ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้...
เข้าสู่เทศกาลตรุษจีน เรามักจะนึกถึงประเพณีไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ รวมญาติ แต๊ะเอีย อั่งเปา และการหยุดงานหลายวัน เพราะถือว่าเป็นเทศกาลขึ้นปีใหม่ของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน ที่ยังคงให้ความสำคัญเกี่ยวกับเทศกาลนี้กันอย่างต่อเนื่องไม่เสื่อมคลาย
ผู้คนส่วนใหญ่ก็จะเตรียมการณ์เรื่องพิธีกรรม เรื่องอาหารการกิน เครื่องไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ บรรดาศาลเจ้าก็จะเต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมากที่แห่แหนกันไปไหว้เจ้า เพื่อขอพร ความเป็นสิริมงคลให้เกิดแก่ตัวเองและครอบครัว รวมไปถึงถ้าปีเกิดของใครชง ก็จะมีการสะเดาะเคราะห์กันด้วย เรียกว่าเป็นความเชื่อคู่ขนานมากับเทศกาลตรุษจีนกันทีเดียวเชียว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใน 15 วัน หรือบรรดาชาวจีนจะเรียกว่าจับโหงว คือจะไหว้เจ้าขอพร หรือจะสะเดาะเคราะห์ก็จะอยู่ในช่วงเวลา 15 วัน นับตั้งแต่วันตรุษจีน
ความจริงเทศกาลปีใหม่ของชาวจีนก็คึกคักไม่แพ้เทศกาลปีใหม่ของชาวไทย หรือปีใหม่สากล ก็คือจะมีการเฉลิมฉลองตามขนบประเพณีของแต่ละชนชาติ และก็จะมีผู้คนเดินทางท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เรื่องอุบัติเหตุจึงเกิดขึ้นไม่น้อยในช่วงเทศกาลเช่นกัน
แต่อีกเรื่องที่อยากจะเตือนในช่วงเทศกาลตรุษจีนก็คือ เรื่องอุบัติภัยที่มาพร้อมกันเสมอ ๆ จึงน่าจะถือโอกาสนี้ในการสอนให้ลูกหลานได้เรียนรู้ในช่วงเทศกาล และถือโอกาสให้ระมัดระวังอุบัติภัยที่มักเกิดในช่วงนี้ด้วย ทั้งยังควรจะสอดแทรกการสอนวิธีการปฏิบัติตัวที่ถูกวิธีด้วย
ภัยที่มักจะเกิดในช่วงเทศกาลตรุษจีนมีอะไรบ้าง
หนึ่งเรื่องไฟไหม้
เป็นธรรมดาจริงๆ เรื่องไหว้เจ้าที่ต้องมีการจุดธูปเทียน มักจะทำให้เกิดเพลิงไหม้อยู่ทุกปี มากน้อยขึ้นอยู่กับความประมาทของแต่ละคน เพราะนอกจากจุดธูปเทียนแล้ว ก็มีการเผากระดาษเงินกระดาษทอง ซึ่งมีความสุ่มเสี่ยงเหลือเกินต่อการเกิดไฟไหม้
การสอนให้ลูกหลานได้เรียนรู้ว่าการเผากระดาษเงินกระดาษทองต้องคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย ตั้งแต่ภาชนะสำหรับเผาไหม้ ก็ต้องเลือกให้เหมาะและถูกจัดวางในพื้นที่ที่ปลอดภัย คำนึงถึงพื้นที่แวดล้อมที่เหมาะสมด้วย ไม่ใช่ในพื้นที่เปิดโล่ง ประเภทลมแรง เพราะมีโอกาสที่กระดาษที่ถูกเผาไหม้ จะปลิวไปถูกวัสดุอื่นๆ ได้ ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องอยู่ต้นลม และคอยดูจนกว่าแน่ใจว่าจะเผาไหม้หมดแล้ว
ที่สำคัญ ต้องไม่ปล่อยให้เด็กอยู่ตามลำพังหรือปล่อยให้เด็กเป็นผู้เผากระดาษเงินกระดาษทอง โดยไม่มีผู้ใหญ่อยู่ด้วยเด็ดขาด
สองควันไฟจากธูปเทียน
เรื่องควันธูปเทียนเป็นอันตรายอีกเรื่องหนึ่งที่ถูกมองข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาต้องไปไหว้เจ้าในสถานที่ผู้คนแออัด ควรจะมีการเตรียมตัวให้ดี ถ้าบ้านไหนมีลูกเล็ก ไม่แนะนำให้พาไปด้วยเลย เพราะนอกจากผู้คนจะแออัดแล้ว ยังเต็มไปด้วยควันไฟมากมายที่เป็นอันตรายต่อทั้งการสูดดมและเข้าตาอีกต่างหาก ทางที่ดีควรจะสวมใส่แว่นตากันแดด หรือถ้าเป็นกลางคืนก็ต้องสวมแว่นตาด้วยเช่นกัน และควรสวมหน้ากากปิดปากและจมูกด้วย ไม่ต้องอายหรือกลัวเป็นเป้าสายตาของคนอื่น เพราะอันตรายจากควันของธูปเทียนทั้งหลายจำนวนมาก มีความเสี่ยงต่อการก่อให้เกิดสารก่อมะเร็งได้ด้วย
ล่าสุด จากการวิจัยของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ พบว่า การเผาไหม้ของกระดาษเงิน กระดาษทอง ทำให้เกิดสารก่อมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ทำจากระดาษเคลือบเงินสีสันสวยงาม มันวาว ซึ่งเมื่อเผาไหม้ล้วนแต่ก่อสารโลหะหนักไม่ต่างจากควันธูป โดยพบสาร 4 ชนิด ได้แก่ โครเมียม นิกเกิล ตะกั่ว และแมงกานีส โดยโครเมียม และนิกเกิล จะทำให้เกิดโรคมะเร็งปอด สารตะกั่ว มีผลต่อพัฒนาการทางสมองของเด็ก ทำให้เลือดจาง ไตวาย และแมงกานีส มีผลทำให้เกิดโรคพาร์กินสันได้ในผู้สูงอายุ
วิธีการป้องกันตนเองให้พ้นจากภัยสารเคมีจากการเผากระดาษเงิน กระดาษทอง ธูป เทียน จึงควรเผานอกอาคารที่พักอาศัยและเผาทีละน้อย เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของเขม่าเถ้ากระดาษ และไม่ควรเผาขณะที่มีเด็กหรือมีผู้คนเดินผ่านไปมา ส่วนการป้องกันอันตรายจากธูป เทียน ควรเปิดประตู หน้าต่างทุกครั้ง รวมถึงเปิดพัดลมเพื่อช่วยระบายอากาศหรือควันธูปเทียน
สามจากการถูกหลอกลวง
เนื่องจากถือเป็นเทศกาลปีใหม่ของชาวจีน ก็จะมีบรรดาผู้คนที่ชอบฉกฉวยโอกาสด้วยการไปขอสตางค์หรือเงินจากบ้านที่มีการไหว้เจ้าหรือไหว้บรรพบุรุษ เพราะเข้าใจดีว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะไม่ไล่ หรือจะยอมจำนนให้เงินแก่พวกเขาแต่โดยดี เพราะเห็นเป็นช่วงปีใหม่ ก็เลยมักจะหยวน ๆ แม้ไม่อยากให้ แต่ตัดความรำคาญและไม่อยากเสียฤกษ์ตั้งแต่ต้นปี บรรดาพวกฉวยโอกาสก็จะอาศัยช่วงเวลาเหล่านี้ในการทำมาหากินกับความเชื่อของผู้คน
สี่อุบัติเหตุจากการเดินทาง
ทุกเทศกาลตรุษจีนไม่แตกต่างจากช่วงปีใหม่หรือสงกรานต์ ที่จะมีผู้คนเดินทางไปท่องเที่ยวมากมาย โดยเฉพาะคนไทยเชื้อสายจีนที่มักจะหยุดกิจการหรือหยุดงานในวันตรุษจีน เพราะมีความเชื่อว่าวันตรุษจีนคือวันเที่ยว ไม่ควรทำงาน เพราะไม่เช่นนั้นต้องทำงานหนักตลอดทั้งปี จึงทำให้มีการปิดกิจการห้างร้านติดต่อกัน 2- 3 วัน และปล่อยให้พนักงานหรือคนทำงานบ้านได้หยุดพักผ่อนไปด้วย และแน่นอนว่า เมื่อมีการเดินทางไปท่องเที่ยวในช่วงเวลาเดียวกัน และมีผู้คนจำนวนมาก ความเสี่ยงภัยบนท้องถนนก็มากตามไปด้วย ทุกปีก็จะมีการรายงานว่ามีอุบัติเหตุในช่วงตรุษจีนที่ติดโผมีเหตุอุบัติเหตุจำนวนมากเช่นกัน
ห้าอาหารเป็นพิษ
อาหารในช่วงเทศกาลจะมีจำนวนมาก เพราะต้องทำสำหรับไหว้เจ้าหรือไหว้บรรพบุรุษ เมื่อไหว้เสร็จแล้วควรต้องมีการอุ่นร้อนอีกครั้งก่อนที่จะรับประทาน เพราะอาหารที่ถูกวางไว้นานๆ อาจมีสิ่งสกปรกหรือสิ่งแปลกปลอมได้ อีกทั้งเมื่อทำอาหารจำนวนมาก อาจกินไม่หมด ต้องเก็บไว้กินวันอื่น ฉะนั้น ต้องมีการเก็บถนอมอาหารที่ถูกวิธีด้วย เพราะไม่เช่นนั้นแล้วอาจทำให้เกิดอาการท้องเสียได้
เรื่องเหล่านี้มักถูกมองข้ามอยู่เสมอ พ่อแม่ ผู้ปกครองน่าจะถือโอกาสสอนให้ลูกหลานได้เรียนรู้เรื่องความปลอดภัยผ่านชีวิตจริงจากเทศกาลตรุษจีนนะคะ
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
เข้าสู่เทศกาลตรุษจีน เรามักจะนึกถึงประเพณีไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ รวมญาติ แต๊ะเอีย อั่งเปา และการหยุดงานหลายวัน เพราะถือว่าเป็นเทศกาลขึ้นปีใหม่ของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน ที่ยังคงให้ความสำคัญเกี่ยวกับเทศกาลนี้กันอย่างต่อเนื่องไม่เสื่อมคลาย
ผู้คนส่วนใหญ่ก็จะเตรียมการณ์เรื่องพิธีกรรม เรื่องอาหารการกิน เครื่องไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ บรรดาศาลเจ้าก็จะเต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมากที่แห่แหนกันไปไหว้เจ้า เพื่อขอพร ความเป็นสิริมงคลให้เกิดแก่ตัวเองและครอบครัว รวมไปถึงถ้าปีเกิดของใครชง ก็จะมีการสะเดาะเคราะห์กันด้วย เรียกว่าเป็นความเชื่อคู่ขนานมากับเทศกาลตรุษจีนกันทีเดียวเชียว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใน 15 วัน หรือบรรดาชาวจีนจะเรียกว่าจับโหงว คือจะไหว้เจ้าขอพร หรือจะสะเดาะเคราะห์ก็จะอยู่ในช่วงเวลา 15 วัน นับตั้งแต่วันตรุษจีน
ความจริงเทศกาลปีใหม่ของชาวจีนก็คึกคักไม่แพ้เทศกาลปีใหม่ของชาวไทย หรือปีใหม่สากล ก็คือจะมีการเฉลิมฉลองตามขนบประเพณีของแต่ละชนชาติ และก็จะมีผู้คนเดินทางท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เรื่องอุบัติเหตุจึงเกิดขึ้นไม่น้อยในช่วงเทศกาลเช่นกัน
แต่อีกเรื่องที่อยากจะเตือนในช่วงเทศกาลตรุษจีนก็คือ เรื่องอุบัติภัยที่มาพร้อมกันเสมอ ๆ จึงน่าจะถือโอกาสนี้ในการสอนให้ลูกหลานได้เรียนรู้ในช่วงเทศกาล และถือโอกาสให้ระมัดระวังอุบัติภัยที่มักเกิดในช่วงนี้ด้วย ทั้งยังควรจะสอดแทรกการสอนวิธีการปฏิบัติตัวที่ถูกวิธีด้วย
ภัยที่มักจะเกิดในช่วงเทศกาลตรุษจีนมีอะไรบ้าง
หนึ่งเรื่องไฟไหม้
เป็นธรรมดาจริงๆ เรื่องไหว้เจ้าที่ต้องมีการจุดธูปเทียน มักจะทำให้เกิดเพลิงไหม้อยู่ทุกปี มากน้อยขึ้นอยู่กับความประมาทของแต่ละคน เพราะนอกจากจุดธูปเทียนแล้ว ก็มีการเผากระดาษเงินกระดาษทอง ซึ่งมีความสุ่มเสี่ยงเหลือเกินต่อการเกิดไฟไหม้
การสอนให้ลูกหลานได้เรียนรู้ว่าการเผากระดาษเงินกระดาษทองต้องคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย ตั้งแต่ภาชนะสำหรับเผาไหม้ ก็ต้องเลือกให้เหมาะและถูกจัดวางในพื้นที่ที่ปลอดภัย คำนึงถึงพื้นที่แวดล้อมที่เหมาะสมด้วย ไม่ใช่ในพื้นที่เปิดโล่ง ประเภทลมแรง เพราะมีโอกาสที่กระดาษที่ถูกเผาไหม้ จะปลิวไปถูกวัสดุอื่นๆ ได้ ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องอยู่ต้นลม และคอยดูจนกว่าแน่ใจว่าจะเผาไหม้หมดแล้ว
ที่สำคัญ ต้องไม่ปล่อยให้เด็กอยู่ตามลำพังหรือปล่อยให้เด็กเป็นผู้เผากระดาษเงินกระดาษทอง โดยไม่มีผู้ใหญ่อยู่ด้วยเด็ดขาด
สองควันไฟจากธูปเทียน
เรื่องควันธูปเทียนเป็นอันตรายอีกเรื่องหนึ่งที่ถูกมองข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาต้องไปไหว้เจ้าในสถานที่ผู้คนแออัด ควรจะมีการเตรียมตัวให้ดี ถ้าบ้านไหนมีลูกเล็ก ไม่แนะนำให้พาไปด้วยเลย เพราะนอกจากผู้คนจะแออัดแล้ว ยังเต็มไปด้วยควันไฟมากมายที่เป็นอันตรายต่อทั้งการสูดดมและเข้าตาอีกต่างหาก ทางที่ดีควรจะสวมใส่แว่นตากันแดด หรือถ้าเป็นกลางคืนก็ต้องสวมแว่นตาด้วยเช่นกัน และควรสวมหน้ากากปิดปากและจมูกด้วย ไม่ต้องอายหรือกลัวเป็นเป้าสายตาของคนอื่น เพราะอันตรายจากควันของธูปเทียนทั้งหลายจำนวนมาก มีความเสี่ยงต่อการก่อให้เกิดสารก่อมะเร็งได้ด้วย
ล่าสุด จากการวิจัยของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ พบว่า การเผาไหม้ของกระดาษเงิน กระดาษทอง ทำให้เกิดสารก่อมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ทำจากระดาษเคลือบเงินสีสันสวยงาม มันวาว ซึ่งเมื่อเผาไหม้ล้วนแต่ก่อสารโลหะหนักไม่ต่างจากควันธูป โดยพบสาร 4 ชนิด ได้แก่ โครเมียม นิกเกิล ตะกั่ว และแมงกานีส โดยโครเมียม และนิกเกิล จะทำให้เกิดโรคมะเร็งปอด สารตะกั่ว มีผลต่อพัฒนาการทางสมองของเด็ก ทำให้เลือดจาง ไตวาย และแมงกานีส มีผลทำให้เกิดโรคพาร์กินสันได้ในผู้สูงอายุ
วิธีการป้องกันตนเองให้พ้นจากภัยสารเคมีจากการเผากระดาษเงิน กระดาษทอง ธูป เทียน จึงควรเผานอกอาคารที่พักอาศัยและเผาทีละน้อย เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของเขม่าเถ้ากระดาษ และไม่ควรเผาขณะที่มีเด็กหรือมีผู้คนเดินผ่านไปมา ส่วนการป้องกันอันตรายจากธูป เทียน ควรเปิดประตู หน้าต่างทุกครั้ง รวมถึงเปิดพัดลมเพื่อช่วยระบายอากาศหรือควันธูปเทียน
สามจากการถูกหลอกลวง
เนื่องจากถือเป็นเทศกาลปีใหม่ของชาวจีน ก็จะมีบรรดาผู้คนที่ชอบฉกฉวยโอกาสด้วยการไปขอสตางค์หรือเงินจากบ้านที่มีการไหว้เจ้าหรือไหว้บรรพบุรุษ เพราะเข้าใจดีว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะไม่ไล่ หรือจะยอมจำนนให้เงินแก่พวกเขาแต่โดยดี เพราะเห็นเป็นช่วงปีใหม่ ก็เลยมักจะหยวน ๆ แม้ไม่อยากให้ แต่ตัดความรำคาญและไม่อยากเสียฤกษ์ตั้งแต่ต้นปี บรรดาพวกฉวยโอกาสก็จะอาศัยช่วงเวลาเหล่านี้ในการทำมาหากินกับความเชื่อของผู้คน
สี่อุบัติเหตุจากการเดินทาง
ทุกเทศกาลตรุษจีนไม่แตกต่างจากช่วงปีใหม่หรือสงกรานต์ ที่จะมีผู้คนเดินทางไปท่องเที่ยวมากมาย โดยเฉพาะคนไทยเชื้อสายจีนที่มักจะหยุดกิจการหรือหยุดงานในวันตรุษจีน เพราะมีความเชื่อว่าวันตรุษจีนคือวันเที่ยว ไม่ควรทำงาน เพราะไม่เช่นนั้นต้องทำงานหนักตลอดทั้งปี จึงทำให้มีการปิดกิจการห้างร้านติดต่อกัน 2- 3 วัน และปล่อยให้พนักงานหรือคนทำงานบ้านได้หยุดพักผ่อนไปด้วย และแน่นอนว่า เมื่อมีการเดินทางไปท่องเที่ยวในช่วงเวลาเดียวกัน และมีผู้คนจำนวนมาก ความเสี่ยงภัยบนท้องถนนก็มากตามไปด้วย ทุกปีก็จะมีการรายงานว่ามีอุบัติเหตุในช่วงตรุษจีนที่ติดโผมีเหตุอุบัติเหตุจำนวนมากเช่นกัน
ห้าอาหารเป็นพิษ
อาหารในช่วงเทศกาลจะมีจำนวนมาก เพราะต้องทำสำหรับไหว้เจ้าหรือไหว้บรรพบุรุษ เมื่อไหว้เสร็จแล้วควรต้องมีการอุ่นร้อนอีกครั้งก่อนที่จะรับประทาน เพราะอาหารที่ถูกวางไว้นานๆ อาจมีสิ่งสกปรกหรือสิ่งแปลกปลอมได้ อีกทั้งเมื่อทำอาหารจำนวนมาก อาจกินไม่หมด ต้องเก็บไว้กินวันอื่น ฉะนั้น ต้องมีการเก็บถนอมอาหารที่ถูกวิธีด้วย เพราะไม่เช่นนั้นแล้วอาจทำให้เกิดอาการท้องเสียได้
เรื่องเหล่านี้มักถูกมองข้ามอยู่เสมอ พ่อแม่ ผู้ปกครองน่าจะถือโอกาสสอนให้ลูกหลานได้เรียนรู้เรื่องความปลอดภัยผ่านชีวิตจริงจากเทศกาลตรุษจีนนะคะ
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
กำลังโหลดเครื่อง oncothermia ความหวังใหม่รักษามะเร็งเต้านม-ตับระยะท้าย ใช้คลื่นวิทยุยิงเฉพาะจุดมะเร็งจนเกิดความร้อน เอื้อยาเคมีบำบัดเข้าถึงมะเร็งง่ายขึ้น ผลศึกษาก้แนมะเร็งเต้านมยุบทั้งหมด 22% ผู้ป่วยมะเร็งตับอายุยืนขึ้น