สธ. ออกประกาศให้ “เครื่อง AED” ช่วยคนหัวใจวาย เป็นการปฐมพยาบาลเบื้องต้น คนทั่วไปสามารถใช้ช่วยชีวิตคนป่วยได้ โดยไม่ต้องกลัวการถูกฟ้องร้องหรือมีความผิด หากช่วยไม่สำเร็จ ด้านเลขาธิการ สพฉ. ระบุใช้เครื่อง AED โอกาสรอดมากกว่าใช้มือปั๊มหัว 10 เท่า
นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา คณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉินได้ออกประกาศ เรื่อง กำหนดให้การใช้เครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้าแบบอัตโนมัติเป็นการปฐมพยาบาล พ.ศ. 2558 ซึ่งได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว มีผลตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค.2558 เป็นต้นไป ซึ่งการมีประกาศนี้ส่งผลดีในแง่ที่จะช่วยให้คนไทยกล้าที่จะใช้เครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator : AED) มากขึ้น เพราะถือเป็นการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ซึ่งการใช้มือปั๊มหัวใจมีโอกาสรอด 5% แต่หากใช้เครื่อง AED โอกาสรอดถึง 50%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประกาศดังกล่าวลงนามโดย นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2558 ที่สาระสำคัญคือ กำหนดให้การปฐมพยาบาล หมายความว่า การปฏิบัติการฉุกเฉินที่เริ่มต้นกระทำเพื่อรักษาชีวิตหรือช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน ขณะรอคอยปฏิบัติการการแพทย์จากผู้ประกอบวิชาชีพ หรือผู้ช่วยเวชกรรม ซึ่งต้องไม่มีการทำหัตถการในร่างกายเว้นแต่การให้ยาสามัญประจำบ้านหรือยาของผู้ป่วยตามที่แพทย์สั่งไว้ และหมายรวมถึงการแจ้งการเจ็บป่วยฉุกเฉิน การปฏิบัติการฉุกเฉินที่กระทำตามคำแนะนำของแพทย์หรือผู้ช่วยเวชกรรม และการช่วยบุคลากรสาธารณสุขที่ปฏิบัติการฉุกเฉิน ณ ที่เกิดเหตุการณ์และขณะเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน รวมทั้งการกระทำอื่นใดที่คณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉิน (กพฉ.) กำหนดเพิ่มให้เป็นการปฐมพยาบาล ดังนั้น เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินได้อย่างทันที จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 และ มาตรา 29 แห่ง พ.ร.บ.การแพทย์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2551 คณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉินจึงมีมติ ให้ออกประกาศให้การใช้เครื่อง AED เป็นการปฐมพยาบาล ทั้งนี้ ตั้งแต่วันถัดจากวันประเทศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุที่ประชาชนไม่ยอมใช้เครื่อง AED เพราะมองว่าเป็นเครื่องมือสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และหากช่วยไม่สำเร็จ ก็เกรงว่าจะมีความผิด อาจถูกฟ้องร้อง ซึ่งการออกประกาศดังกล่าวให้ถือเป็นการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก็จะช่วยให้ประชาชนกล้าใช้เครื่องมากขึ้น เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย และหากช่วยชีวิตไม่สำเร็จก็ไม่ถือว่ามีความผิดและจะไม่ถูกฟ้องร้องแต่อย่างใด
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่