ครั้งแรกของโลก! ขับรถตุ๊กตุ๊ก ใช้พลังงานไฟฟ้า และพลังงานแสงอาทิตย์ จากกรุงเทพฯ สู่ฝรั่งเศส ผลงานของ นศ. ชาวฝรั่งเศส วิทยาลัยการจัดการ มม. หลักสูตร Double Degree ระยะทางประมาณ 20,000 กิโลเมตร ตะลุย 16 ประเทศ 120 วัน ขณะที่ รองอธิการบดี มม. ชี้ มม. ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม ตั้งเป้าเป็น Eco University และมุ่งสู่ Mahidol Sustainable University
วันนี้ (28 พ.ค.)ที่อาคารวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (มม.) เปิดตัวโครงการ Pilgreens project ของ 2 นักศึกษาหลักสูตร Double Degree ชาวฝรั่งเศส ระหว่างวิทยาลัยการจัดการ มม. กับวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยตูลูส ประเทศฝรั่งเศส โดยนักศึกษาทั้ง 2 คน จะขับรถตุ๊กตุ๊กพลังไฟฟ้า และพลังงานแสงอาทิตย์ คันแรกของโลก ซึ่งจะออกเดินทางจากกรุงเทพมหานคร ไปยังเมืองตูลูส ประเทศฝรั่งเศส ในวันที่ 10 มิถุนายน - 10 ตุลาคม 2558 ใช้เวลา 120 วัน ผ่าน 16 ประเทศ อาทิ ไทย ลาว จีน รัสเซีย ตรุกี ออสเตรีย เยอรมนี และ ฝรั่งเศส รวมระยะทาง 20,000 กิโลเมตร
รศ.นพ.ปรีชา สุนทรานนท์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มม. กล่าวว่า มม. ให้ความสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมา ได้ดำเนินการนโยบายต่างๆ เพื่อทำหน้าที่ดูแลสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงาน เช่น ดำเนินการมหาวิทยาลัยได้มีนโยบาย เช่น การเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว โดยเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในมหาวิทยาลัยอย่างจริงจัง จนทำให้ในปี 2556 มม. ได้รับการคัดเลือกเป็นสถาบันการศึกษาสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อันดับ 1 ของประเทศไทย อันดับ 4 ของเอเชีย และอันดับ 31 ของโลก รวมถึงได้พยายามส่งเสริสนับสนุนบุคลากรและนักศึกษาให้หันมาใช้พลังงานไฟฟ้า น้ำ และเชื้อเพลิงอย่างคุ้มค่า ดังนั้น มม. ในฐานะมหาวิทยาลัยที่มีบทบาทในการช่วยชี้นำสังคม จึงได้สนับสนุนโครงการดังกล่าว เพื่อเป็นการเผยแพร่ ส่งเสริมให้เห็นถึงประโยชน์ในการใช้พลังงานไฟฟ้า กระตุ้นให้เกิดการเห็นคุณค่าในการใช้พลังงานอย่างประหยัด คุ้มค่าโดยใช้ระบบความรู้ เข้ามาบริหารจัดการ โดย มม. ตั้งเป้าเป็น Eco University และมุ่งสู่ Mahidol Sustainable University
“โครงการดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เกิดจากนักศึกษาของ มม. แม้พวกเขาจะเป็นนักศึกษาจากประเทศฝรั่งเศส แต่การได้มาเรียนที่ มม. ซึ่งมีการบริการหลักสูตร กิจกรรม ส่งเสริมการลดใช้พลังงาน และรู้จักใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า ทำให้พวกเขาเกิดแนวคิดใส่ใจปัญหาสิ่งแวดล้อม และยังเป็นการประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ให้คนไทยและคนต่างชาติในแต่ละประเทศที่พวกเขาเดินทางเข้าใจและตระหนักในการดูแลใส่ใจสิ่งแวดล้อม และการใช้พลังงานทดแทน จึงอยากฝากคนไทยทุกคนติดตามและให้กำลังใจนักศึกษามม.ที่เดินทางโดยรถตุ๊กตุ๊กพลังงานไฟฟ้าและพลังงานแสงอาทิตย์ในครั้งนี้” รศ.นพ.ปรีชา กล่าว
ด้าน รศ.ดร.อรรณพ ตันละมัย คณบดีวิทยาลัยการจัดการ มม. กล่าวว่า วิทยาลัยการจัดการ ได้จัดการเรียนการสอนในระดับปริญญาโท ซึ่งโครงการนี้ เป็นหลักสูตร Double Degree ความร่วมมือระหว่าง มม. กับ มหาวิทยาลัยตูลูส ที่ได้ร่วมกันจัดการเรียนการสอน การเรียนรู้ผ่านกรณีศึกษา เพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความต้องการที่จะศึกษาค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม นำมาคิดวิเคราะห์แก้ปัญหา ซึ่งไม่ใช่การเรียนรู้เพียงองค์ความรู้เท่านั้น แต่ให้นักศึกษาได้รู้จักคิด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และนำสิ่งที่เรียนรู้ประยุกต์ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น
นายลูดวิก แมร์ส นักศึกษาหลักสูตร Double Degree กล่าวว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาสำคัญที่ทุกคนในโลกต้องช่วยกัน ไม่เช่นนั้นอาจต้องเผชิญปัญหาภัยพิบัติอีกมากมาย โดยเฉพาะการใช้รถของผู้คนที่นับวันจะปล่อยมลพิษจากการใชัพลังงานเชื้อเพลิงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งพวกเราเห็นรถตุ๊กตุ๊กของไทยและเกิดไอเดียว่าจะพัฒนาเป็นรถตุ๊กตุ๊กพลังงานไฟฟ้า และ พลังงานแสงอาทิตย์ และขับจากประเทศไทยไปประเทศฝรั่งเศส จึงเสนอไปยังมหาวิทยาลัย และรู้สึกดีใจที่มหาวิทยาลัยสนับสนุน เพราะการขับรถตุ๊กตุ๊กครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงเผยแพร่ความเป็นไทยผ่านรถตุ๊กตุ๊กเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงให้คนทั่วโลกได้เห็นว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีจะช่วยให้มนุษย์สามารถใช้พลังงานสะอาดได้อย่างมี ประสิทธิภาพ
“กว่า 1 ปีที่มาเรียนที่วิทยาลัยฯได้ส่งเสริมให้ผู้เรียน เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง ผมและเพื่อนชาวฝรั่งเศสจึงได้เริ่มโครงการดังกล่าว เพื่อพิสูจน์และสำรวจว่าคนทั่วโลกมีความเข้าใจและสนใจการใช้รถพลังงานไฟฟ้า และพลังงานแสงอาทิตย์อย่างไร เป็นไปได้หรือไม่ที่จะใช้รถพลังงานไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์ข้ามประเทศ รวมถึงทำให้คนทั่วโลกตระหนัก และหันมาสนใจการใช้พลังงานทดแทนพลังงานเชื้อเพลิงที่ลดน้อยลงเรื่อยๆ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ไม่ต้องเผชิญมลภาวะที่ส่งผลต่อสุขภาพ และที่สำคัญ จะช่วยยืนยันว่าสามารถนำพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในการเดินทางคมนาคมขน ส่งได้จริง”นายลูดริก กล่าว
ทั้งนี้ สำหรับรถตุ๊กตุ๊กพลังงานไฟฟ้า และ พลังงานแสงอาทิตย์ ครั้งแรกของโลกที่เดินทางจากกรุงเทพฯไปฝรั่งเศส ได้มีการติดตั้งแผนโซลาร์เซลล์บนหลังคารถ โดยกักเก็บไว้ในแบตเตอรีลิเธียม 72 โวลต์ ความจุ 30 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง สามารถเดินทางได้ 200 กิโลเมตรต่อการชาร์ตไฟ 1 ครั้ง (6 - 8 ชั่วโมง) คิดเป็นค่าไฟ 0.7 บาทต่อกิโลเมตร หรือ 14,000 บาท ตลอดการเดินทาง ซึ่งนักศึกษาผู้เดินทางครั้งนี้ เชื่อว่า ด้วยการเตรียมพร้อมทั้งด้านการซ่อมบำรุง ความปลอดภัย การเดินทางจากกรุงเทพฯถึงฝรั่งเศส จะตรงตามวันที่กำหนดอย่างแน่นอน ติดตามให้กำลังใจนักศึกษากลุ่มนี้ ได้ที่ www.cmmu.mahidol.ac.th
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่