สธ. ขยับสถานะ อสม. เป็นนักจัดการสุขภาพ พัฒนาทำงานร่วมทีมหมอครอบครัว ดูแลสุขภาพประชาชน พร้อมเป็นไอดอลชุมชน แกนนำลดปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดเจ็บป่วย
วันนี้ (20 มี.ค.) ที่ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชัน ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวหลังเปิดงานวันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ ประจำปี 2558 และอัญเชิญเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นเหรียญทองดิเรกคุณาภรณ์และชั้นเหรียญเงินดิเรกคุณาภรณ์ พระราชทานแด่ อสม. ดีเยี่ยม 23 คน และรางวัล อสม. ดีเด่นทุกระดับรวม 218 คน ว่า ครม. มีมติปี 2536 กำหนดให้วันที่ 20 มี.ค. ทุกปี เป็นวันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ อสม.ที่อาสาทำหน้าที่ดูแลสุขภาพประชาชนในหมู่บ้านร่วมกับ สธ.อย่างต่อเนื่องกว่า 37 ปี สามารถลดปัญหาสุขภาพในชุมชนได้มาก พลัง อสม.จึงเปรียบเสมือนเป็นหัวใจของระบบสุขภาพ สมควรได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ ปัจจุบันมี อสม. ทั่วประเทศจำนวน 1,047,800 คน
ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ในปี 2558 รัฐบาล และ สธ. มีนโยบายยกระดับคุณภาพบริการด้านสาธารณสุขและสุขภาพของประชาชน วางรากฐานการเสริมสร้างความเข้มแข็งการให้บริการด้านสาธารณสุขประชาชน โดยเฉพาะบริการดูแลขั้นพื้นฐาน ประชาชนสามารถเข้าถึง มีคุณภาพ และมีประสิทธิภาพ โดยจัดโครงการหมอครอบครัวดูแลประชาชนทุกหลังคาเรือน และมีบริการดูแลสุขภาพประชาชนที่ต้องพึ่งพิง คนในครอบครัวช่วยดูแล 3 กลุ่ม ได้แก่ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ ผู้ป่วยที่ไม่มีรักษาไม่หายและอยู่ในระยะสุดท้ายชีวิต โดยมีนโยบายพัฒนายกระดับ อสม.ให้เป็นนักจัดการสุขภาพชุมชน และจะอบรมอสม.จำนวน 250,000 คน ให้เป็นผู้เชี่ยวชาญดูแลสุขภาพ 5 กลุ่มวัย ได้แก่ สตรีและเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เด็กวัยเรียน วัยรุ่น วัยทำงาน ผู้สูงอายุ และผู้พิการ ซึ่งจะทำให้ อสม. มีศักยภาพ เพื่อร่วมทำงานกับทีมครอบครัว และปฎิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี เป็นแกนนำปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงการเจ็บป่วยของชุมชน โดยเฉพาะด้านอุบัติเหตุจราจร ซึ่งไทยมีอัตราการเสียชีวิตจากสาเหตุนี้มากเป็นอันดับ 3 ของโลก ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีได้ฝากความหวังในวาระการปฎิรูปประเทศไทย พลัง อสม. จะมีส่วนช่วยลดความขัดแย้ง สร้างความปรองดองเฝ้าระวังป้องกันการทุจริตในพื้นที่ได้
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (20 มี.ค.) ที่ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชัน ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวหลังเปิดงานวันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ ประจำปี 2558 และอัญเชิญเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นเหรียญทองดิเรกคุณาภรณ์และชั้นเหรียญเงินดิเรกคุณาภรณ์ พระราชทานแด่ อสม. ดีเยี่ยม 23 คน และรางวัล อสม. ดีเด่นทุกระดับรวม 218 คน ว่า ครม. มีมติปี 2536 กำหนดให้วันที่ 20 มี.ค. ทุกปี เป็นวันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ อสม.ที่อาสาทำหน้าที่ดูแลสุขภาพประชาชนในหมู่บ้านร่วมกับ สธ.อย่างต่อเนื่องกว่า 37 ปี สามารถลดปัญหาสุขภาพในชุมชนได้มาก พลัง อสม.จึงเปรียบเสมือนเป็นหัวใจของระบบสุขภาพ สมควรได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ ปัจจุบันมี อสม. ทั่วประเทศจำนวน 1,047,800 คน
ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ในปี 2558 รัฐบาล และ สธ. มีนโยบายยกระดับคุณภาพบริการด้านสาธารณสุขและสุขภาพของประชาชน วางรากฐานการเสริมสร้างความเข้มแข็งการให้บริการด้านสาธารณสุขประชาชน โดยเฉพาะบริการดูแลขั้นพื้นฐาน ประชาชนสามารถเข้าถึง มีคุณภาพ และมีประสิทธิภาพ โดยจัดโครงการหมอครอบครัวดูแลประชาชนทุกหลังคาเรือน และมีบริการดูแลสุขภาพประชาชนที่ต้องพึ่งพิง คนในครอบครัวช่วยดูแล 3 กลุ่ม ได้แก่ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ ผู้ป่วยที่ไม่มีรักษาไม่หายและอยู่ในระยะสุดท้ายชีวิต โดยมีนโยบายพัฒนายกระดับ อสม.ให้เป็นนักจัดการสุขภาพชุมชน และจะอบรมอสม.จำนวน 250,000 คน ให้เป็นผู้เชี่ยวชาญดูแลสุขภาพ 5 กลุ่มวัย ได้แก่ สตรีและเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เด็กวัยเรียน วัยรุ่น วัยทำงาน ผู้สูงอายุ และผู้พิการ ซึ่งจะทำให้ อสม. มีศักยภาพ เพื่อร่วมทำงานกับทีมครอบครัว และปฎิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี เป็นแกนนำปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงการเจ็บป่วยของชุมชน โดยเฉพาะด้านอุบัติเหตุจราจร ซึ่งไทยมีอัตราการเสียชีวิตจากสาเหตุนี้มากเป็นอันดับ 3 ของโลก ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีได้ฝากความหวังในวาระการปฎิรูปประเทศไทย พลัง อสม. จะมีส่วนช่วยลดความขัดแย้ง สร้างความปรองดองเฝ้าระวังป้องกันการทุจริตในพื้นที่ได้
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่