สพฐ. ขอให้ มศว ตรวจสอบความถูกต้องข้อสอบคัด รอง ผอ.-ผอ. อีกครั้งและส่งผลมาภายใน 7 พ.ค. นี้ พร้อมสั่งชะลอการบรรจุแต่งตั้งไว้ก่อนจากเดิมต้องบรรจุภายใน 4 พ.ค. หากจำเป็นให้พิจารณาดูจากประโยชน์ราชการเป็นหลัก “กมล” ยันไม่โละบัญชีสอบ นอกจากผู้เข้าสอบฯมีหลักฐานชัด มศว ผิดพลาด 100%
วันนี้ (28 เม.ย.) นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยภายหลังประชุมหารือเพื่อแก้ปัญหากรณีคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ยอมรับว่า ข้อสอบมีความคลาดเคลื่อน โดยแบ่งเป็นข้อสอบระดับผู้อำนวยการสถานศึกษา 4 ข้อ และรองผู้อำนวยการสถานศึกษา 2 ข้อ ว่า สพฐ. ได้หารือแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าวร่วมกับคณะกรรมการอำนวยการจัดสอบ ซึ่งได้ข้อสรุปของแนวทางแก้เรียบร้อยแล้ว ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เกิดจากตัวข้อสอบไม่ใช่ผู้เข้าสอบ ดังนั้น แนวทางแก้ปัญหาจึงต้องยึดประโยชน์ของ สพฐ. และผู้เข้าสอบอย่างสูงสุด โดยที่ผ่านมาผู้เข้าสอบได้ทักท้วงว่าข้อสอบยังมีความคลาดเคลื่อนมากกว่าที่ มศว ออกมายอมรับ สพฐ. จึงขอให้ มศว ไปตรวจสอบเพื่อความชัดเจนอีกครั้ง และรายงานกลับมาที่ สพฐ. ภายในวันที่ 7 พฤษภาคม จากนั้น สพฐ. จะส่งผลคะแนนให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ทั้ง 225 เขตตรวจสอบ ภายในวันที่ 8 พฤษภาคม อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ผู้ที่ได้รับการประกาศชื่อขึ้นบัญชี รอบแรกอยู่ระหว่างการอบรม แต่เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหา และเมื่อมีการประมวลผลใหม่แล้วก็จะทำให้มีผู้ที่ได้รับการประกาศขึ้นบัญชีเพิ่มขึ้น ดังนั้น สพฐ. จะมีหนังสือแจ้งไปยังเขตพื้นที่ฯ ให้ชะลอการบรรจุแต่งตั้งทั้งหมดไว้ก่อน จากเดิมที่มีกำหนดจะต้องบรรจุให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 4 พฤษภาคม แต่หากเขตพื้นที่ใดจำเป็นต้องบรรจุแต่งตั้งผู้อำนวยการหรือรองผู้อำนวยการสถานศึกษาก่อน ก็สามารถดำเนินการได้ โดยยึดประโยชน์ของทางราชการเป็นหลัก
“เมื่อมีการประมวลผลใหม่แล้ว จะทำให้มีผู้ได้รับการประกาศขึ้นบัญชีเพิ่มขึ้น ส่วนผู้ที่ได้รับการประกาศชื่อไปแล้วก็น่าจะไม่มีใครตก เพราะผู้ที่สอบผ่านในรอบแรกคะแนนผ่านเกณฑ์อยู่แล้ว แต่จะมีผลต่อความเปลี่ยนแปลงลำดับการขึ้นบัญชี เนื่องจากผลคะแนนภาค ก การสอบความรู้ทั่วไป ที่จัดสอบโดย มศว จะต้องไปรวมกับคะแนนภาค ข ความสามารถในการบริหารงานในหน้าที่ และภาค ค การสอบสัมภาษณ์ ที่สอบโดยเขตพื้นที่ฯ ซึ่งมีผลต่อการเลือกโรงเรียน เพราะผู้ที่สอบได้คะแนนสูงลำดับต้น ๆ จะมีโอกาสเลือกโรงเรียนก่อน และการที่ให้ มศว กลับไปตรวจสอบความคลาดเคลื่อนของข้อสอบอีกรอบ เป็นการดำเนินการตาม พ.ร.บ. วิธีการปกครอง พ.ศ. 2539 ดังนั้น เมื่อเกิดความผิดพลาด ผู้ออกข้อสอบ คือ มศว จะต้องไปตรวจสอบ เพราะต้องตีความในทางที่เป็นประโยชน์แก่ผู้เข้าสอบ จะให้โทษกับผู้เข้าสอบไม่ได้ เพราะฉะนั้น สพฐ. จะไม่โละบัญชีการสอบครั้งนี้แน่นอน นอกจากผู้เข้าสอบจะร้องเรียนและหาหลักฐานให้ได้ว่าข้อสอบของ มศว มีความผิดพลาด 100% การดำเนินการครั้งนี้ เพื่อคุ้มครองสิทธิ์ของบุคคล” นายกมล กล่าว
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อว่า ส่วนความรับผิดชอบของ มศว นั้น เบื้องต้นแน่นอนว่าจะต้องส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในคุณภาพการจัดสอบของ มศว ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องของ มศว ที่จะต้องไปแก้ปัญหา ส่วนของ สพฐ. จะมีเรื่องค่าความเสียหายที่อาจต้องคิดเป็นตัวเงิน โดยเฉพาะค่าจัดอบรมผู้บริหารใหม่ และค่าจ้าง มศว ในการออกข้อสอบ ซึ่งเป็นตัวเงินหลายสิบล้านบาท ก็ต้องหารือกับ มศว ว่า จะช่วยรับผิดชอบในส่วนนี้อะไรได้บ้าง
ด้าน ส.ต.ท.นพกร พุทธา รองผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลนางรอง (สังขกฤษณ์อนุสรณ์) จังหวัดบุรีรัมย์ ผู้แทนกลุ่มผู้เข้าสอบคัดเลือกฯ กล่าวว่า เท่าที่ฟังผลการหารือ รู้สึกพอใจระดับหนึ่ง แต่ทาง สพฐ. ได้ประสานให้ทางกลุ่มผู้ร้องทุกข์ไปรวบรวมข้อมูลความคลาดเคลื่อนของข้อสอบ ส่งให้ทาง มศว และ สพฐ. เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติม โดนทางกลุ่มจะรวบรวมและส่งให้ทั้ง มศว และ สพฐ. ภายใน 3 วัน แต่เท่าที่ดู ทั้ง 6 ข้อที่ มศว ยอมรับต้องได้ฟรีแน่ๆ เพราะ มศว ยอมรับแล้วว่าข้อสอบคลาดเคลื่อนจริงๆ
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (28 เม.ย.) นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยภายหลังประชุมหารือเพื่อแก้ปัญหากรณีคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ยอมรับว่า ข้อสอบมีความคลาดเคลื่อน โดยแบ่งเป็นข้อสอบระดับผู้อำนวยการสถานศึกษา 4 ข้อ และรองผู้อำนวยการสถานศึกษา 2 ข้อ ว่า สพฐ. ได้หารือแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าวร่วมกับคณะกรรมการอำนวยการจัดสอบ ซึ่งได้ข้อสรุปของแนวทางแก้เรียบร้อยแล้ว ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เกิดจากตัวข้อสอบไม่ใช่ผู้เข้าสอบ ดังนั้น แนวทางแก้ปัญหาจึงต้องยึดประโยชน์ของ สพฐ. และผู้เข้าสอบอย่างสูงสุด โดยที่ผ่านมาผู้เข้าสอบได้ทักท้วงว่าข้อสอบยังมีความคลาดเคลื่อนมากกว่าที่ มศว ออกมายอมรับ สพฐ. จึงขอให้ มศว ไปตรวจสอบเพื่อความชัดเจนอีกครั้ง และรายงานกลับมาที่ สพฐ. ภายในวันที่ 7 พฤษภาคม จากนั้น สพฐ. จะส่งผลคะแนนให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ทั้ง 225 เขตตรวจสอบ ภายในวันที่ 8 พฤษภาคม อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ผู้ที่ได้รับการประกาศชื่อขึ้นบัญชี รอบแรกอยู่ระหว่างการอบรม แต่เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหา และเมื่อมีการประมวลผลใหม่แล้วก็จะทำให้มีผู้ที่ได้รับการประกาศขึ้นบัญชีเพิ่มขึ้น ดังนั้น สพฐ. จะมีหนังสือแจ้งไปยังเขตพื้นที่ฯ ให้ชะลอการบรรจุแต่งตั้งทั้งหมดไว้ก่อน จากเดิมที่มีกำหนดจะต้องบรรจุให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 4 พฤษภาคม แต่หากเขตพื้นที่ใดจำเป็นต้องบรรจุแต่งตั้งผู้อำนวยการหรือรองผู้อำนวยการสถานศึกษาก่อน ก็สามารถดำเนินการได้ โดยยึดประโยชน์ของทางราชการเป็นหลัก
“เมื่อมีการประมวลผลใหม่แล้ว จะทำให้มีผู้ได้รับการประกาศขึ้นบัญชีเพิ่มขึ้น ส่วนผู้ที่ได้รับการประกาศชื่อไปแล้วก็น่าจะไม่มีใครตก เพราะผู้ที่สอบผ่านในรอบแรกคะแนนผ่านเกณฑ์อยู่แล้ว แต่จะมีผลต่อความเปลี่ยนแปลงลำดับการขึ้นบัญชี เนื่องจากผลคะแนนภาค ก การสอบความรู้ทั่วไป ที่จัดสอบโดย มศว จะต้องไปรวมกับคะแนนภาค ข ความสามารถในการบริหารงานในหน้าที่ และภาค ค การสอบสัมภาษณ์ ที่สอบโดยเขตพื้นที่ฯ ซึ่งมีผลต่อการเลือกโรงเรียน เพราะผู้ที่สอบได้คะแนนสูงลำดับต้น ๆ จะมีโอกาสเลือกโรงเรียนก่อน และการที่ให้ มศว กลับไปตรวจสอบความคลาดเคลื่อนของข้อสอบอีกรอบ เป็นการดำเนินการตาม พ.ร.บ. วิธีการปกครอง พ.ศ. 2539 ดังนั้น เมื่อเกิดความผิดพลาด ผู้ออกข้อสอบ คือ มศว จะต้องไปตรวจสอบ เพราะต้องตีความในทางที่เป็นประโยชน์แก่ผู้เข้าสอบ จะให้โทษกับผู้เข้าสอบไม่ได้ เพราะฉะนั้น สพฐ. จะไม่โละบัญชีการสอบครั้งนี้แน่นอน นอกจากผู้เข้าสอบจะร้องเรียนและหาหลักฐานให้ได้ว่าข้อสอบของ มศว มีความผิดพลาด 100% การดำเนินการครั้งนี้ เพื่อคุ้มครองสิทธิ์ของบุคคล” นายกมล กล่าว
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อว่า ส่วนความรับผิดชอบของ มศว นั้น เบื้องต้นแน่นอนว่าจะต้องส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในคุณภาพการจัดสอบของ มศว ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องของ มศว ที่จะต้องไปแก้ปัญหา ส่วนของ สพฐ. จะมีเรื่องค่าความเสียหายที่อาจต้องคิดเป็นตัวเงิน โดยเฉพาะค่าจัดอบรมผู้บริหารใหม่ และค่าจ้าง มศว ในการออกข้อสอบ ซึ่งเป็นตัวเงินหลายสิบล้านบาท ก็ต้องหารือกับ มศว ว่า จะช่วยรับผิดชอบในส่วนนี้อะไรได้บ้าง
ด้าน ส.ต.ท.นพกร พุทธา รองผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลนางรอง (สังขกฤษณ์อนุสรณ์) จังหวัดบุรีรัมย์ ผู้แทนกลุ่มผู้เข้าสอบคัดเลือกฯ กล่าวว่า เท่าที่ฟังผลการหารือ รู้สึกพอใจระดับหนึ่ง แต่ทาง สพฐ. ได้ประสานให้ทางกลุ่มผู้ร้องทุกข์ไปรวบรวมข้อมูลความคลาดเคลื่อนของข้อสอบ ส่งให้ทาง มศว และ สพฐ. เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติม โดนทางกลุ่มจะรวบรวมและส่งให้ทั้ง มศว และ สพฐ. ภายใน 3 วัน แต่เท่าที่ดู ทั้ง 6 ข้อที่ มศว ยอมรับต้องได้ฟรีแน่ๆ เพราะ มศว ยอมรับแล้วว่าข้อสอบคลาดเคลื่อนจริงๆ
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
