ผู้จัดการ สสส. งานเข้า!! ถูกบัตรสนเท่ห์ร่อนโจมตีกระอักหลายประเด็น เอื้อพวกพ้องให้ทุนกลุ่มก๊วนเดิม บริหารงานไร้ประสิทธิภาพ ใช้ภาษีบาปฟุ่มเฟือย จี้นายกฯพิจารณาปลด ขณะที่ สตง.- คตร.กำลังตรวจสอบเรื่องทั้งหมด ด้านเจ้าตัวพ้อร้องเรียนแบบไร้ที่มาเหมือนถูกกลั่นแกล้งจากคนใน แจง สตง. ตรวจสอบตามปกติ ให้ทุนมีเกณฑ์ชัดเจน
แหล่งข่าวแวดวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กำลังถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบกรณีการบริหารงาน โดยเฉพาะประเด็นการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนโครงการต่างๆ ที่เป็นกลุ่มก๊วนเดียวกัน รวมไปถึงกรณีการใช้งบประมาณในการผลิตสื่อ ซึ่งผลลัพธ์ในการตรวจสอบจะเป็นเช่นไรนั้นยังไม่มีการเปิดเผย ทราบเพียงว่าหน่วยงานที่รับทุนไปนั้นอาจมีการใช้เงินอย่างไม่มีประสิทธิภาพและไม่รอบคอบในหลายจังหวัด โดยกำลังอยู่ระหว่างการชี้แจงและสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งรายละเอียดต้องไปตรวจสอบจาก สตง.
แหล่งข่าวยังกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังพบว่าที่ผ่านมามีประเด็นการร้องเรียน ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส. คนปัจจุบันด้วยในหลายกรณี ทั้งการให้ทุนแต่กลุ่มพวกพ้องตัวเอง ซึ่งมีแต่หน้าเดิมๆ แต่งานกลับไม่ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ท่ามกลางคำถามที่ว่า สสส. ใช้งบปีละกว่า 3 พันล้านบาทจากภาษีบาป คือ เหล้า และ บุหรี่ นั้น คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพหรือไม่ ซึ่งข้อร้องเรียนทั้งหมดทราบว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบของ สตง. และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีการกระจายบัตรสนเท่ห์โดยไม่ระบุชื่อผู้ส่ง จัดส่งถึงสื่อบางฉบับ โดยระบุว่า ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) ให้พิจารณาปลดผู้จัดการ สสส. โดยระบุว่าบริหารงานไม่มีประสิทธิภาพ อนุมัติทุนสนับสนุนโครงการให้หน่วยงานเดิม ซึ่งมีตำแหน่งในบอร์ด สสส. เป็นการเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องหรือไม่ รวมไปถึงการใช้งบประมาณฟุ่มเฟือยในเรื่องต่างๆ
ด้าน ทพ.กฤษดา กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการตรวจสอบที่มาของการร้องเรียนให้ชัดเจน เพราะตามระเบียบของสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว ผู้ร้องเรียนต้องมีตัวตนที่ชัดเจน มิเช่นนั้นจะเหมือนเป็นการกลั่นแกล้งกันภายใน อย่างไรก็ตาม หากไม่เข้าใจและสงสัยในการทำงานของ สสส. ก็สามารถสอบถามได้ ซึ่งตนยินดีชี้แจงในทุกประเด็น ส่วนที่มีการพาดพิงถึงตนในเรื่องต่างๆ นั้นคงต้องขอดูรายละเอียดก่อนว่ามีข้อเท็จจริงแค่ไหน อยากให้เข้าใจว่าการร้องเรียนต่างๆ จะต้องมีหลักฐาน ซึ่งตนไม่ทราบว่ามีการทำหนังสือร้องเรียนถึงใครหรือหน่วยงานใด
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการให้ทุนที่มีข้อทักท้วงว่าเอื้อประโยชน์ให้บางกลุ่ม ทพ.กฤษดา กล่าวว่า การให้ทุนนั้นมีเกณฑ์ที่ชัดเจน มีกรรมการแต่ละลำดับขั้นในการตรวจสอบว่าเหมาะสมที่จะให้หรือไม่ให้ทุนใคร
เมื่อถามถึงการใช้งบประมาณด้านการผลิตสื่อซึ่งมีข้อทักท้วงเช่นกันว่าไม่มีประสิทธิภาพ ทพ.กฤษดา กล่าวว่า งบประมาณ สสส.ปีละกว่า 3,000 ล้านบาทนั้น หลายคนมักเข้าใจว่า สสส. ใช้งบการผลิตสื่ออย่างไม่มีประสิทธิภาพ แต่ความเป็นจริงแล้ว สสส.มีการแบ่งงบประมาณต่างๆ อย่างชัดเจน โดยงบด้านการผลิตสื่อใช้เพียงประมาณ 200 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยกว่างบสื่อของหน่วยงานรัฐหลายๆ หน่วยงาน
ผู้สื่อข่าวถามว่า สตง. กำลังเข้ามาตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว ทพ.กฤษดา กล่าวว่า เป็นระบบการตรวจสอบตามปกติของ สสส. ซึ่งระบบตรวจสอบ สสส. ในปัจจุบันแม้จะไม่มีสภาที่เข้ามาตรวจสอบเหมือนภาวะปกติ แต่ สสส. ยังต้องทำรายงานการทำงานส่งต่อ สปช. และ ครม. พิจารณา
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
แหล่งข่าวแวดวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กำลังถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบกรณีการบริหารงาน โดยเฉพาะประเด็นการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนโครงการต่างๆ ที่เป็นกลุ่มก๊วนเดียวกัน รวมไปถึงกรณีการใช้งบประมาณในการผลิตสื่อ ซึ่งผลลัพธ์ในการตรวจสอบจะเป็นเช่นไรนั้นยังไม่มีการเปิดเผย ทราบเพียงว่าหน่วยงานที่รับทุนไปนั้นอาจมีการใช้เงินอย่างไม่มีประสิทธิภาพและไม่รอบคอบในหลายจังหวัด โดยกำลังอยู่ระหว่างการชี้แจงและสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งรายละเอียดต้องไปตรวจสอบจาก สตง.
แหล่งข่าวยังกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังพบว่าที่ผ่านมามีประเด็นการร้องเรียน ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส. คนปัจจุบันด้วยในหลายกรณี ทั้งการให้ทุนแต่กลุ่มพวกพ้องตัวเอง ซึ่งมีแต่หน้าเดิมๆ แต่งานกลับไม่ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ท่ามกลางคำถามที่ว่า สสส. ใช้งบปีละกว่า 3 พันล้านบาทจากภาษีบาป คือ เหล้า และ บุหรี่ นั้น คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพหรือไม่ ซึ่งข้อร้องเรียนทั้งหมดทราบว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบของ สตง. และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีการกระจายบัตรสนเท่ห์โดยไม่ระบุชื่อผู้ส่ง จัดส่งถึงสื่อบางฉบับ โดยระบุว่า ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) ให้พิจารณาปลดผู้จัดการ สสส. โดยระบุว่าบริหารงานไม่มีประสิทธิภาพ อนุมัติทุนสนับสนุนโครงการให้หน่วยงานเดิม ซึ่งมีตำแหน่งในบอร์ด สสส. เป็นการเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องหรือไม่ รวมไปถึงการใช้งบประมาณฟุ่มเฟือยในเรื่องต่างๆ
ด้าน ทพ.กฤษดา กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการตรวจสอบที่มาของการร้องเรียนให้ชัดเจน เพราะตามระเบียบของสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว ผู้ร้องเรียนต้องมีตัวตนที่ชัดเจน มิเช่นนั้นจะเหมือนเป็นการกลั่นแกล้งกันภายใน อย่างไรก็ตาม หากไม่เข้าใจและสงสัยในการทำงานของ สสส. ก็สามารถสอบถามได้ ซึ่งตนยินดีชี้แจงในทุกประเด็น ส่วนที่มีการพาดพิงถึงตนในเรื่องต่างๆ นั้นคงต้องขอดูรายละเอียดก่อนว่ามีข้อเท็จจริงแค่ไหน อยากให้เข้าใจว่าการร้องเรียนต่างๆ จะต้องมีหลักฐาน ซึ่งตนไม่ทราบว่ามีการทำหนังสือร้องเรียนถึงใครหรือหน่วยงานใด
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการให้ทุนที่มีข้อทักท้วงว่าเอื้อประโยชน์ให้บางกลุ่ม ทพ.กฤษดา กล่าวว่า การให้ทุนนั้นมีเกณฑ์ที่ชัดเจน มีกรรมการแต่ละลำดับขั้นในการตรวจสอบว่าเหมาะสมที่จะให้หรือไม่ให้ทุนใคร
เมื่อถามถึงการใช้งบประมาณด้านการผลิตสื่อซึ่งมีข้อทักท้วงเช่นกันว่าไม่มีประสิทธิภาพ ทพ.กฤษดา กล่าวว่า งบประมาณ สสส.ปีละกว่า 3,000 ล้านบาทนั้น หลายคนมักเข้าใจว่า สสส. ใช้งบการผลิตสื่ออย่างไม่มีประสิทธิภาพ แต่ความเป็นจริงแล้ว สสส.มีการแบ่งงบประมาณต่างๆ อย่างชัดเจน โดยงบด้านการผลิตสื่อใช้เพียงประมาณ 200 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยกว่างบสื่อของหน่วยงานรัฐหลายๆ หน่วยงาน
ผู้สื่อข่าวถามว่า สตง. กำลังเข้ามาตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว ทพ.กฤษดา กล่าวว่า เป็นระบบการตรวจสอบตามปกติของ สสส. ซึ่งระบบตรวจสอบ สสส. ในปัจจุบันแม้จะไม่มีสภาที่เข้ามาตรวจสอบเหมือนภาวะปกติ แต่ สสส. ยังต้องทำรายงานการทำงานส่งต่อ สปช. และ ครม. พิจารณา
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
