xs
xsm
sm
md
lg

เตือนเก็บ “กระป๋องสเปรย์” ในรถสุดอันตราย เสี่ยงระเบิด!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สพฉ. เตือนเก็บกระป๋องสเปรย์ไว้ในรถสุดอันตราย เสี่ยงระเบิดทำกระจกหน้ารถแตก เกิดอุบัติเหตุขณะขับรถ หากเก็บไว้หลังรถ เสี่ยงทำรถติดแก๊สไฟไหม้และระเบิด แนะวิธีเอาตัวรอด

นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวถึงกรณีกระป๋องสเปรย์ที่เก็บไว้ในรถยนต์ระเบิด จนรถได้รับความเสียหาย ว่า การเก็บกระป๋องสเปรย์ไว้ในรถยนต์โดยเฉพาะบริเวณคอนโซลติดกับกระจก อาจเกิดอันตรายได้ เพราะเมื่อกระป๋องสเปรย์ถูกความร้อน จะทำให้วัตถุและสารเคมีพร้อมแก๊สในกระป๋องขยายตัวจนระเบิด ส่งผลทำให้กระจกรถยนต์แตก ทำให้คนขับตกใจ และก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ทั้งนี้ หากรถเป็นกระจกนิรภัยแบบหลายชั้น จะมีเพียงรอยร้าวคล้ายใยแมงมุม ไม่มีเศษกระจกแยกออกจากกัน ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ที่อยู่ในรถ ส่วนกระจกนิรภัยแบบชั้นเดียว หรือแทปเปอร์ กระจกที่แตกมีลักษณะละเอียดเป็นเม็ดๆ และแตกร้าวเป็นฝ้าขาวจนมองไม่เห็นเส้นทาง ผู้ขับขี่ควรชะลอความเร็วแล้วเบี่ยงรถเข้าไหล่ทาง แต่หากยังมีกระจกบางส่วนติดค้างอยู่ ให้ใช้ไม้หุ้มผ้าหนาๆ หรือกระดาษหนังสือพิมพ์ทุบ หรือกระแทกเศษกระจกที่ยังติดอยู่ตามขอบกระจกออกให้หมด เพื่อป้องกันกระจกร่วงใส่ขณะขับรถ

หากมีความจำเป็นต้องขับรถต่อทั้งที่ไม่มีกระจกหน้า ให้ปิดกระจกด้านข้างทุกบาน เพื่อป้องกันแรงลมปะทะซึ่งจะทำให้รถเสียการทรงตัว และผู้ขับขี่ควรสวมแว่นกันแดด เพื่อป้องกันฝุ่นละอองและเศษกระจกที่อาจติดค้างกระเด็นใส่นัยน์ตา และหลีกเลี่ยงการขับรถเข้าใกล้รถที่บรรทุกวัสดุก่อสร้าง นอกจากนี้ ที่น่าห่วงคือการเก็บกระป๋องสเปรย์ไว้ในท้ายรถยนต์ที่ติดแก๊ส อาจเป็นตัวก่อให้เกิดประกายไฟได้ เมื่อผู้ขับขี่ได้ยินเสียงดัง และเริ่มสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ เช่น รถเริ่มมีควัน ให้รีบปิดสวิตช์ตัดการทำงานของระบบแก๊สและดับเครื่องยนต์ และรีบออกจากรถทันที พร้อมนำถังดับเพลิงเคมีฉีดพ่นบริเวณต้นเพลิง ซึ่งถือเป็นอุปกรณ์ที่ควรมีติดรถไว้โดยเฉพาะรถยนต์ที่ติดแก๊ส” เลขาธิการ สพฉ. กล่าว

นพ.อนุชา กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ไม่มีถังดับเพลิงให้ใช้ขวดน้ำฉีดบริเวณที่เกิดไฟไหม้ แต่หากไฟไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ให้ตั้งสติ ดับเครื่องยนต์แล้วรีบลงจากรถโดยออกห่างจากรถให้มากและเร็วที่สุดเพื่อป้องกันรถระเบิด อย่างไรก็ตาม หากมีผู้บาดเจ็บจากเหตุไฟไหม้ เมื่ออยู่ในพื้นที่ปลอดภัยแล้วให้ดูแลเบื้องต้นโดยถอดเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่ถูกไฟเผาไหม้ออก แต่หากถอดเสื้อผ้า หรือเครื่องประดับ และพบว่ามีการตึงรั้งควรหลีกเลี่ยง ห้ามใช้น้ำมัน โลชั่น ยาสีฟัน หรือยาปฏิชีวนะทาบนแผลเด็ดขาด แต่หากพบว่ามีบาดแผลถูกไฟไหม้วิกฤต คือ มีแผลขนาดใหญ่ หรือไหม้ลวกทางเดินหายใจ และมีการอาการกลืนลำบาก เสียงแหบ หายใจลำบาก หรือมีอาการสูดควันปริมาณมากจนผู้ประสบเหตุไม่รู้สึกตัว ให้รีบโทร.แจ้งขอความช่วยเหลือผ่าน สายด่วน 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือทางการแพทย์

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น