สธ. เผย ปชช. โทร. ถามข้อมูลฝังแร่ที่จีนมากขึ้น ระบุเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำปฏิบัติตัวที่ถูกต้องแล้ว พร้อมแนะให้ไปตรวจวัดปริมาณรังสีที่ รพ. คาด 1 - 2 วัน ได้รายชื่อคนไปฝังแร่ที่จีนทั้งหมดจากศูนย์ให้คำปรึกษาและส่งต่อ พร้อมเร่งคุมการโฆษณาเกินจริง
นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า หลังจากแถลงข่าวกรณีผู้ป่วยมะเร็งคนไทยเดินทางไปฝังแร่ไอโอดีน-125 แบบถาวรที่สถานบริการสุขภาพ ประเทศจีน โดยพบว่าเป็นการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน และผู้ป่วยไม่ได้รับคำแนะนำในการปฏิบัติตนที่ถูกต้องทำให้อาจเกิดผลกระทบต่อคนรอบข้าง และบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องดูแลผู้ป่วย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด ปรากฏว่ามีประชาชนโทรศัพท์มาสอบถามจำนวนมากขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำในการดูแลตนเอง พร้อมแนะนำให้เข้ามาตรวจวัดปริมาณรังสีหากไม่แน่ใจ ซึ่งสามารถตรวจวัดได้ที่โรงเรียนแพทย์ทุกแห่ง รวมทั้งโรงพยาบาลสังกัดกรมแพทย์ทุกภูมิภาคที่มีหน่วยมะเร็ง และรังสี รวมทั้งโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปที่มีแผนกรังสีรักษา ซึ่งจะได้รับคำแนะนำ ข้อควรปฏิบัติแก่ผู้ป่วย
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า สบส. ได้ประสานไปยังศูนย์ให้คำปรึกษาและส่งต่อไปฝังแร่ของ รพ. รักษามะเร็งเฉพาะทางฟูด้า กวางโจว ประเทศจีน แล้ว คาดว่าภายใน 1 - 2 วัน จะทราบว่ามีผู้ที่เดินทางไปฝังแร่จำนวนเท่าใด ซึ่งจะได้ชื่อ ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ประสานให้คำแนะนำในการปฏิบัติตนอย่างถูกต้องต่อไป อย่างไรก็ตาม การให้บริการที่ประเทศจีนไม่สามารถใช้กฎหมายไทยในการดูแลได้ แต่จะประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องการควบคุมรังสีเพื่อให้ดูแลมาตรฐานต่อไป สำหรับส่วนของศูนย์ให้คำปรึกษาดังกล่าวจะควบคุมเรื่องการโฆษณา ไม่ให้โอ้อวดเกินจริง
“ผู้ที่กำลังจะเดินทางไปรับการฝังแร่ที่จีน ถือว่าเป็นสิทธิของผู้ป่วยที่จะตัดสินใจ แต่ที่ทำได้คือให้ข้อมูลว่า ขณะนี้สิ่งที่พบคือการรักษาในต่างประเทศอาจไม่ตรงตามมาตรฐานของรังสีรักษา และอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อผู้อื่นได้ หากผู้ป่วยไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ หรือไม่ได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง ซึ่งจากการสำรวจผู้ป่วยที่ติดต่อได้ในขณะนี้พบว่าส่วนใหญ่ไม่ได้รับคำแนะนำในการดูแลตนเองที่ถูกต้อง และการรักษาส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เป็นไปตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ ซึ่งการรักษาแบบนี้ทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการแทรกซ้อนอื่นขึ้นได้” รองอธิบดี สบส. กล่าว
ผศ.พญ.สมใจ แดงประเสริฐ หัวหน้าภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีผู้ป่วยที่เดินทางไปฝังแร่ที่จีนเข้ามาตรวจเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม รพ.รามาฯ เตรียมความพร้อมตลอด โดยมีมาตรการ เช่น แผนกมะเร็งซึ่งเป็นด่านที่จะรับผู้ป่วยกลุ่มนี้ จะมีการคัดกรองคนไข้ โดยสอบถามประวัติการรักษาให้แน่ชัดว่าได้เดินทางไปฝังแร่ หรือ มีการฝังแร่หรือไม่ เพื่อให้เข้ารับการตรวจรังสีว่าปริมาณรังสี
“ล่าสุด มีผู้ป่วยที่ไปฝังแร่มาและมาเข้ารับการรักษาที่ รพ.รามาฯ 2 - 3 ราย สำหรับมาตรการ คือ กระตุ้นให้กระทรวงสาธารณสุข และ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมมือกันกระตุ้นให้ประชาชนทราบถึงผลข้างเคียงต่อผู้อื่น ซึ่งก่อนเดินทางไปอยากให้ตระหนักถึงผลที่จะเกิดกับคนรอบข้าง และทำตามคำแนะนำโดยเฉพาะการใส่เสื้อตะกั่ว” ผศ.พญ.สมใจ กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า หลังจากแถลงข่าวกรณีผู้ป่วยมะเร็งคนไทยเดินทางไปฝังแร่ไอโอดีน-125 แบบถาวรที่สถานบริการสุขภาพ ประเทศจีน โดยพบว่าเป็นการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน และผู้ป่วยไม่ได้รับคำแนะนำในการปฏิบัติตนที่ถูกต้องทำให้อาจเกิดผลกระทบต่อคนรอบข้าง และบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องดูแลผู้ป่วย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด ปรากฏว่ามีประชาชนโทรศัพท์มาสอบถามจำนวนมากขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำในการดูแลตนเอง พร้อมแนะนำให้เข้ามาตรวจวัดปริมาณรังสีหากไม่แน่ใจ ซึ่งสามารถตรวจวัดได้ที่โรงเรียนแพทย์ทุกแห่ง รวมทั้งโรงพยาบาลสังกัดกรมแพทย์ทุกภูมิภาคที่มีหน่วยมะเร็ง และรังสี รวมทั้งโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปที่มีแผนกรังสีรักษา ซึ่งจะได้รับคำแนะนำ ข้อควรปฏิบัติแก่ผู้ป่วย
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า สบส. ได้ประสานไปยังศูนย์ให้คำปรึกษาและส่งต่อไปฝังแร่ของ รพ. รักษามะเร็งเฉพาะทางฟูด้า กวางโจว ประเทศจีน แล้ว คาดว่าภายใน 1 - 2 วัน จะทราบว่ามีผู้ที่เดินทางไปฝังแร่จำนวนเท่าใด ซึ่งจะได้ชื่อ ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ประสานให้คำแนะนำในการปฏิบัติตนอย่างถูกต้องต่อไป อย่างไรก็ตาม การให้บริการที่ประเทศจีนไม่สามารถใช้กฎหมายไทยในการดูแลได้ แต่จะประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องการควบคุมรังสีเพื่อให้ดูแลมาตรฐานต่อไป สำหรับส่วนของศูนย์ให้คำปรึกษาดังกล่าวจะควบคุมเรื่องการโฆษณา ไม่ให้โอ้อวดเกินจริง
“ผู้ที่กำลังจะเดินทางไปรับการฝังแร่ที่จีน ถือว่าเป็นสิทธิของผู้ป่วยที่จะตัดสินใจ แต่ที่ทำได้คือให้ข้อมูลว่า ขณะนี้สิ่งที่พบคือการรักษาในต่างประเทศอาจไม่ตรงตามมาตรฐานของรังสีรักษา และอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อผู้อื่นได้ หากผู้ป่วยไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ หรือไม่ได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง ซึ่งจากการสำรวจผู้ป่วยที่ติดต่อได้ในขณะนี้พบว่าส่วนใหญ่ไม่ได้รับคำแนะนำในการดูแลตนเองที่ถูกต้อง และการรักษาส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เป็นไปตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ ซึ่งการรักษาแบบนี้ทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการแทรกซ้อนอื่นขึ้นได้” รองอธิบดี สบส. กล่าว
ผศ.พญ.สมใจ แดงประเสริฐ หัวหน้าภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีผู้ป่วยที่เดินทางไปฝังแร่ที่จีนเข้ามาตรวจเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม รพ.รามาฯ เตรียมความพร้อมตลอด โดยมีมาตรการ เช่น แผนกมะเร็งซึ่งเป็นด่านที่จะรับผู้ป่วยกลุ่มนี้ จะมีการคัดกรองคนไข้ โดยสอบถามประวัติการรักษาให้แน่ชัดว่าได้เดินทางไปฝังแร่ หรือ มีการฝังแร่หรือไม่ เพื่อให้เข้ารับการตรวจรังสีว่าปริมาณรังสี
“ล่าสุด มีผู้ป่วยที่ไปฝังแร่มาและมาเข้ารับการรักษาที่ รพ.รามาฯ 2 - 3 ราย สำหรับมาตรการ คือ กระตุ้นให้กระทรวงสาธารณสุข และ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมมือกันกระตุ้นให้ประชาชนทราบถึงผลข้างเคียงต่อผู้อื่น ซึ่งก่อนเดินทางไปอยากให้ตระหนักถึงผลที่จะเกิดกับคนรอบข้าง และทำตามคำแนะนำโดยเฉพาะการใส่เสื้อตะกั่ว” ผศ.พญ.สมใจ กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
