ระวัง! อากาศประเทศไทยแปรปรวน ร้อน หนาว ฝนตก บางวันลดลงถึง 8 องศา เตือนเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ คนมีโรคประจำตัวรักษาสุขภาพ เสี่ยงโรคทางเดินหายใจ และโรคระบบทางเดินอาหาร
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้สภาพอากาศในประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงมาก โดยอุณหภูมิในวันเดียวลดลงถึง 8 องศาเซลเซียสนั้น กลุ่มที่จะต้องระมัดระวังตัวและถือเป็นกลุ่มเสี่ยงแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.ผู้สูงอายุ 2.เด็กเล็ก และ 3.ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคปอด และหัวใจ เนื่องจากเวลาอุณหภูมิเปลี่ยนกลุ่มผู้ป่วยเรื้อรังจะปรับตัวไม่ทัน ดังนั้น อาจทำให้โรคเดิมกำเริบได้ และจากการที่อุณหภูมิลดลง ยังจะส่งผลทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายลดลงตามไปด้วย ส่งผลให้เกิดการเจ็บป่วยได้ง่าย
“ช่วงนี้ประชาชนจึงควรใส่เสื้อผ้าให้อบอุ่น โดยเฉพาะช่วงหน้าอกและลำคอ รวมถึงหันมาใส่เสื้อผ้าให้หนาขึ้น นอกจากนี้หากฝนตกก็ไม่ควรไปตากฝน และหากเปียกฝนแล้วก็ควรเช็ดผมให้แห้งทุกครั้ง ทั้งนี้ โรคที่จะพบบ่อยในช่วงนี้คือไข้หวัดใหญ่และปอดบวม ต้องระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง และประชาชนที่อาศัยอยู่ตามที่สูงเพราะอากาศจะเย็นกว่าปกติมาก อย่างไรก็ตามในการดูแลสุขภาพร่างกายเบื้องต้นควรดื่มน้ำอุ่นบ่อยๆ ออกกำลังให้สม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ และพยายามหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเย็นจัด” รองอธิบดี คร. กล่าว
ด้าน นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ช่วงต้นปีเป็นช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง บางวันจะมีทั้งอากาศหนาวเย็น ร้อน และอาจมีฝนตก ซึ่งบางครั้งอาจเกิดขึ้นแบบฉับพลัน หากร่างกายปรับตัวไม่ทันอาจทำให้เกิดโรคต่างๆ ได้ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบต่อสุขภาพได้ง่าย จึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยโรคที่พบมาก 2 กลุ่ม คือ โรคระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม หัด และโรคระบบทางเดินอาหาร เช่น อาหารเป็นพิษและอุจจาระร่วง ดังนั้น พ่อ แม่ ผู้ปกครอง และผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุ จึงต้องมีความเข้าใจ และรู้จักการดูแลสุขภาพให้ปลอดภัยจากโรคต่างๆ ในช่วงที่อากาศเปลี่ยน
“วิธีการดูแลสุขภาพตนเองและบุคคลในครอบครัวช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง กลุ่มเด็กเล็กควรกินนมแม่เป็นประจำ จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน หลังจากนั้น สามารถให้นมแม่ควบคู่อาหารตามวัยจนอายุครบ 2 ปี สำหรับผู้สูงอายุควรออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ควบคู่กับรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ลดหวาน มัน เค็ม และรับประทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ปรุงอาหารสุกก่อนบริโภคและดื่มน้ำสะอาด ล้างมือทุกครั้งก่อน - หลังที่ทำกิจกรรมต่างๆ สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรังควรตรวจค่าความดันโลหิต ระดับน้ำตาลในเลือด และควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง และพักผ่อนให้เพียงพอ โดยสวมใส่เสื้อผ้าให้เหมาะสมกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง” อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้สภาพอากาศในประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงมาก โดยอุณหภูมิในวันเดียวลดลงถึง 8 องศาเซลเซียสนั้น กลุ่มที่จะต้องระมัดระวังตัวและถือเป็นกลุ่มเสี่ยงแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.ผู้สูงอายุ 2.เด็กเล็ก และ 3.ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคปอด และหัวใจ เนื่องจากเวลาอุณหภูมิเปลี่ยนกลุ่มผู้ป่วยเรื้อรังจะปรับตัวไม่ทัน ดังนั้น อาจทำให้โรคเดิมกำเริบได้ และจากการที่อุณหภูมิลดลง ยังจะส่งผลทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายลดลงตามไปด้วย ส่งผลให้เกิดการเจ็บป่วยได้ง่าย
“ช่วงนี้ประชาชนจึงควรใส่เสื้อผ้าให้อบอุ่น โดยเฉพาะช่วงหน้าอกและลำคอ รวมถึงหันมาใส่เสื้อผ้าให้หนาขึ้น นอกจากนี้หากฝนตกก็ไม่ควรไปตากฝน และหากเปียกฝนแล้วก็ควรเช็ดผมให้แห้งทุกครั้ง ทั้งนี้ โรคที่จะพบบ่อยในช่วงนี้คือไข้หวัดใหญ่และปอดบวม ต้องระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง และประชาชนที่อาศัยอยู่ตามที่สูงเพราะอากาศจะเย็นกว่าปกติมาก อย่างไรก็ตามในการดูแลสุขภาพร่างกายเบื้องต้นควรดื่มน้ำอุ่นบ่อยๆ ออกกำลังให้สม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ และพยายามหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเย็นจัด” รองอธิบดี คร. กล่าว
ด้าน นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ช่วงต้นปีเป็นช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง บางวันจะมีทั้งอากาศหนาวเย็น ร้อน และอาจมีฝนตก ซึ่งบางครั้งอาจเกิดขึ้นแบบฉับพลัน หากร่างกายปรับตัวไม่ทันอาจทำให้เกิดโรคต่างๆ ได้ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบต่อสุขภาพได้ง่าย จึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยโรคที่พบมาก 2 กลุ่ม คือ โรคระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม หัด และโรคระบบทางเดินอาหาร เช่น อาหารเป็นพิษและอุจจาระร่วง ดังนั้น พ่อ แม่ ผู้ปกครอง และผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุ จึงต้องมีความเข้าใจ และรู้จักการดูแลสุขภาพให้ปลอดภัยจากโรคต่างๆ ในช่วงที่อากาศเปลี่ยน
“วิธีการดูแลสุขภาพตนเองและบุคคลในครอบครัวช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง กลุ่มเด็กเล็กควรกินนมแม่เป็นประจำ จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน หลังจากนั้น สามารถให้นมแม่ควบคู่อาหารตามวัยจนอายุครบ 2 ปี สำหรับผู้สูงอายุควรออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ควบคู่กับรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ลดหวาน มัน เค็ม และรับประทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ปรุงอาหารสุกก่อนบริโภคและดื่มน้ำสะอาด ล้างมือทุกครั้งก่อน - หลังที่ทำกิจกรรมต่างๆ สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรังควรตรวจค่าความดันโลหิต ระดับน้ำตาลในเลือด และควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง และพักผ่อนให้เพียงพอ โดยสวมใส่เสื้อผ้าให้เหมาะสมกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง” อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
