ก.แรงงาน ตั้งเป้าปี 58 ขยายมาตรฐานฝีมือแรงงานเพิ่ม 48 สาขานี้ เชื่อช่วยสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุน ชี้ ผู้ผ่านการทดสอบ - ทำงานอาชีพเสี่ยงอันตราย ยื่นใบรับรองต่อนายจ้างรับค่าแรงเพิ่มตามความสามารถ
วันนี้ (2 มี.ค.) ที่กระทรวงแรงงาน พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดงานวันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2558 พร้อมถวายเครื่องราชสักการะแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย” นำเหล่าข้าราชการ นายจ้างและลูกจ้าง ร่วมถวายสัตย์ปฏิญาณตน
พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า วันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ถือเป็นวันสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าแรงงานไทยมีศักยภาพในการผลิตสินค้า และสร้างความเชื่อมั่นให้กับทั้งนักลงทุนและผู้บริโภค ขณะเดียวกันแรงงานไทยควรได้รับการพัฒนาให้ได้มาตรฐาน เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ด้วย ซึ่งในปีนี้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) ตั้งเป้าจะกำหนดมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติเพิ่มอีก 48 สาขา ซึ่งขณะนี้รอประกาศในราชกิจจานุเบกษา จากเดิมที่มีอยู่ 153 สาขาที่ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เพื่อให้แรงงานในสาขาต่างๆ ในกลุ่ม โลจิสติกส์ ได้เข้ารับการทดสอบมาตรฐาน เพื่อรับใบรับรองความสามารถ และช่วยให้ได้รับค่าจ้างในอัตราที่สูงขึ้น
รมว.แรงงาน กล่าวด้วยว่า ส่วนการประกาศสาขาอาชีพที่เป็นอันตรายต่อสาธารณะ เช่น ช่างเชื่อมในอาคาร ช่างเดินไฟฟ้าในอาคาร ช่างแอร์ ซึ่งทำให้เกิดอันตราย ดังนั้น ต่อไปผู้ที่ทำงานในลักษณะนี้ต้องมีใบรับรองจึงจะสามารถทำงานเหล่านั้นได้ ส่วนการกำหนดค่าตอบแทนที่สูงขึ้นในสาขาที่มีฝีมือสูงกว่าปกติ ในระยะต้นต้องมองว่าเป็นช่างฝีมือที่มีความสามารถ เป็นที่ต้องการและฝีมือต้องสูงกว่าปกติแต่อย่างน้อยคนที่จะทำงานเหล่านี้ได้ต้องมีเอกสารรับรอง และต้องมีความเสี่ยง จึงต้องได้ค่าตอบแทนที่สูงขึ้น แต่จะได้เท่าไหร่นั้นขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดในรายละเอียด
“เรื่องมาตรฐานฝีมือแรงงานเป็นสิ่งสำคัญของประชาคมโลก และประชาคมอาเซียน ต่อไปนี้การเชื่อมต่อการทำงานจะเชื่อมกันทั้งภูมิภาคอาเซียนและในโลก ซึ่งจะรู้ว่าใครมีฝีมือต้องกำหนดกันด้วยมาตรฐาน วันนี้ประเทศไทยของเรามีมาตรฐานฝีมือซึ่งเทียบเท่ามาตรฐานฝีมือสากล” พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (2 มี.ค.) ที่กระทรวงแรงงาน พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดงานวันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2558 พร้อมถวายเครื่องราชสักการะแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย” นำเหล่าข้าราชการ นายจ้างและลูกจ้าง ร่วมถวายสัตย์ปฏิญาณตน
พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า วันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ถือเป็นวันสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าแรงงานไทยมีศักยภาพในการผลิตสินค้า และสร้างความเชื่อมั่นให้กับทั้งนักลงทุนและผู้บริโภค ขณะเดียวกันแรงงานไทยควรได้รับการพัฒนาให้ได้มาตรฐาน เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ด้วย ซึ่งในปีนี้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) ตั้งเป้าจะกำหนดมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติเพิ่มอีก 48 สาขา ซึ่งขณะนี้รอประกาศในราชกิจจานุเบกษา จากเดิมที่มีอยู่ 153 สาขาที่ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เพื่อให้แรงงานในสาขาต่างๆ ในกลุ่ม โลจิสติกส์ ได้เข้ารับการทดสอบมาตรฐาน เพื่อรับใบรับรองความสามารถ และช่วยให้ได้รับค่าจ้างในอัตราที่สูงขึ้น
รมว.แรงงาน กล่าวด้วยว่า ส่วนการประกาศสาขาอาชีพที่เป็นอันตรายต่อสาธารณะ เช่น ช่างเชื่อมในอาคาร ช่างเดินไฟฟ้าในอาคาร ช่างแอร์ ซึ่งทำให้เกิดอันตราย ดังนั้น ต่อไปผู้ที่ทำงานในลักษณะนี้ต้องมีใบรับรองจึงจะสามารถทำงานเหล่านั้นได้ ส่วนการกำหนดค่าตอบแทนที่สูงขึ้นในสาขาที่มีฝีมือสูงกว่าปกติ ในระยะต้นต้องมองว่าเป็นช่างฝีมือที่มีความสามารถ เป็นที่ต้องการและฝีมือต้องสูงกว่าปกติแต่อย่างน้อยคนที่จะทำงานเหล่านี้ได้ต้องมีเอกสารรับรอง และต้องมีความเสี่ยง จึงต้องได้ค่าตอบแทนที่สูงขึ้น แต่จะได้เท่าไหร่นั้นขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดในรายละเอียด
“เรื่องมาตรฐานฝีมือแรงงานเป็นสิ่งสำคัญของประชาคมโลก และประชาคมอาเซียน ต่อไปนี้การเชื่อมต่อการทำงานจะเชื่อมกันทั้งภูมิภาคอาเซียนและในโลก ซึ่งจะรู้ว่าใครมีฝีมือต้องกำหนดกันด้วยมาตรฐาน วันนี้ประเทศไทยของเรามีมาตรฐานฝีมือซึ่งเทียบเท่ามาตรฐานฝีมือสากล” พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
