“ชัยพฤกษ์” เรียก ผอ.วิทยาลัยกลุ่มเสี่ยงทั้งรัฐ - เอกชน ร่วมถกมาตรการป้องกันทะเลาะวิวาท พร้อมเน้นย้ำมาตรการห้ามรับนอกทั้งใน - นอกสถาบัน วันที่ 20 พ.ค. นี้ ลั่น สอศ. ประกาศชัดห้ามรับน้องเด็ดขาดทุกกรณี ส่วนเหตุวิวาทเมื่อช่วงค่ำวานนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าผู้ก่อเหตุเป็น นศ. สถาบันใด
วันนี้ (19 พ.ค.) นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุนักศึกษาอาชีวศึกษา ก่อเหตุทะเลาะวิวาทบริเวณใกล้ห้างฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต จังหวัดปทุมธานี ว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่าเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา บนรถโดยสารสาธารณะ (รถเมล์) ปอ.187 (รังสิตคลอง 3 - ท่าน้ำสี่พระยา) ที่กำลังมุ่งหน้าไปทางรังสิตคลอง 3 โดยระหว่างที่กำลังจะจอดรับผู้โดยสารที่ป้ายรถเมล์ก่อนถึงห้างฟิวเจอร์พาร์ค ซึ่งคนขับสังเกตเห็นว่าชายวัยรุ่นกลุ่มใหญ่ประมาณ 20 คน จึงตัดสินใจไม่เปิดประตูและขับรถออกไป และปรากฏว่า มีการขว้างวัตถุใส่รถเมล์คันดังกล่าว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุและเข้ามาตรวจสอบ พบว่า บนรถเมล์คันดังกล่าวพบนักศึกษาอาชีวะ จำนวน 4 คน เป็นนักศึกษาของวิทยาลัยเทคนิคดอนเมือง โดย 2 ใน 4 คน พกอาวุธมีดยาวด้วย จึงได้ควบคุมตัวและเรียกผู้ปกครองมารับตัว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะการตั้งใจเพื่อก่อเหตุวิวาทกันหรือไม่ หรือเป็นคู่อริกัน เพราะในส่วนผู้ก่อเหตุขว้างวัตถุ ทราบเพียงว่าเป็นชายวัยรุ่นผมยาว แต่งกายชุดไปรเวท ต้องไปตรวจสอบก่อนว่าเป็นนักศึกษาสถาบันใด
เลขาธิการ กอศ. กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เพิ่งเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 เพียง 2 วันเท่านั้น แต่ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้เน้นย้ำกับทุกวิทยาลัยให้เข้มงวด กวดขันนักเรียน นักศึกษาไม่ให้ก่อเหตุทะเลาะวิวาท โดยเฉพาะในพื้นที่จุดเสี่ยงขอให้เข้มงวด ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (20 พ.ค.) เวลาประมาณ 11.00 น. ตนได้เชิญผู้อำนวยการวิทยาลัยกลุ่มเสี่ยงในสังกัด สอศ. 22 แห่ง และสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) มาประชุมร่วมกันเพื่อเน้นย้ำมาตรการป้องกันทะเลาะวิวาท ขณะเดียวกัน จะมีการเน้นย้ำถึงมาตรการการรับน้องทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษาด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาทุกปีช่วง 1 - 2 สัปดาห์แรก นักศึกษามักจัดกิจกรรมรับน้องที่รุ่นพี่กระทำโดยพลการ มีการกระทำอุจาด ทรมาน และก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาท จนบางครั้งถึงกับเสียชีวิต
“ขอย้ำว่า สอศ. ไม่มีนโยบายให้สถานศึกษาจัดกิจกรรมรับน้องมาหลายปีแล้ว โดยเฉพาะในปีนี้ได้กำชับเด็ดขาดว่าห้ามรับน้อง ไม่ว่าจะเป็นทั้งภายใน และภายนอกสถานศึกษา แต่ก็สนับสนุนให้มีการจัดกิจกรรมที่เป็นการส่งเสริมความรัก ความสามัคคี ฉันท์พี่น้อง รวมถึงกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม แต่ต้องอยู่ในการดูแลของผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการ ฝ่ายปกครอง และครูที่ปรึกษา ตลอดเวลา”เลขาธิการ กอศ. กล่าวและว่า ยอมรับว่า ที่ผ่านมาอาจมีนักเรียน นักศึกษาแอบจัดกิจกรรม ทั้งภายในและนอกสถานศึกษา โดยแอบแฝงการรับน้องไปในตัว ซึ่งเมื่อเกิดเหตุถึงได้ทราบว่าแอบไปรับน้อง เพราะฉะนั้นจากนี้ไปการทำกิจกรรมใดๆ หากจัดโดยสถานศึกษาต้องมีหนังสือขออนุญาตผู้ปกครองอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้ปกครองรับทราบล่วงหน้า แต่ถ้านักศึกษาจัดกันเองและผู้ปกครองทราบก็ต้องแจ้งให้สถานศึกษารับทราบ เพื่อจะได้ช่วยกันห้ามปรามได้ ทั้งนี้ หากทราบว่ามีการแอบไปทำกิจกรรมรับน้อง สถานศึกษาก็ต้องมีมาตรการลงโทษ
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่