xs
xsm
sm
md
lg

เร่งสร้าง “ทีมเมิร์ต” รองรับภัยพิบัติในไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สธ. เร่งอบรมทีมฉุกเฉินภัยพิบัติ “ทีมเมิร์ต” รองรับภัยพิบัติในไทย โดยมีแล้ว 45 ทีม ตั้งเป้าให้ครบ 77 ทีม ในปี 2559 สามารถลงพื้นที่ช่วยเหลือได้ 6 - 12 ชั่วโมง

วันนี้ (25 พ.ค.) นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รักษาการปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเปิดอบรมบุคลากรแพทย์และสาธารณสุข หลักสูตรการพัฒนาชุดปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ในภาวะภัยพิบัติ หรือ ทีมเมิร์ต ว่า ขณะนี้ทั่วโลกประสบปัญหาภัยพิบัติบ่อยครั้งขึ้น เช่น แผ่นดินไหว น้ำท่วม ดินถล่ม คลื่นสึนามิ เป็นภาวะฉุกเฉินที่มีผลต่อการเจ็บป่วยและเสียชีวิตเป็นจำนวนมากในเวลาเดียวกัน สธ. จึงได้วางระบบเพื่อเตรียมพร้อมรับมือ เพื่อลดความสูญเสียชีวิตหากประเทศไทยเกิดภัยพิบัติ โดยมอบให้กรมการแพทย์เป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาทีมเมิร์ตมาตรฐานสากล ทั้งด้านบุคลากร เครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์การแพทย์ สามารถออกเดินทางไปปฏิบัติภารกิจ เมื่อได้รับการร้องขอจากพื้นที่ประสบภัย หรือ การสั่งการจากผู้บังคับบัญชา และจัดบริการรักษาพยาบาลระดับตติยภูมิได้ภายใน 6 - 12 ชั่วโมง

นพ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีทีมเมิร์ต 45 ทีม ประกอบด้วย ทีมจากโรงพยาบาลต่างๆ 36 ทีม โรงพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์ 6 ทีม โรงพยาบาลทหาร 1 ทีม ซึ่งได้ผ่านการอบรมครบทั้งภาคทฤษฎีและภาคสนามแล้ว แต่ยังมีอีก 12 ทีม ที่ผ่านการอบรมภาคทฤษฎีแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการอบรมภาคปฏิบัติ โดยตั้งเป้าจะอบรมให้ครบทั้งประเทศ ภายในปี 2559 โดยจะมีทีมเมิร์ตประจำทุกเขตสุขภาพ รวม 77 ทีม ทั้งนี้ ทีมเมิร์ต 1 ชุด ประกอบด้วย บุคลากรทางการแพทย์ 17 คน คือ แพทย์ 2 คน พยาบาลฉุกเฉิน 4 คน เจ้าหน้าที่กู้ชีพหรือเวชกรฉุกเฉิน 6 คน เภสัชกร 1 คน ที่เหลือเป็นเจ้าหน้าที่สนับสนุนอื่นๆ เช่น การสื่อสาร สามารถอยู่ได้ด้วยตนเองโดยไม่รบกวนทรัพยากรท้องถิ่น และสามารถประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการนำส่งตัวผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง

นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ทีมเมิร์ตเป็นบุคลากรที่มีจิตอาสา สามารถดำรงชีพอยู่ในพื้นที่ประสบภัยพิบัติ ไม่รบกวนทรัพยากรของท้องถิ่น โดยจะเข้าพื้นที่พร้อมยา เวชภัณฑ์ รวมทั้งมีอุปกรณ์ที่จำเป็น และสามารถคัดแยก ดูเเลรักษา ช่วยชีวิตขั้นต้นแก่ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต พร้อมกันจำนวนมากให้ปลอดภัย สามารถส่งต่อไปยังโรงพยาบาลได้

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น