได้กับการปิดตาขับรถเป็นระยะทาง 100 เมตร (ที่ความเร็วรถ 80 กม./ชม.) ขณะเดียวกันก็มีสถิติที่น่าสนใจ ยืนยันว่าการพิมพ์ข้อความขณะขับรถมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุมากกว่าขับขี่ปกติ 23 เท่า หรืออันตรายกว่าการเมาแล้วขับถึง 6 เท่า!

ในส่วนของประเทศไทยเอง ทุกวันนี้สังเกตได้ชัดว่าผู้คนติดการใช้สมาร์ทโฟนอย่างงอมแงม แม้ในขณะการขับขี่ยานพาหนะ โดยเมื่อเดือนพฤษภาคม 2558 ที่ผ่านมา มีผลการศึกษาระบุว่า คนไทยมากกว่าร้อยละ 40 เล่นไลน์ และ/หรือเฟซบุ๊กขณะขับรถ โดยพฤติกรรมดังกล่าวส่งผลให้ภาครัฐต้องออกมาตรการทั้งจับและปรับสำหรับคนชอบโทรและแชทระหว่างขับรถ แต่ก็ดูว่าจะไม่ได้ช่วยทำให้พฤติกรรมดังกล่าวบรรเทาเบาบางลง

จากสถานการณ์ดังกล่าว เจ้าพระยาประกันภัยจึงเล็งเห็นความสำคัญในการรณรงค์ให้ทุกคนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และตระหนักถึงอันตราย ของการแชทขณะขับรถ ที่เกิดอันตรายถึงชีวิต โดยเพียงเราละสายตาพิมพ์ด้วยความประมาทไม่กี่วินาทีก็อาจเกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันขึ้นได้



นาย ธกร เลาหพงศ์ชนะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง แคมเปญรณรงค์ นี้ว่า “เราอยากเป็นส่วนหนึ่งให้คนหันมาให้ความสนใจ กับเรื่องความประมาทที่ทุกวันนี้ เราแชทและขับรถไปด้วย จนเป็นความเคยชิน อยากให้มีสติและหยุดแชทขณะขับรถเพราะจะเกิดการสูญเสียที่ไม่น่าเกิดแก่ตัวเองและผู้อื่น” โดยหวังผลว่ากลุ่มเป้าหมาย ทั้งผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนที่เห็นหนังเรื่องนี้จะตระหนักและหยุดคิดพิจารณาตัวเองบ้างไม่มากก็น้อยและมีผลในการเปลี่ยนพฤติกรรม

“อย่าให้คำพูดสุดท้ายระหว่างคุณกับคนที่คุณรักอยู่บนมือถือ” …หากคุณมีคนที่ใกล้ชิดโปรดส่งต่อ บอกเตือนด้วยความห่วงใย

อ้างอิงจาก
[1] การศึกษาชี้ : วัยรุ่นอเมริกันตายขณะ “แชตเฟซบุ๊กตอนขับรถ” มากกว่า “เมาแล้วขับ”
[2] แชทระหว่างขับรถอันตรายกว่าเมาแล้วขับถึง 6 เท่า
[3] ฟอร์ดเผยคนไทยกว่า40%เล่นไลน์-เฟซบุ๊กขณะขับรถ

(พื้นที่ประชาสัมพันธ์)

กำลังโหลดความคิดเห็น