พศ. เตรียมรายงาน สปช. ตั้งกรรมการปฏิรูปพระพุทธศาสนา ให้ มส. รับทราบ พร้อมหารือกรณี “ธัมมชโย” ปาราชิก 20 ก.พ. นี้ ด้าน ธรรมกาย ออกหนังสือแจง “ข้อกล่าวหาต่างๆ ยุติแล้ว” ขณะที่ ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย จับตาดูผลงานคณะกรรมการปฏิรูปพระพุทธศาสนาที่ สปช. ตั้งขึ้น ฮึ่ม หากเกิดผลกระทบคณะสงฆ์จะมีแนวทางดำเนินการ
สืบเนื่องมาจาก นายไพศาล พืชมงคล อดีตสมาชิกวุฒิสภา และอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว เปิดเผยถึงการประชุม ณ รัฐสภา ของคณะกรรมาธิการการศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยมี นายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นประธาน ว่า ผู้แทนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้เข้าชี้แจงในที่ประชุมว่า ตามลิขิตสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ซึ่งมีพระลิขิตลงวันที่ 26 เมษายน 2542 นั้น ชี้ชัดว่า พระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และประธานมูลนิธิธรรมกาย ต้องอาบัติปาราชิก พ้นจากความเป็นสมณะโดยอัตโนมัตินั้น
วันนี้ (19 ก.พ.) สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ในฐานะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวจะมีการหารือในที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ซึ่งจะมีการพิจารณากันอีกครั้ง
ด้าน นายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ในการประชุม มส. วันที่ 20 ก.พ. นี้ จะมีการนำเรื่องที่ สภาปฎิรูปแห่งชาติ (สปช.) แต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา โดยมี นายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นประธานคณะกรรมการ และมีกรรมการรวมทั้งหมด 16 คน รายงานให้ที่ประชุม มส. ได้รับทราบ ทั้งนี้ ในเบื้องต้นว่า ที่ประชุม มส. จะมีการหยิบยกเรื่องของพระลิขิต เมื่อปี 2542 มาพิจารณาด้วย ซึ่งคงต้องรอดูว่า ทาง มส. จะมีแนวทางออกมาอย่างไร
ในวันเดียวกัน พระสนิทวงศ์ วุฑฺฒิวํโส ผอ.สำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย ได้ออกหนังสือ เรื่องวัดพระธรรมกาย ชี้แจง “ข้อกล่าวหาต่างๆ ยุติแล้ว” โดยระบุว่า จากกรณีข่าวที่ปรากฏในสื่อต่างๆ วัดพระธรรมกายขอยืนยันว่า “ข้อกล่าวหาต่างๆ ยุติแล้ว” จึงเจริญพรมาเพื่อทราบและโปรดเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องแก่สาธารณชนด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้ลงนามในคำสั่งที่ 8 /2558 เรื่อง ตั้งคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนาขึ้น โดยมี รศ.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ เป็นที่ปรึกษาและกรรมการ มี นายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นประธานคณะกรรมการ รวมทั้งหมด 16 คน ซึ่งการตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าว สปช. เห็นว่า ปัจจุบันเกิดปัญหาในกิจการพระพุทธศาสนามากมาย สาเหตุส่วนหนึ่งมาจาก พ.ร.บ. คณะสงฆ์ 2505 ที่เน้นการปกครองภายในคณะสงฆ์เป็นส่วนใหญ่ โดยขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน ดังนั้น คณะสงฆ์จึงดำเนินการกิจการพระพุทธศาสนาขึ้นอย่างเอกเทศ โดยปราศจากการมีส่วนร่วมของประชาชน จึงเกิดปัญหาความเสื่อมถอยและความศรัทธาในคณะสงฆ์ทั้งจากภายในและภายนอก ซึ่งหากไม่ได้รับการปฏิรูปโครงสร้างอย่างจริงจังทั้งระบบ จะส่งผลให้กิจการพระพุทธศาสนาในสังคมไทยเลื่อมลงตามลำดับ ทาง สปช. จึงอาศัยอำนาจตามข้อบังคับการประชุมสภาปฎิรูปแห่งชาติ พ.ศ. 2557 ข้อ 10(5) จึงแต่งตั้งกรรมการชุดดังกล่าวขึ้น
สำหรับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการมีดังนี้ 1. ศึกษา วิเคราะห์ ประเด็นปัญหาสำคัญของพระพุทธศาสนาในสังคมไทย เพื่อกำหนดแนวทางปฏิรูปโครงสร้างกิจการพระพุทธศาสนา เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น 2. พิจารณาดำเนินการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมและแสดงความคิดเห็นในการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 3. จัดทำข้อเสนอแนะต่อประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการและยกร่างพระราชบัญญัติ เพื่อการปฏิรูปกิจการศาสนาและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา โดยให้คำนึงถึงการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนของพุทธบริษัท 4. รายงานความคืบหน้าให้ประธาน สปช. ทราบ 5. ปฏิบัติงานอื่นตามที่ประธาน สปช.มอบหมาย และ 6. ตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงาน เพื่อดำเนินการตามที่คณะกรรมการมอบหมาย
ขณะที่ พระเทพวิสุทธิกวี(เกษม สญฺญโต) เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ได้เห็นเอกสารการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวแล้ว ทราบว่า ไม่มีพระสงฆ์เป็นที่ปรึกษาหรือเป็นคณะกรรมการแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาฯ จะยังคงต้องรอดูว่า คณะกรรมการชุดนี้ จะดำเนินการอย่างไรเกี่ยวกับการพิทักษ์พระพุทธศาสนา รวมถึงการปรับโครงสร้างคณะสงฆ์ คงต้องรอให้ทำงานเสียก่อน ทางศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาฯจะไม่ติก่อนที่คณะกรรมการชุดนี้จะทำงาน หากทำงานแล้ว เกิดผลกระทบต่อคณะสงฆ์ก็คงจะต้องมีแนวทางดำเนินการต่อไป
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
กำลังโหลดเครื่อง oncothermia ความหวังใหม่รักษามะเร็งเต้านม-ตับระยะท้าย ใช้คลื่นวิทยุยิงเฉพาะจุดมะเร็งจนเกิดความร้อน เอื้อยาเคมีบำบัดเข้าถึงมะเร็งง่ายขึ้น ผลศึกษาก้แนมะเร็งเต้านมยุบทั้งหมด 22% ผู้ป่วยมะเร็งตับอายุยืนขึ้น