บอร์ด สปสช. เคาะจัดสรรงบปี 2558 ตามรูปแบบเดิม แต่ยืดหยุ่นขึ้นตามข้อเสนอคณะอนุฯการเงินการคลัง การันตีงบเหมาจ่ายรายหัว 80% ตั้งแต่ต้นปีช่วย รพ. บริหารจัดการคล่อง ยกเลิกดึงงบคืนปลายปี ให้ปรับเกลี่ยตามผลงานในเขต ระบุกันเงินระดับเขต ให้ได้ตามความจำเป็นไม่เกิน 5% เผยเตรียมเสนอ ครม. ของบเหมาจ่ายรายหัวปี 59 เพิ่มเป็น 3,160.94 บาทต่อคน รวมกว่า 1.77 แสนล้านบาท
วันนี้ (9 ก.พ.) ในการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ซึ่งมี ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และประธานบอร์ด สปสช. เป็นประธานนั้น มีการพิจารณาเรื่อง การปรับแก้แนวทางการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติปีงบประมาณ 2558 ตามข้อเสนอของคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบการเงินการคลัง ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ. ไม่ได้เข้าร่วมด้วย แต่มอบหมายให้ นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัด สธ. มาเป็นตัวแทน ขณะที่กลุ่มแพทย์ชนบท มี นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผอ.รพ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ประธานชมรมแพทย์ชนบท และ นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผอ.รพ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เข้าร่วมประชุมด้วย หลังได้รับเชิญให้เข้าร่วมในสัดส่วนของ กรรมการ สปสช. สัดส่วนภาคประชาชน
ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติให้ดำเนินการจัดสรรงบเหมาจ่ายรายหัวขาลงปี 2558 ในรูปแบบเดิม แต่เห็นชอบในข้อเสนอของคณะอนุฯการเงินการคลัง เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่ามีความยืดหยุ่น สามารถดำเนินการได้ โดยไม่ต้องปรับแก้ประกาศกองทุนที่บอร์ด สปสช.มีมติออกไปแล้ว โดยส่วนที่มีความยืดหยุ่นสามารถปรับการดำเนินการได้นั่นคือ กรณีเงินเดือนข้าราชการ สป.สธ.ที่หักออกจากงบเหมาจ่ายรายหัวแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ การบริหารระดับประเทศหักไม่เกิน 1% ตามประกาศเดิม ส่วนการบริหารระดับเขตให้เป็นไปตามข้อเท็จจริงแขตละไม่เกิน 2% แต่หากบางเขตต้องการกันเงินเกิน 2% ต้องไม่เกิน 5% โดยให้คณะอนุฯการเงินการคลังพิจารณาตามความจำเป็น ภายใน มี.ค. 2558
ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่ สป.สธ. ห่วง คือ การจ่ายเงินล่วงหน้าให้โรงพยาบาลแล้วมีการหักเงินปลายปี ทำให้โรงพยาบาลไม่สามารถบริหารจัดการ หรือพัฒนาโรงพยาบาลได้นั้น ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการการันตีงบตั้งแต่ต้นปีอย่างต่ำ 80% เพื่อให้โรงพยาบาลสามารถบริหารจัดการได้ และจะไม่มีการหักงบประมาณปลายปี โดยจะให้เกลี่ยงบจากโรงพยาบาลที่มีผลงานเกินเป้าช่วยเหลือโรงพยาบาลที่มีผลงานไม่ถึงตามเป้าที่กำหนด โดยจะมีงบอีก 20% ปรับเกลี่ยช่วยเหลือ
"ขณะที่การทำงานในระดับเขตให้มีคณะกรรมการร่วม โดยปรับปรุง อปสข. ให้มีตัวแทนหน่วยบริการทุกสังกัด และร่วมกันกำหนดเป้าหมายรายการบริการกรณีเฉพาะที่ระดับเขต โดนเริ่มจากการผ่าตัดตาต้อกระจก และโรคหอบหืดและปอดอุดกั้นเรื้อรัง ที่สำคัญ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการและพัฒนาการบริการภายในเขตได้อย่างต่อเนื่องในระยะสั้นขอให้ สปสช. และ สธ. ติดตามและเสนอข้อมูลบริการให้ระดับเขตกับทุกฝ่ายสม่ำเสมอ ส่วนระยะยาวจะจัดตั้งหน่วยงานกลางทำหน้าที่ธุรกรรมเบิกจ่ายระดับชาติ (เคลียริงเฮาส์) ให้สามารถเป็นผู้สนับสนุนข้อมูลพื้นฐานต่อไป" ประธานบอร์ด สปสช. กล่าว
ดร.คณิศ แสงสุพรรณ ประธานคณะอนุฯการเงินการคลัง กล่าวว่า งบเหมาจ่ายรายหัวที่จัดสรรไปยังหน่วยบริการแล้วขณะนี้ยังไม่ถึงเงินขั้นต่ำ 80% ที่กำหนดไว้ แต่จะเร่งให้แล้วเสร็จภายใน มี.ค. นี้เช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมยังมีข้อเสนอของบประมาณเหมาจ่ายรายหัวขาขึ้นปี 2559 ด้วย โดย ดร.คณิศ กล่าวว่า คณะอนุฯ มีข้อเสนอขอเพิ่มงบเหมาจ่ายรายหัวเพิ่มจาก 153,151.66 ล้านบาท ในปี 2558 เป็น 177,743.86 ล้านบาท ในปี 2559 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.1 โดยคิดเป็นงบเหมาจ่ายรายหัวเพิ่มจากเดิม 2,895.90 บาทต่อคนในปี 2558 เป็น 3,160.94 บาทต่อคนในปี 2559 โดยจะเตรียมเสนอ ครม. ต่อไป
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (9 ก.พ.) ในการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ซึ่งมี ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และประธานบอร์ด สปสช. เป็นประธานนั้น มีการพิจารณาเรื่อง การปรับแก้แนวทางการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติปีงบประมาณ 2558 ตามข้อเสนอของคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบการเงินการคลัง ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ. ไม่ได้เข้าร่วมด้วย แต่มอบหมายให้ นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัด สธ. มาเป็นตัวแทน ขณะที่กลุ่มแพทย์ชนบท มี นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผอ.รพ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ประธานชมรมแพทย์ชนบท และ นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผอ.รพ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เข้าร่วมประชุมด้วย หลังได้รับเชิญให้เข้าร่วมในสัดส่วนของ กรรมการ สปสช. สัดส่วนภาคประชาชน
ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติให้ดำเนินการจัดสรรงบเหมาจ่ายรายหัวขาลงปี 2558 ในรูปแบบเดิม แต่เห็นชอบในข้อเสนอของคณะอนุฯการเงินการคลัง เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่ามีความยืดหยุ่น สามารถดำเนินการได้ โดยไม่ต้องปรับแก้ประกาศกองทุนที่บอร์ด สปสช.มีมติออกไปแล้ว โดยส่วนที่มีความยืดหยุ่นสามารถปรับการดำเนินการได้นั่นคือ กรณีเงินเดือนข้าราชการ สป.สธ.ที่หักออกจากงบเหมาจ่ายรายหัวแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ การบริหารระดับประเทศหักไม่เกิน 1% ตามประกาศเดิม ส่วนการบริหารระดับเขตให้เป็นไปตามข้อเท็จจริงแขตละไม่เกิน 2% แต่หากบางเขตต้องการกันเงินเกิน 2% ต้องไม่เกิน 5% โดยให้คณะอนุฯการเงินการคลังพิจารณาตามความจำเป็น ภายใน มี.ค. 2558
ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่ สป.สธ. ห่วง คือ การจ่ายเงินล่วงหน้าให้โรงพยาบาลแล้วมีการหักเงินปลายปี ทำให้โรงพยาบาลไม่สามารถบริหารจัดการ หรือพัฒนาโรงพยาบาลได้นั้น ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการการันตีงบตั้งแต่ต้นปีอย่างต่ำ 80% เพื่อให้โรงพยาบาลสามารถบริหารจัดการได้ และจะไม่มีการหักงบประมาณปลายปี โดยจะให้เกลี่ยงบจากโรงพยาบาลที่มีผลงานเกินเป้าช่วยเหลือโรงพยาบาลที่มีผลงานไม่ถึงตามเป้าที่กำหนด โดยจะมีงบอีก 20% ปรับเกลี่ยช่วยเหลือ
"ขณะที่การทำงานในระดับเขตให้มีคณะกรรมการร่วม โดยปรับปรุง อปสข. ให้มีตัวแทนหน่วยบริการทุกสังกัด และร่วมกันกำหนดเป้าหมายรายการบริการกรณีเฉพาะที่ระดับเขต โดนเริ่มจากการผ่าตัดตาต้อกระจก และโรคหอบหืดและปอดอุดกั้นเรื้อรัง ที่สำคัญ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการและพัฒนาการบริการภายในเขตได้อย่างต่อเนื่องในระยะสั้นขอให้ สปสช. และ สธ. ติดตามและเสนอข้อมูลบริการให้ระดับเขตกับทุกฝ่ายสม่ำเสมอ ส่วนระยะยาวจะจัดตั้งหน่วยงานกลางทำหน้าที่ธุรกรรมเบิกจ่ายระดับชาติ (เคลียริงเฮาส์) ให้สามารถเป็นผู้สนับสนุนข้อมูลพื้นฐานต่อไป" ประธานบอร์ด สปสช. กล่าว
ดร.คณิศ แสงสุพรรณ ประธานคณะอนุฯการเงินการคลัง กล่าวว่า งบเหมาจ่ายรายหัวที่จัดสรรไปยังหน่วยบริการแล้วขณะนี้ยังไม่ถึงเงินขั้นต่ำ 80% ที่กำหนดไว้ แต่จะเร่งให้แล้วเสร็จภายใน มี.ค. นี้เช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมยังมีข้อเสนอของบประมาณเหมาจ่ายรายหัวขาขึ้นปี 2559 ด้วย โดย ดร.คณิศ กล่าวว่า คณะอนุฯ มีข้อเสนอขอเพิ่มงบเหมาจ่ายรายหัวเพิ่มจาก 153,151.66 ล้านบาท ในปี 2558 เป็น 177,743.86 ล้านบาท ในปี 2559 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.1 โดยคิดเป็นงบเหมาจ่ายรายหัวเพิ่มจากเดิม 2,895.90 บาทต่อคนในปี 2558 เป็น 3,160.94 บาทต่อคนในปี 2559 โดยจะเตรียมเสนอ ครม. ต่อไป
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่