หมอผิวหนังยัน “ยารักษาสิว” ไม่มีฤทธิ์ทำให้ตายเฉียบพลัน เหตุเป็นกลุ่มยาปฏิชีวนะ หากเกิดอาการแพ้มักไม่รุนแรง กรดวิตามินเอสังเคราะห์ ต้องกินระยะยาวจึงเกิดความผิดปกติที่ตับ และยาปรับฮอร์โมน ส่วนใหญ่มักเกิดฝ้า อ้วน บวม ชี้รอผลการชันสูตร
นพ.จินดา โรจนเมธินทร์ รองผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวถึงกรณีข้อสงสัยยาสิวทำให้เสียชีวิต หลังพบหนุ่มแบงก์เสียชีวิตภายในอพาร์ตเมนต์โดยมีผลิตภัณฑ์รักษาสิวจำนวนมากภายในห้องพัก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งสืบสวนและชันสูตรหาสาเหตุการตาย ว่า คงต้องทราบชื่อยาที่ชัดเจนที่ผู้ตายรับประทาน และควรรอฟังจากแพทย์ชันสูตร แต่เบื้องต้นข้อสงสัยในเรื่องยาและผลิตภัณฑ์รักษาสิวว่าจะเป็นสาเหตุให้เกิดการเสียชีวิตแบบฉับพลันนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะโดยทั่วไปยากลุ่มรักษาสิว จะเป็นยากลุ่มยาปฏิชีวนะ กรดวิตามินเอสังเคราะห์ และยาปรับฮอร์โมน ซึ่งยาในกลุ่มนี้ถือว่ามีอัตราการแพ้ต่ำ อย่างไรก็ตาม ข้อควรระวังในกลุ่มยารักษาสิว ขึ้นอยู่กับชนิดของยา คือ หากเป็นยาปฏิชีวนะ อาจจะมียาเพนนิซิลินผสมอยู่ ซึ่งเป็นส่วนที่จะทำให้เกิดอาการแพ้ได้ แต่อาการแพ้ที่เกิดจากยาปฏิชีวนะจะไม่รุนแรงมาก โดยทั่วไปจะเป็นอาการผื่น บวมแดง ที่ผิวหนัง หรือ ปาก แต่ไม่ได้รุนแรงถึงขั้นทำให้เกิดหัวใจล้มเหลวได้ การกินยาปฏิชีวนะจึงต้องทราบว่าตัวเองแพ้ยาหรือไม่
นพ.จินดา กล่าวว่า ส่วนกรดวิตามินเอสังเคราะห์นั้น ไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายเฉียบพลัน ส่วนใหญ่จะเป็นอันตรายในกรณีรับประทานระยะยาว เพราะยาจะถูกขับไปที่ตับ การกินติดต่อกันโดยไม่มีการตรวจวัดค่าความผิดปกติที่ตับ ก็อาจก่อให้เกิดอาการตับอักเสบได้ ส่วนยาปรับฮอร์โมนนั้น ผลข้างเคียงโดยส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของอาการฝ้าขึ้น หรือ อ้วน บวม จากการใช้ยาเท่านั้น หากสันนิษฐานจากกลุ่มผลิตภัณฑ์รักษาสิวเบื้องต้น ถือเป็นกลุ่มยาที่ไม่ได้มีอันตรายรุนแรงหรือผลข้างเคียงสูงจนทำให้เสียชีวิตฉับพลันได้ จึงต้องใช้วิธีการชันสูตรจึงจะทราบแน่ชัดว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากประเด็นใด แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ต้องการรักษาสิวด้วยวิธีการกินยา หากจะให้แน่ใจก็ควรปรึกษาแพทย์และกินยาภายใต้คำแนะนำของแพทย์อย่างถูกวิธี
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.จินดา โรจนเมธินทร์ รองผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวถึงกรณีข้อสงสัยยาสิวทำให้เสียชีวิต หลังพบหนุ่มแบงก์เสียชีวิตภายในอพาร์ตเมนต์โดยมีผลิตภัณฑ์รักษาสิวจำนวนมากภายในห้องพัก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งสืบสวนและชันสูตรหาสาเหตุการตาย ว่า คงต้องทราบชื่อยาที่ชัดเจนที่ผู้ตายรับประทาน และควรรอฟังจากแพทย์ชันสูตร แต่เบื้องต้นข้อสงสัยในเรื่องยาและผลิตภัณฑ์รักษาสิวว่าจะเป็นสาเหตุให้เกิดการเสียชีวิตแบบฉับพลันนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะโดยทั่วไปยากลุ่มรักษาสิว จะเป็นยากลุ่มยาปฏิชีวนะ กรดวิตามินเอสังเคราะห์ และยาปรับฮอร์โมน ซึ่งยาในกลุ่มนี้ถือว่ามีอัตราการแพ้ต่ำ อย่างไรก็ตาม ข้อควรระวังในกลุ่มยารักษาสิว ขึ้นอยู่กับชนิดของยา คือ หากเป็นยาปฏิชีวนะ อาจจะมียาเพนนิซิลินผสมอยู่ ซึ่งเป็นส่วนที่จะทำให้เกิดอาการแพ้ได้ แต่อาการแพ้ที่เกิดจากยาปฏิชีวนะจะไม่รุนแรงมาก โดยทั่วไปจะเป็นอาการผื่น บวมแดง ที่ผิวหนัง หรือ ปาก แต่ไม่ได้รุนแรงถึงขั้นทำให้เกิดหัวใจล้มเหลวได้ การกินยาปฏิชีวนะจึงต้องทราบว่าตัวเองแพ้ยาหรือไม่
นพ.จินดา กล่าวว่า ส่วนกรดวิตามินเอสังเคราะห์นั้น ไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายเฉียบพลัน ส่วนใหญ่จะเป็นอันตรายในกรณีรับประทานระยะยาว เพราะยาจะถูกขับไปที่ตับ การกินติดต่อกันโดยไม่มีการตรวจวัดค่าความผิดปกติที่ตับ ก็อาจก่อให้เกิดอาการตับอักเสบได้ ส่วนยาปรับฮอร์โมนนั้น ผลข้างเคียงโดยส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของอาการฝ้าขึ้น หรือ อ้วน บวม จากการใช้ยาเท่านั้น หากสันนิษฐานจากกลุ่มผลิตภัณฑ์รักษาสิวเบื้องต้น ถือเป็นกลุ่มยาที่ไม่ได้มีอันตรายรุนแรงหรือผลข้างเคียงสูงจนทำให้เสียชีวิตฉับพลันได้ จึงต้องใช้วิธีการชันสูตรจึงจะทราบแน่ชัดว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากประเด็นใด แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ต้องการรักษาสิวด้วยวิธีการกินยา หากจะให้แน่ใจก็ควรปรึกษาแพทย์และกินยาภายใต้คำแนะนำของแพทย์อย่างถูกวิธี
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
