อย. รับ “หัวเชื้อกลิ่นแมงดานา” ทำกล่องโฟมละลายได้จริงตามคลิป เหตุมีสว่นผสมของสารอินทรีย์ที่ทำให้โฟมละลายได้ ยันไม่เป็นอันตรายต่อการบริโภค หากใส่ปริมาณตามคำแนะนำบนฉลาก ชี้ใส่มากกลิ่นฉุน กินไม่ได้ แถมอันตราย
นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงกรณีการส่งต่อคลิปวิดีโอทางสังคมออนไลน์ เช่น ไลน์ และ เฟซบุ๊ก เกี่ยวกับการนำวัตถุแต่งกลิ่นรส “กลิ่นแมงดานา” หยดลงบนกล่องโฟมแล้วทำให้กล่องโฟมละลายได้ ว่า วัตถุแต่งกลิ่นรสกลิ่นแมงดานาจัดเป็นอาหารที่ต้องมีฉลากประเภทวัตถุแต่งกลิ่นรสตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 223) พ.ศ. 2544 เรื่อง วัตถุแต่งกลิ่นรส ซึ่งสารให้กลิ่นรสที่นำมาใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์จะต้องผ่านการประเมินความปลอดภัยก่อน และมีคุณภาพเป็นไปตามข้อกำหนดคุณภาพหรือมาตรฐาน ซึ่งจัดทำโดยคณะผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุเจือปนอาหารขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติและองค์การอนามัยโลก หรือมีรายชื่อปรากฏอยู่ในบัญชีของ FEMA ซึ่งเป็นองค์กรสากลที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการผลิตสารให้กลิ่นรส
นพ.ไพศาล กล่าวว่า ทั้งนี้ วัตถุแต่งกลิ่นรสกลิ่นแมงดานาได้จากการผสมของสารสำคัญในกลุ่มสารอินทรีย์ที่ให้กลิ่นรสหลายชนิดเข้าด้วยกัน โดยสารอินทรีย์เหล่านี้ มีคุณสมบัติทางเคมีที่สามารถทำให้โฟมละลายได้ เนื่องจากโฟมมีคุณสมบัติสามารถละลายได้ในตัวทำละลายอินทรีย์เกือบทุกชนิด อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคสามารถใช้วัตถุแต่งกลิ่นรสกลิ่นแมงดานาเป็นส่วนผสมในอาหารเพื่อเพิ่มกลิ่นรสได้ โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ หากใช้ตามคำแนะนำที่ระบุไว้บนฉลาก เพราะมีการใช้ในปริมาณที่น้อยมาก มิใช่การหยดหรือเทลงไปโดยตรงบนแผ่นโฟมในปริมาณมากดังที่ปรากฏในคลิปวิดีโอ
“การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์วัตถุแต่งกลิ่นรส ควรสังเกตรายละเอียดบนฉลากให้ครบถ้วน เช่น ชื่ออาหารระบุข้อความว่า “วัตถุแต่งกลิ่นรสธรรมชาติ” “วัตถุแต่งกลิ่นรสเลียนธรรมชาติ” หรือ “วัตถุแต่งกลิ่นรสสังเคราะห์” มีเลขสารบบอาหาร ระบุวัตถุประสงค์หรือประโยชน์ในการใช้พร้อมวิธีใช้ ปริมาณสุทธิของอาหาร ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิตหรือผู้แบ่งบรรจุ ชื่อและที่ตั้งของผู้นำเข้าและประเทศผู้ผลิต
ชนิดและปริมาณของสีที่ผสมในวัตถุแต่งกลิ่นรส (ถ้ามี) คำแนะนำในการเก็บรักษา (ถ้ามี) และวันเดือนและปีที่ผลิตหรือหมดอายุ พร้อมทั้งควรศึกษาวิธีใช้วัตถุแต่งกลิ่นรสที่แสดงบนฉลากให้เข้าใจ และใช้ให้ถูกต้องตามคำแนะนำที่ระบุไว้ (ดังภาพตัวอย่าง) ไม่ใส่ในปริมาณที่มากเกินไป เพราะนอกจากจะทำให้อาหาร มีกลิ่นฉุนรุนแรง ไม่สามารถรับประทานได้ ยังอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ด้วย” รองเลขาธิการ อย. กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่