แพทย์เผยเหตุไฟไหม้บ่อขยะบางปลาไร้เจ็บ พบสำลักควันไฟเล็กน้อย รักษาตัวที่ รพ. ขณะนี้กลับบ้านแล้วทั้งหมด ด้าน รพ.รามาธิบดี เข้าประเมินสถานการณ์เบื้องต้น ยังไม่พบอาการป่วยจากการรับสารพิษ จับตาผู้ปฏิบัติหน้าที่ดับเพลิง หวั่นเกิดอาการรับพิษแบบเฉียบพลัน
วันนี้ (22 เม.ย.) นพ.สวัสดิ์ อภิวัจนีวงศ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) สมุทรปราการ กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์ต่อผู้ได้รับผลกระทบเหตุการณ์เพลิงไหม้บ่อขยะบางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ว่า เหตุการณ์ไฟไหม้บ่อขยะที่ จ.สมุทรปราการ ปกติเกิดอย่างน้อยปีละ 2 ครั้งอยู่แล้ว ทำให้ทางจังหวัดและฝ่ายความมั่นคงมีแผนในการดำเนินการรับมือ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ก็ลงมาคุมด้วยตัวเองตั้งแต่เกิดเหตุ สำหรับส่วนของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในการดูแลผู้อพยพประมาณ 102 คน ที่ได้รับผลกระทบจากควันไฟที่พัดมาบริเวณที่พักอาศัย โดยมานอนอยู่รวมกันที่บริเวณโรงเรียนสุเหล่าบางกะสี ซึ่งช่วงเช้าของวันที่ 22 เม.ย. ในส่วนของผู้ใหญ่ก็ออกไปทำงานกันตามปกติ เหลือเพียงเด็กเล็กอยู่รวมกันประมาณ 20 คน สำหรับผู้ป่วยหรือได้รับบาดเจ็บนั้นไม่มี มีเพียงผู้ที่มีอาการสำลักควันไฟเล็กน้อยไม่กี่ราย ซึ่งเดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเรียบร้อย และเดินทางกลับบ้านหมดแล้ว ไม่มีอะไรน่าห่วง
ศ.นพ.สมิง เก่าเจริญ หัวหน้าโครงการศูนย์อาชีวเวชศาสตร์และพิษวิทยาสิ่งแวดล้อม โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า เนื่องจาก รพ.รามาธิบดี เป็นที่ปรึกษาทางวิชาการให้แก่ รพ.บางพลี ดังนั้น ในการดูแลสุขภาพผู้ที่อาจได้รับผลกระทบจากควันพิษจากเหตุการณ์ไฟไหม้ จึงได้เดินทางเข้ามาประเมินความรุนแรงเบื้องต้น ซึ่งขณะนี้พบว่า ยังไม่มีปัญหาใดๆ มีแต่การอพยพประชาชนที่อยู่บริเวณใต้ลม ที่ต้องจับตาดูเป็นพิเศษ คือ เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานดับเพลิง เพราะมีโอกาสเสี่ยงสูงในการได้รับสารพิษระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งสารพิษดังกล่าวส่วนใหญ่จะไม่ตกค้างจึงไม่น่าเป็นห่วง ที่ห่วงคือการเกิดอาการเฉียบพลัน ถ้าพบว่ามีอาการก็จะได้รับการดูแล ซึ่งไม่ว่าทั้งประชาชน หรือเจ้าหน้าที่ รพ.บางพลี จะให้การดูแลทั้งหมด แต่หากรายใดมีอาการหนักก็จะส่งต่อมายัง รพ.รามาธิบดี สำหรับระดับของสารพิษในอากาศนั้นคงต้องรอการตรวจประเมินจากกรมควบคุมมลพิษ
นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองปลัด สธ. รักษาการแทนปลัด สธ. กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัย ด้านการแพทย์และสาธารณสุข รายงานว่า เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปควบคุมควันไฟบ่อขยะได้แล้วกว่าร้อยละ 60 ของพื้นที่ แต่ยังมีกลุ่มควันไฟและกลิ่นเหม็นเหมือนสารเคมีพลาสติกอยู่เบาบาง ได้สั่งการให้ สสจ. สมุทรปราการ รพ.บางพลี รพ.สมุทรปราการ และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 ส่งทีมแพทย์ดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ และให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) เคาะประตูบ้านติดตามประชาชนที่อยู่ในบ้านเรือนและอาจได้รับผลกระทบอีกทางหนึ่งด้วยด้วย
“เบื้องต้นมีผู้ได้รับผลกระทบจากบ่อขยะดังกล่าวแล้ว 3 ราย แต่อาการไม่รุนแรง เช่น อาเจียน แน่นหน้าอก มีบาดแผลเล็กน้อย แพทย์ให้การรักษาพยาบาลและกลับไปพักที่บ้านได้ ทั้งนี้ สธ. ได้ส่งทีมสุขภาพจิต และกรมอนามัย ลงไปให้การดูแลสุขภาพจิต รวมทั้งสุขอนามัย ความสะอาดของระบบสุขาภิบาล อาหารและน้ำ แก่ประชาชนที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ซึ่งจัดไว้ที่โรงเรียนราษฎร์บูรณะ ซึ่งขณะนี้มีประชาชนอพยพไปอยู่ 92 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้สูงอายุ และได้แจกหน้ากากอนามัยกว่า 1,000 ชิ้น ให้ประชาชนที่อยู่รอบบ่อขยะ เพื่อใส่ป้องกันการสูดละอองควันไฟเข้าปอด” นพ.สุรเชษฐ์ กล่าว
นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ได้ให้สำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม และ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดชลบุรี ลงพื้นที่ชุมชนรอบบ่อขยะ ซึ่งมีประชาชนอาศัยอยู่อาศัยประมาณ 500 คน ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อตรวจคัดกรองสุขภาพประชาชนกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ เด็กและสตรีมีเพื่อตรวจวัดมลพิษทางอากาศรอบพื้นที่ชุมชน ซึ่งจากการตรวจก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และ สารอินทรีย์ระเหยง่ายที่ผ่านมายังไม่เกินค่ามาตรฐานและจะเฝ้าระวังสุขภาพประชาชนรอบพื้นที่บ่อขยะต่อไปอีกเป็นเวลา 1 สัปดาห์ หรือรอจนกว่าควันไฟจะหมดไปจากพื้นที่
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (22 เม.ย.) นพ.สวัสดิ์ อภิวัจนีวงศ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) สมุทรปราการ กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์ต่อผู้ได้รับผลกระทบเหตุการณ์เพลิงไหม้บ่อขยะบางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ว่า เหตุการณ์ไฟไหม้บ่อขยะที่ จ.สมุทรปราการ ปกติเกิดอย่างน้อยปีละ 2 ครั้งอยู่แล้ว ทำให้ทางจังหวัดและฝ่ายความมั่นคงมีแผนในการดำเนินการรับมือ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ก็ลงมาคุมด้วยตัวเองตั้งแต่เกิดเหตุ สำหรับส่วนของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในการดูแลผู้อพยพประมาณ 102 คน ที่ได้รับผลกระทบจากควันไฟที่พัดมาบริเวณที่พักอาศัย โดยมานอนอยู่รวมกันที่บริเวณโรงเรียนสุเหล่าบางกะสี ซึ่งช่วงเช้าของวันที่ 22 เม.ย. ในส่วนของผู้ใหญ่ก็ออกไปทำงานกันตามปกติ เหลือเพียงเด็กเล็กอยู่รวมกันประมาณ 20 คน สำหรับผู้ป่วยหรือได้รับบาดเจ็บนั้นไม่มี มีเพียงผู้ที่มีอาการสำลักควันไฟเล็กน้อยไม่กี่ราย ซึ่งเดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเรียบร้อย และเดินทางกลับบ้านหมดแล้ว ไม่มีอะไรน่าห่วง
ศ.นพ.สมิง เก่าเจริญ หัวหน้าโครงการศูนย์อาชีวเวชศาสตร์และพิษวิทยาสิ่งแวดล้อม โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า เนื่องจาก รพ.รามาธิบดี เป็นที่ปรึกษาทางวิชาการให้แก่ รพ.บางพลี ดังนั้น ในการดูแลสุขภาพผู้ที่อาจได้รับผลกระทบจากควันพิษจากเหตุการณ์ไฟไหม้ จึงได้เดินทางเข้ามาประเมินความรุนแรงเบื้องต้น ซึ่งขณะนี้พบว่า ยังไม่มีปัญหาใดๆ มีแต่การอพยพประชาชนที่อยู่บริเวณใต้ลม ที่ต้องจับตาดูเป็นพิเศษ คือ เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานดับเพลิง เพราะมีโอกาสเสี่ยงสูงในการได้รับสารพิษระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งสารพิษดังกล่าวส่วนใหญ่จะไม่ตกค้างจึงไม่น่าเป็นห่วง ที่ห่วงคือการเกิดอาการเฉียบพลัน ถ้าพบว่ามีอาการก็จะได้รับการดูแล ซึ่งไม่ว่าทั้งประชาชน หรือเจ้าหน้าที่ รพ.บางพลี จะให้การดูแลทั้งหมด แต่หากรายใดมีอาการหนักก็จะส่งต่อมายัง รพ.รามาธิบดี สำหรับระดับของสารพิษในอากาศนั้นคงต้องรอการตรวจประเมินจากกรมควบคุมมลพิษ
นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองปลัด สธ. รักษาการแทนปลัด สธ. กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัย ด้านการแพทย์และสาธารณสุข รายงานว่า เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปควบคุมควันไฟบ่อขยะได้แล้วกว่าร้อยละ 60 ของพื้นที่ แต่ยังมีกลุ่มควันไฟและกลิ่นเหม็นเหมือนสารเคมีพลาสติกอยู่เบาบาง ได้สั่งการให้ สสจ. สมุทรปราการ รพ.บางพลี รพ.สมุทรปราการ และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 ส่งทีมแพทย์ดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ และให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) เคาะประตูบ้านติดตามประชาชนที่อยู่ในบ้านเรือนและอาจได้รับผลกระทบอีกทางหนึ่งด้วยด้วย
“เบื้องต้นมีผู้ได้รับผลกระทบจากบ่อขยะดังกล่าวแล้ว 3 ราย แต่อาการไม่รุนแรง เช่น อาเจียน แน่นหน้าอก มีบาดแผลเล็กน้อย แพทย์ให้การรักษาพยาบาลและกลับไปพักที่บ้านได้ ทั้งนี้ สธ. ได้ส่งทีมสุขภาพจิต และกรมอนามัย ลงไปให้การดูแลสุขภาพจิต รวมทั้งสุขอนามัย ความสะอาดของระบบสุขาภิบาล อาหารและน้ำ แก่ประชาชนที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ซึ่งจัดไว้ที่โรงเรียนราษฎร์บูรณะ ซึ่งขณะนี้มีประชาชนอพยพไปอยู่ 92 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้สูงอายุ และได้แจกหน้ากากอนามัยกว่า 1,000 ชิ้น ให้ประชาชนที่อยู่รอบบ่อขยะ เพื่อใส่ป้องกันการสูดละอองควันไฟเข้าปอด” นพ.สุรเชษฐ์ กล่าว
นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ได้ให้สำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม และ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดชลบุรี ลงพื้นที่ชุมชนรอบบ่อขยะ ซึ่งมีประชาชนอาศัยอยู่อาศัยประมาณ 500 คน ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อตรวจคัดกรองสุขภาพประชาชนกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ เด็กและสตรีมีเพื่อตรวจวัดมลพิษทางอากาศรอบพื้นที่ชุมชน ซึ่งจากการตรวจก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และ สารอินทรีย์ระเหยง่ายที่ผ่านมายังไม่เกินค่ามาตรฐานและจะเฝ้าระวังสุขภาพประชาชนรอบพื้นที่บ่อขยะต่อไปอีกเป็นเวลา 1 สัปดาห์ หรือรอจนกว่าควันไฟจะหมดไปจากพื้นที่
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
