“สุวพันธุ์” จี้ทำแผนพัฒนาพุทธมณฑลจังหวัด 9 แห่ง แนะจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีชีวิตชีวา
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า จากการที่ตนได้ไปเยี่ยมชมพุทธมณฑลอีสาน จ.ขอนแก่น ซึ่งพุทธมณฑลดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อปี 2547 ที่เห็นชอบให้จัดตั้งสถานที่ทางพระพุทธศาสนาที่มีลักษณะเดียวกับพุทธมณฑล จ.นครปฐม ให้แพร่หลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งมติมหาเถรสมาคม (มส.) ครั้งที่ 21/2548 เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2548 ก็เห็นชอบให้จัดสร้างพุทธมณฑลในส่วนภูมิภาคจำนวน 9 แห่ง ได้แก่ จ.พิษณุโลก นครสวรรค์ สมุทรสาคร ลำปาง พะเยา นครพนม เพชรบุรี นราธิวาส และ ขอนแก่น ซึ่งตนเห็นว่าพุทธมณฑลในส่วนภูมิภาคควรพัฒนาเช่นเดียวกับพุทธมณฑลส่วนกลาง คือ มีการพัฒนาด้านกายภาพ ภูมิทัศน์ให้มีความร่มรื่น ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ทั้ง 9 จังหวัด ควรประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อพัฒนาพุทธมณฑลแต่ละแห่ง และต้องทำแผนในการดำเนินงานทุก 3 ปีด้วย เพื่อกำหนดกรอบแนวทางในการพัฒนาที่ชัดเจน นอกจากนี้ จะต้องพัฒนาพุทธมณฑลในส่วนภูมิภาคให้เป็นศูนย์รวมจิตใจทางพระพุทธศาสนาด้วย ดังนั้น จะต้องมีการจัดกิจกรรมในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาโดยตลอด และที่สำคัญต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้พุทธศาสนิกชนรับทราบด้วย
นายสุวพันธุ์ กล่าวด้วยว่า ตนเห็นว่าส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้พุทธมณฑลจังหวัดมีชีวิตชีวามากขึ้น คือ การให้ พศจ. มาตั้งอยู่ที่พุทธมณฑลจังหวัด จะช่วยให้พุทธมณฑลจังหวัดแต่ละแห่งมีกิจกรรมต่อเนื่องมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในเรื่องดังกล่าวคงต้องอยู่ที่ความเหมาะสมของแต่ละจังหวัดด้วย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า จากการที่ตนได้ไปเยี่ยมชมพุทธมณฑลอีสาน จ.ขอนแก่น ซึ่งพุทธมณฑลดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อปี 2547 ที่เห็นชอบให้จัดตั้งสถานที่ทางพระพุทธศาสนาที่มีลักษณะเดียวกับพุทธมณฑล จ.นครปฐม ให้แพร่หลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งมติมหาเถรสมาคม (มส.) ครั้งที่ 21/2548 เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2548 ก็เห็นชอบให้จัดสร้างพุทธมณฑลในส่วนภูมิภาคจำนวน 9 แห่ง ได้แก่ จ.พิษณุโลก นครสวรรค์ สมุทรสาคร ลำปาง พะเยา นครพนม เพชรบุรี นราธิวาส และ ขอนแก่น ซึ่งตนเห็นว่าพุทธมณฑลในส่วนภูมิภาคควรพัฒนาเช่นเดียวกับพุทธมณฑลส่วนกลาง คือ มีการพัฒนาด้านกายภาพ ภูมิทัศน์ให้มีความร่มรื่น ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ทั้ง 9 จังหวัด ควรประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อพัฒนาพุทธมณฑลแต่ละแห่ง และต้องทำแผนในการดำเนินงานทุก 3 ปีด้วย เพื่อกำหนดกรอบแนวทางในการพัฒนาที่ชัดเจน นอกจากนี้ จะต้องพัฒนาพุทธมณฑลในส่วนภูมิภาคให้เป็นศูนย์รวมจิตใจทางพระพุทธศาสนาด้วย ดังนั้น จะต้องมีการจัดกิจกรรมในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาโดยตลอด และที่สำคัญต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้พุทธศาสนิกชนรับทราบด้วย
นายสุวพันธุ์ กล่าวด้วยว่า ตนเห็นว่าส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้พุทธมณฑลจังหวัดมีชีวิตชีวามากขึ้น คือ การให้ พศจ. มาตั้งอยู่ที่พุทธมณฑลจังหวัด จะช่วยให้พุทธมณฑลจังหวัดแต่ละแห่งมีกิจกรรมต่อเนื่องมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในเรื่องดังกล่าวคงต้องอยู่ที่ความเหมาะสมของแต่ละจังหวัดด้วย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
