“กมล” แจงย้าย “สัจจา-ยงยุทธ” ไม่ใช่การลงโทษ

“กมล” แจงย้าย “สัจจา - ยงยุทธ” เหตุไม่สามารถสนองงาน สพฐ. ได้มากพอ โดยเฉพาะ สพม. กทม. เขต 2 ที่ตั้งเป้าให้ ร.ร. ในพื้นที่เป็น ร.ร. ต้นแบบ แต่ยังติดขัด ขณะที่ สพม. เขต 6 มีปัญหาเคลียร์แต่งตั้ง ผอ.ร.ร. ไม่ลงตัวปล่อยค้างมานานกว่า 5 ด. ยันไม่ใช่เป็นการลงโทษ แต่เพื่อการบริหารงานที่เหมาะสม ย้ำคุยทำความเข้าใจกับทั้ง 2 คนแล้ว ระบุยังไม่มีการโยกย้ายอีกช่วงเวลานี้ เว้นหลังเปิดหากพบเขตพื้นที่ฯ

นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เมื่อเร็วๆ นี้ เห็นชอบแต่งตั้งและโยกย้ายผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (ผอ.สพท.) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)เสนอ 4 ราย คือ นายสัจจา ศรีเจริญ ผอ.สพม. 2 กทม. เป็น ผอ.สพม.เขต 13 (ตรัง - กระบี่) นายไพรัช แสงทอง ผอ.สพม.เขต 13 เป็น ผอ.สพม. เขต 2 กทม.นายยงยุทธ ทรัพย์เจริญ ผอ.สพม. เขต 6 เป็น ผอ.สพม.เขต 3 (นนทบุรี - อยุธยา) และ นายนพพร พิพิธจันทร์ ผอ.สพม. เขต 3 เป็น ผอ.สพม. เขต 6 (ฉะเชิงเทรา - สมุทรปราการ) นั้น สพฐ. ยืนยันว่า เป็นการย้ายเพื่อความเหมาะสมในการทำงาน ไม่ได้เป็นการลงโทษตัวบุคคล โดยจะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาทั้ง สพม. เขต 2 กทม. และ สพม. เขต 6 เป็นสองเขตที่มีปัญหาเรื่องระบบการบริหารงานภายในและไม่สามารถแก้ปัญหาได้ โดยเฉพาะในส่วน สพม. เขต 2 กทม. ซึ่ง สพฐ. ตั้งเป้าจะพัฒนาโรงเรียนที่อยู่ในสังกัดให้เป็นโรงเรียนต้นแบบ ที่มีโรงเรียนเครือข่ายและโรงเรียนคู่ขนาน แต่จากการทำงานที่ผ่านมาก็เห็นได้ชัดเจนว่าทาง สพม. เขต 2 ยังสนองงานเรื่องนี้ได้ไม่ดีนัก ดังนั้น จึงจำเป็นต้องให้คนที่มีความสามารถเหมาะสมเข้ามาแก้ไขปัญหาและพัฒนางานให้ได้ตามที่ สพฐ.กำหนด อย่างไรก็ตาม นายสัจจา เองก็เป็นคนจ.สงขลา การย้ายให้ไปอยู่ในพื้นที่ จ.ตรัง - กระบี่ ก็ถือว่าได้กลับไปอยู่ในพื้นที่ใกล้ภูมิลำเนา และอีกประมาณ 5 เดือน นายสัจจา ก็จะเกษียณอายุราชการ

นายกมล กล่าวต่อว่า ส่วนกรณี นายยงยุทธ ผอ.สพม. เขต 6 นั้น พบปัญหามากในเรื่องของการแต่งตั้งผู้อำนวยการโรงเรียนประจำจังหวัด และไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ซึ่งโดยหลักการตัดสินใจเรื่องเหล่านี้นักบริหารสามารถดำเนินการได้โดยไม่น่าจะมีปัญหา เพราะมีหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติประกอบการพิจารณาอยู่แล้ว แต่จนถึงขณะนี้ นายยงยุทธ ก็ยังไม่สามารถแต่งตั้งผู้บริหารโรงเรียนได้ ทั้งที่ผ่านมาถึง 5 เดือนแล้ว เพราะฉะนั้น การที่สลับให้ นายนพพร มาอยู่ สพม. เขต 6 แทน เพื่อให้ไปช่วยแก้ปัญหา แต่เขต 3 วางระบบไว้ค่อนข้างดีแล้ว ส่วนปัญหาร้องเรียนของทั้งสองคนนั้นก็มีบ้างแต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องทั่วไป ไม่ได้มีปัญหาร้ายแรง โดยทั้งสองคนทราบล่วงหน้าว่า อาจจะต้องถูกขยับ

“ส่วนเขตพื้นที่ฯอื่นนั้นขณะนี้ยังไม่มี ยกเว้นหลังจากเปิดเทอมไปแล้ว เพราะ สพฐ. จะมีนโยบายและยุทธศาสตร์ใหม่ๆ ลงไปให้ดำเนินการ ถ้าเขตไหนทำไม่ได้ และไม่ถนัดก็อาจจะมีการสลับให้อีกรอบ นอกจากนี้ ในการประชุม ก.ค.ศ. นั้น คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้เสนอในที่ประชุมว่า ผอ. เขตพื้นที่ฯ ที่อยู่เกิน 4 ปี ควรจะต้องมีการย้ายสลับเขต แต่ยังไม่มีการพูดคุยกันในรายละเอียด ซึ่งต่อไปหากก.ค.ศ. พิจารณาแล้วให้ความเห็นชอบ จะส่งผลให้ในช่วงเดือนตุลาคมนี้อาจจะต้องมีการโยกย้ายผอ.เขตพื้นที่ฯ จำนวนมากอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 30 - 40 เขตพื้นที่ฯ ซึ่งส่วนตัวเห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว เพราะโดยหลักการผู้บริหารไม่ควรอยู่ที่เดียวนานๆ เพื่อไม่ให้เป็นการสร้างอิทธิพลในพื้นที่ และถ้าคนใดไม่มีความสามารถในเรื่องบริหารงาน ก็จะอยู่อย่างเรื่อยเปื่อย ทำให้ไม่เกิดการพัฒนา” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว
นายสัจจา ศรีเจริญ