“ณรงค์” เผยหากมีช่องจะเจรจา กยศ. ขอผ่อนปรนเกณฑ์เกรดต่ำกว่า 2.00 ไม่ให้กู้ กยศ.- กรอ. ระบุต้องดูความจำเป็นหรือพิจารณารายกรณี ขณะที่ นศ. วอนเปิดโอกาส ชี้เกณฑ์ของ กยศ. กดดันเด็กเกินไป โดยเฉพาะ นศ. ที่เข้าปี 1 แนะใช้เกณฑ์รีไทร์เป็นตัวกลางกำหนดเกณฑ์กู้ยืม
วันนี้ (18 มี.ค.) พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ยืนยันจะไม่อนุโลมให้ผู้กู้ยืมรายเก่าที่มีเกรดเฉลี่ยไม่ถึง 2.00 แต่ไม่ต่ำกว่า 1.75 มีสิทธิกู้ยืม กยศ. และจะขอใช้เกณฑ์ดังกล่าวกับผู้กู้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) ทั้งรายใหม่และรายเก่าด้วยเช่นกัน ว่า ถ้ามีโอกาสตนจะหารือเรื่องดังกล่าวกับทาง กยศ. เพราะอยากให้ทั้ง กยศ. และ กรอ. เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้กับนักเรียน นักศึกษา ทุกคนได้มีโอกาสเรียนอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งเด็กที่เรียนไม่เก่ง ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ตั้งใจเรียนทุกคน บางคนเรียนไม่เก่ง เพราะมีภาระความจำเป็น เช่น ต้องช่วยเหลืองานทางบ้าน ทำให้ผลการเรียนไม่ดี ดังนั้น จึงควรผ่อนปรนให้โอกาสเด็กในส่วนนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม หาก กยศ. ยืนยันจะใช้เกณฑ์เฉลี่ยขั้นต่ำผู้มีสิทธิกู้ยืมทั้งรายเก่าและใหม่อยู่ที่ 2.00 จริง ก็ควรมีช่องทางผ่อนผันให้เด็กที่เกรดเฉลี่ยไม่ถึง 2.00 ได้กู้ด้วย โดยอาจจะพิจารณาตามความจำเป็นและเหตุผล ซึ่งเชื่อว่าถ้ามีโอกาสได้พูดคุยทาง กยศ. เองก็คงเข้าใจและไม่ใจไม้ไส้ระกำกับเด็กเกินไป
นายกิตติพนธ์ รัตนานุกูล นักศึกษาปี 4 ภาควิชาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี ผู้กู้ยืมเงิน กยศ. กล่าวว่า อยากให้ทางกองทุนเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้มีโอกาสปรับตัว เพื่อทำให้เกรดเฉลี่ยสูงขึ้นตามที่กำหนด หรือควรใช้หลักเกณฑ์เดียวกับมหาวิทยาลัยที่มีกฎของการรีไทร์นักศึกษาที่มีผลการเรียนต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนดในแต่ละชั้นปี เช่น ปีที่ 1 ต้องไม่ต่ำกว่า 1.75 ปีที่ 2 ต้องไม่ต่ำกว่า 1.80 และเลื่อนลำดับเกรดเฉลี่ยสะสมไปเรื่อยๆ และเมื่อสำเร็จการศึกษาต้องไม่ต่ำกว่า 2.00 ซึ่งทุกมหาวิทยาลัยจะมีการกำหนดเกรดไม่แตกต่างกันมากนัก หากกองทุน กยศ. กำหนดเกรดที่ 2.00 จะเป็นการกดดันนักศึกษามากเกินไป โดยเฉพาะนักศึกษาที่เข้าเรียนในปีแรก ที่ต้องมีการปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ วิชาเรียนที่มีความแตกต่าง และยิ่งนักศึกษาที่มีปัญหาเรื่องฐานะทางบ้าน หากมีตัวแปรเรื่องผลการเรียนเข้าร่วมด้วยจะยิ่งกดดันนักศึกษามากขึ้น ดังนั้น กองทุน กยศ. จึงควรใช้เกณฑ์การรีไทร์นักศึกษามาเป็นตัวกลางในการกำหนดเกณฑ์การกู้ยืม เพื่อเป็นการผ่อนปรนให้กับนักศึกษา
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (18 มี.ค.) พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ยืนยันจะไม่อนุโลมให้ผู้กู้ยืมรายเก่าที่มีเกรดเฉลี่ยไม่ถึง 2.00 แต่ไม่ต่ำกว่า 1.75 มีสิทธิกู้ยืม กยศ. และจะขอใช้เกณฑ์ดังกล่าวกับผู้กู้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) ทั้งรายใหม่และรายเก่าด้วยเช่นกัน ว่า ถ้ามีโอกาสตนจะหารือเรื่องดังกล่าวกับทาง กยศ. เพราะอยากให้ทั้ง กยศ. และ กรอ. เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้กับนักเรียน นักศึกษา ทุกคนได้มีโอกาสเรียนอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งเด็กที่เรียนไม่เก่ง ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ตั้งใจเรียนทุกคน บางคนเรียนไม่เก่ง เพราะมีภาระความจำเป็น เช่น ต้องช่วยเหลืองานทางบ้าน ทำให้ผลการเรียนไม่ดี ดังนั้น จึงควรผ่อนปรนให้โอกาสเด็กในส่วนนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม หาก กยศ. ยืนยันจะใช้เกณฑ์เฉลี่ยขั้นต่ำผู้มีสิทธิกู้ยืมทั้งรายเก่าและใหม่อยู่ที่ 2.00 จริง ก็ควรมีช่องทางผ่อนผันให้เด็กที่เกรดเฉลี่ยไม่ถึง 2.00 ได้กู้ด้วย โดยอาจจะพิจารณาตามความจำเป็นและเหตุผล ซึ่งเชื่อว่าถ้ามีโอกาสได้พูดคุยทาง กยศ. เองก็คงเข้าใจและไม่ใจไม้ไส้ระกำกับเด็กเกินไป
นายกิตติพนธ์ รัตนานุกูล นักศึกษาปี 4 ภาควิชาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี ผู้กู้ยืมเงิน กยศ. กล่าวว่า อยากให้ทางกองทุนเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้มีโอกาสปรับตัว เพื่อทำให้เกรดเฉลี่ยสูงขึ้นตามที่กำหนด หรือควรใช้หลักเกณฑ์เดียวกับมหาวิทยาลัยที่มีกฎของการรีไทร์นักศึกษาที่มีผลการเรียนต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนดในแต่ละชั้นปี เช่น ปีที่ 1 ต้องไม่ต่ำกว่า 1.75 ปีที่ 2 ต้องไม่ต่ำกว่า 1.80 และเลื่อนลำดับเกรดเฉลี่ยสะสมไปเรื่อยๆ และเมื่อสำเร็จการศึกษาต้องไม่ต่ำกว่า 2.00 ซึ่งทุกมหาวิทยาลัยจะมีการกำหนดเกรดไม่แตกต่างกันมากนัก หากกองทุน กยศ. กำหนดเกรดที่ 2.00 จะเป็นการกดดันนักศึกษามากเกินไป โดยเฉพาะนักศึกษาที่เข้าเรียนในปีแรก ที่ต้องมีการปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ วิชาเรียนที่มีความแตกต่าง และยิ่งนักศึกษาที่มีปัญหาเรื่องฐานะทางบ้าน หากมีตัวแปรเรื่องผลการเรียนเข้าร่วมด้วยจะยิ่งกดดันนักศึกษามากขึ้น ดังนั้น กองทุน กยศ. จึงควรใช้เกณฑ์การรีไทร์นักศึกษามาเป็นตัวกลางในการกำหนดเกณฑ์การกู้ยืม เพื่อเป็นการผ่อนปรนให้กับนักศึกษา
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่