โรคเรื้อนในไทยลดลง แต่ผู้ป่วยรายใหม่พบความพิการรุนแรงเพิ่มขึ้น แนะสังเกตอาการผิวหนังผิดปกติ ตรวจวินิจฉัยเร็ว รักษาเร็ว ช่วยรักษาได้ ลดความพิการ สธ. เล็งจัดโครงการตรวจสุขภาพโรคเรื้อน พร้อมรักษาฟรี 16 ม.ค. 58 - 15 ม.ค. 59

วันนี้ (14 ม.ค.) ที่ศาลาบุหรงสรวลสันต์ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จ.นราธิวาส นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดโครงการ “ทศวรรษกำจัดโรคเรื้อนใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง” ว่า แม้สถานการณ์โรคเรื้อนในไทยมีแนวโน้มลดลงมาก โดยพบผู้ป่วยรายใหม่ 188 ราย ลดลงจากปี 2553 ที่พบรายใหม่ 405 ราย แต่กลับพบว่าผู้ป่วยรายใหม่มีความพิการขั้นรุนแรงก่อนมาพบแพทย์รักษามากขึ้น เช่น หนังตาปิดไม่สนิทเวลาหลับ นิ้วมือนิ้วเท้าหงิก งอ กุดหรือด้วน หรือเป็นแผล เป้นต้น จากปี 2553 ร้อยละ 14 เพิ่มเป็น ร้อยละ 16 ปี 2558 สธ.ร่วมกับราชประชาสมาสัย จัดโครงการร่มเกล้าราชประชาสมาสัย 55 ปีแห่งการสนองพระราชปณิธาน เพิ่มการค้นหาผู้ป่วยรายใหม่ทั้งชาวไทยและต่างชาติทุกสัญชาติ โดยตรวจสุขภาพ หากพบจะให้การรักษาฟรี กลุ่มที่เน้นเป็นพิเศษ ได้แก่ แรงงานข้ามชาติ เรือนจำ พื้นที่ชายแดน แรงงานย้ายถิ่น เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. 2558 - 15 ม.ค. 2559
“โรคเรื้อนเป็นโรคผิวหนัง ยังไม่มีวัคซีนหรือยาป้องกัน แต่มียารักษา วิธีการที่ดีที่สุดคือ ตรวจร่างกายให้รู้โรคเร็วที่สุด ประชาชนจึงควรสังเกตอาการผิดปกติที่ผิวหนัง หลังติดเชื้อประมาณ 3 - 5 ปี จะมีอาการปรากฏที่ผิวหนัง คือมีรอยวงสีแดง หรือสีขาวคล้ายเกลื้อน ขนภายในวงร่วง ไม่คัน อาจมีอาการชา ไม่มีไข้ หากได้รับการรักษาเร็ว ยาเม็ดแรกจะฆ่าเชื้อในร่างกายได้มากถึงร้อยละ 99 ภายใน 3 - 5 วัน จะไม่มีความพิการและไม่แพร่เชื้อสู่คนอื่น หากไม่ได้รับการรักษา เชื้อจะเข้าไปทำลายประสาทปลายมือปลายเท้าและปลายกระดูกอ่อน จะให้เกิดอาการชา หยิกไม่เจ็บจนถึงพิการ เริ่มตั้งแต่ข้อมือข้อเท้าอ่อนแรง กระดูกนิ้วมือนิ้วเท้าผิดรูป หงิกงอ นิ้วกุด หรือเท้าเป็นแผล ติดเชื้ออักเสบลุกลามจนถึงต้องตัดทิ้ง โรคนี้ใช้เวลารักษานาน 6 เดือนถึง 2 ปีขี้นอยู่กับความรุนแรง จึงขอให้ผู้ที่เป็นโรคผิวหนังหากรักษาไม่หายขาดใน 3 เดือน อย่าชะล่าใจ ให้พบแพทย์ใกล้บ้าน” ปลัด สธ. กล่าว
นพ.ธีรพล โตพันธานนท์ ผู้ตรวจราชการ สธ. เขตสุขภาพที่ 12 กล่าวว่า พื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง พบผู้ป่วยโรคเรื้อนอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้มีผู้ป่วยอยู่ระหว่างติดตามรักษา 82 ราย ในปี 2557 พบผู้ป่วยรายใหม่ 28 ราย จำนวนนี้เป็นเด็ก 3 ราย พบความพิการแล้วสูงถึงร้อยละ 29 มากที่สุดที่นราธิวาส 17 ราย ในปีนี้ได้จัดโครงการทศวรรษกำจัดโรคเรื้อน เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระชนมายุครบ 60 พรรษา ดำเนินการทั้ง 7 จังหวัดตลอดปี โดยมีหน่วยแพทย์ออกค้นหาผู้สัมผัสโรคเรื้อน เช่นผู้ที่อยู่ในบ้านหลังเดียวกับผู้ป่วย กลุ่มผู้ที่เป็นโรคผิวหนังรักษาไม่หายขาด กลุ่มแรงงานข้ามชาติ หากพบจะให้การรักษาฟรี และติดตามเฝ้าระวังอาการของคนในครอบครัวต่อเนื่องอีก 10 ปี
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (14 ม.ค.) ที่ศาลาบุหรงสรวลสันต์ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จ.นราธิวาส นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดโครงการ “ทศวรรษกำจัดโรคเรื้อนใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง” ว่า แม้สถานการณ์โรคเรื้อนในไทยมีแนวโน้มลดลงมาก โดยพบผู้ป่วยรายใหม่ 188 ราย ลดลงจากปี 2553 ที่พบรายใหม่ 405 ราย แต่กลับพบว่าผู้ป่วยรายใหม่มีความพิการขั้นรุนแรงก่อนมาพบแพทย์รักษามากขึ้น เช่น หนังตาปิดไม่สนิทเวลาหลับ นิ้วมือนิ้วเท้าหงิก งอ กุดหรือด้วน หรือเป็นแผล เป้นต้น จากปี 2553 ร้อยละ 14 เพิ่มเป็น ร้อยละ 16 ปี 2558 สธ.ร่วมกับราชประชาสมาสัย จัดโครงการร่มเกล้าราชประชาสมาสัย 55 ปีแห่งการสนองพระราชปณิธาน เพิ่มการค้นหาผู้ป่วยรายใหม่ทั้งชาวไทยและต่างชาติทุกสัญชาติ โดยตรวจสุขภาพ หากพบจะให้การรักษาฟรี กลุ่มที่เน้นเป็นพิเศษ ได้แก่ แรงงานข้ามชาติ เรือนจำ พื้นที่ชายแดน แรงงานย้ายถิ่น เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. 2558 - 15 ม.ค. 2559
“โรคเรื้อนเป็นโรคผิวหนัง ยังไม่มีวัคซีนหรือยาป้องกัน แต่มียารักษา วิธีการที่ดีที่สุดคือ ตรวจร่างกายให้รู้โรคเร็วที่สุด ประชาชนจึงควรสังเกตอาการผิดปกติที่ผิวหนัง หลังติดเชื้อประมาณ 3 - 5 ปี จะมีอาการปรากฏที่ผิวหนัง คือมีรอยวงสีแดง หรือสีขาวคล้ายเกลื้อน ขนภายในวงร่วง ไม่คัน อาจมีอาการชา ไม่มีไข้ หากได้รับการรักษาเร็ว ยาเม็ดแรกจะฆ่าเชื้อในร่างกายได้มากถึงร้อยละ 99 ภายใน 3 - 5 วัน จะไม่มีความพิการและไม่แพร่เชื้อสู่คนอื่น หากไม่ได้รับการรักษา เชื้อจะเข้าไปทำลายประสาทปลายมือปลายเท้าและปลายกระดูกอ่อน จะให้เกิดอาการชา หยิกไม่เจ็บจนถึงพิการ เริ่มตั้งแต่ข้อมือข้อเท้าอ่อนแรง กระดูกนิ้วมือนิ้วเท้าผิดรูป หงิกงอ นิ้วกุด หรือเท้าเป็นแผล ติดเชื้ออักเสบลุกลามจนถึงต้องตัดทิ้ง โรคนี้ใช้เวลารักษานาน 6 เดือนถึง 2 ปีขี้นอยู่กับความรุนแรง จึงขอให้ผู้ที่เป็นโรคผิวหนังหากรักษาไม่หายขาดใน 3 เดือน อย่าชะล่าใจ ให้พบแพทย์ใกล้บ้าน” ปลัด สธ. กล่าว
นพ.ธีรพล โตพันธานนท์ ผู้ตรวจราชการ สธ. เขตสุขภาพที่ 12 กล่าวว่า พื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง พบผู้ป่วยโรคเรื้อนอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้มีผู้ป่วยอยู่ระหว่างติดตามรักษา 82 ราย ในปี 2557 พบผู้ป่วยรายใหม่ 28 ราย จำนวนนี้เป็นเด็ก 3 ราย พบความพิการแล้วสูงถึงร้อยละ 29 มากที่สุดที่นราธิวาส 17 ราย ในปีนี้ได้จัดโครงการทศวรรษกำจัดโรคเรื้อน เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระชนมายุครบ 60 พรรษา ดำเนินการทั้ง 7 จังหวัดตลอดปี โดยมีหน่วยแพทย์ออกค้นหาผู้สัมผัสโรคเรื้อน เช่นผู้ที่อยู่ในบ้านหลังเดียวกับผู้ป่วย กลุ่มผู้ที่เป็นโรคผิวหนังรักษาไม่หายขาด กลุ่มแรงงานข้ามชาติ หากพบจะให้การรักษาฟรี และติดตามเฝ้าระวังอาการของคนในครอบครัวต่อเนื่องอีก 10 ปี
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่