“หมอรัชตะ” ลงพื้นที่ จ.ชลบุรี ตรวจความพร้อม รพ.รับมืออุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ กำชับ รพ.ในสังกัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะที่อยู่ริมเส้นทางหลวง เตรียมความพร้อมทีมแพทย์ฉุกเฉินรับมืออุบัติเหตุตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งให้เตรียมแพทย์ ห้องผ่าตัด เตียงสำหรับผู้ป่วย และสำรองเลือดเพิ่มเติม ย้ำหาก ปชช.เจ็บป่วยฉุกเฉินเข้ารับการรักษาได้ใน รพ.ทุกอยู่ใกล้ใช้ได้ทุกสิทธิการรักษา ไม่ต้องเสียเงิน แนะ ปชช.เตรียมพร้อมตนเองก่อนเดินทาง พักผ่อนให้พอ งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ งดกินยาที่ทำให้มีอาการง่วงซึม และหากต้องการความช่วยเหลือได้ที่สายด่วน 1669 โทรฟรี
วันนี้ (27 ธ.ค.) ที่จังหวัดชลบุรี ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.อำนวย กาจีนะ รองปลัด สธ. และ นพ.นพพร ชื่นกลิ่น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ตรวจเยี่ยมศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการอุบัติเหตุฉุกเฉิน ของโรงพยาบาลบางละมุง และโรงพยาบาลชลบุรี เพื่อดูความพร้อมในการรองรับอุบัติเหตุจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่มีวันหยุดต่อเนื่อง 5 วัน ตั้งแต่ 31 ธ.ค.2557 – 4 ม.ค. 2558
โดย ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ประชาชนนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนา บางส่วนอาจเริ่มกลับตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2557 ทำให้ปริมาณรถมากกว่าปกติและมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงได้กำชับให้โรงพยาบาลในสังกัด โดยเฉพาะโรงพยาบาลที่อยู่ริมเส้นทางหลวงต่างๆ ให้เตรียมทีมแพทย์ ห้องฉุกเฉิน ห้องผ่าตัด ห้องไอซียู เพิ่มเตียงรับผู้ป่วย สำรองเลือดเพิ่มขึ้นจากปกติ รวมถึงประสานระบบส่งต่อผู้ป่วยทั้งรัฐและเอกชน ประชาชนขอความช่วยเหลือที่สายด่วน 1669 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง หากเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ทันที ทุกสิทธิการรักษาได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินมาตรฐานเดียวของรัฐบาล และได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจเตือนประชาสัมพันธ์ผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 อย่างเคร่งครัด
ศ.นพ.รัชตะ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ เฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกมีแหล่งท่องเที่ยวมีชื่อเสียงระดับโลกหลายแห่ง จึงมีนักชาวไทยและต่างชาติเข้าไปท่องเที่ยวตลอดปี โดยในจังหวัดชลบุรี มีโรงพยาบาลชลบุรี ซึ่งมีแพทย์เชี่ยวชาญครบทุกสาขา เป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย รับผู้ป่วยจากโรงพยาบาลในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคตะวันออก จึงได้กำชับว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ ได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินและอุบัติภัยหมู่ โดยเพิ่มแพทย์ พยาบาล ทีมกู้ชีพ อีก 1 เท่าตัว รถพยาบาล พร้อมอุปกรณ์ช่วยชีวิตเพิ่มเป็น 4 คัน ประจำห้องฉุกเฉินและศูนย์สั่งการ เพิ่มแพทย์ผ่าตัดอีก 1 ทีมและระบบการประสานทำงานเป็นเครือข่ายทั้งภาคตะวันออก สำรองเตียงว่าง คลังเลือดมีครบทุกหมู่ สำรองเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่าตัวเกือบ 200 ยูนิต เพื่อกระจายให้โรงพยาบาลในเครือข่าย หากต้องการใช้เลือดจำนวนมากมีแผนระดมการบริจาคผ่านสังคมออนไลน์ และเพิ่มเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ส่งต่อ มีระบบประสานข้อมูลผู้ป่วยกับโรงพยาบาลในเครือข่าย เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ช่วยชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉินได้ตามแผนการรักษา รวดเร็ว มีความปลอดภัยที่สุด
ด้าน นพ.นพพร ชื่นกลิ่น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขอความร่วมมือผู้เดินทางที่ต้องขับรถ ควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทาง พักผ่อนให้เต็มที่ งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเดินทางอย่างน้อย 1 วัน งดรับประทานยาที่ทำให้เกิดอาการง่วง ซึม เช่น ยาลดน้ำมูก ยาภูมิแพ้ ยาแก้ไอ ยาคลายเครียด ยาคลายกล้ามเนื้อ เป็นต้น ตรวจเช็คสภาพรถ คาดเข็มขัดนิรภัย/สวมหมวกนิรภัย ไม่ขับรถเร็ว ปฏิบัติตามกฎจราจร และที่สำคัญดื่มไม่ขับ ข้อมูลจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยช่วง 7 วันเทศกาลปีใหม่ 2557 มีอุบัติเหตุจำนวน 3,174 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 366 ราย และมีผู้บาดเจ็บนอนโรงพยาบาล 3,345 ราย สาเหตุมาจากพฤติกรรม ได้แก่ เมาแล้วขับร้อยละ70 ขับรถเร็ว ง่วงแล้วขับ/หลับใน โดยมีปัจจัยเสริมที่ทำให้บาดเจ็บรุนแรงและเสียชีวิต คือ ไม่สวมหมวกนิรภัย/ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย นั่งท้ายรถกระบะ
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (27 ธ.ค.) ที่จังหวัดชลบุรี ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.อำนวย กาจีนะ รองปลัด สธ. และ นพ.นพพร ชื่นกลิ่น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ตรวจเยี่ยมศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการอุบัติเหตุฉุกเฉิน ของโรงพยาบาลบางละมุง และโรงพยาบาลชลบุรี เพื่อดูความพร้อมในการรองรับอุบัติเหตุจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่มีวันหยุดต่อเนื่อง 5 วัน ตั้งแต่ 31 ธ.ค.2557 – 4 ม.ค. 2558
โดย ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ประชาชนนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนา บางส่วนอาจเริ่มกลับตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2557 ทำให้ปริมาณรถมากกว่าปกติและมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงได้กำชับให้โรงพยาบาลในสังกัด โดยเฉพาะโรงพยาบาลที่อยู่ริมเส้นทางหลวงต่างๆ ให้เตรียมทีมแพทย์ ห้องฉุกเฉิน ห้องผ่าตัด ห้องไอซียู เพิ่มเตียงรับผู้ป่วย สำรองเลือดเพิ่มขึ้นจากปกติ รวมถึงประสานระบบส่งต่อผู้ป่วยทั้งรัฐและเอกชน ประชาชนขอความช่วยเหลือที่สายด่วน 1669 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง หากเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ทันที ทุกสิทธิการรักษาได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินมาตรฐานเดียวของรัฐบาล และได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจเตือนประชาสัมพันธ์ผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 อย่างเคร่งครัด
ศ.นพ.รัชตะ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ เฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกมีแหล่งท่องเที่ยวมีชื่อเสียงระดับโลกหลายแห่ง จึงมีนักชาวไทยและต่างชาติเข้าไปท่องเที่ยวตลอดปี โดยในจังหวัดชลบุรี มีโรงพยาบาลชลบุรี ซึ่งมีแพทย์เชี่ยวชาญครบทุกสาขา เป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย รับผู้ป่วยจากโรงพยาบาลในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคตะวันออก จึงได้กำชับว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ ได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินและอุบัติภัยหมู่ โดยเพิ่มแพทย์ พยาบาล ทีมกู้ชีพ อีก 1 เท่าตัว รถพยาบาล พร้อมอุปกรณ์ช่วยชีวิตเพิ่มเป็น 4 คัน ประจำห้องฉุกเฉินและศูนย์สั่งการ เพิ่มแพทย์ผ่าตัดอีก 1 ทีมและระบบการประสานทำงานเป็นเครือข่ายทั้งภาคตะวันออก สำรองเตียงว่าง คลังเลือดมีครบทุกหมู่ สำรองเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่าตัวเกือบ 200 ยูนิต เพื่อกระจายให้โรงพยาบาลในเครือข่าย หากต้องการใช้เลือดจำนวนมากมีแผนระดมการบริจาคผ่านสังคมออนไลน์ และเพิ่มเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ส่งต่อ มีระบบประสานข้อมูลผู้ป่วยกับโรงพยาบาลในเครือข่าย เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ช่วยชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉินได้ตามแผนการรักษา รวดเร็ว มีความปลอดภัยที่สุด
ด้าน นพ.นพพร ชื่นกลิ่น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขอความร่วมมือผู้เดินทางที่ต้องขับรถ ควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทาง พักผ่อนให้เต็มที่ งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเดินทางอย่างน้อย 1 วัน งดรับประทานยาที่ทำให้เกิดอาการง่วง ซึม เช่น ยาลดน้ำมูก ยาภูมิแพ้ ยาแก้ไอ ยาคลายเครียด ยาคลายกล้ามเนื้อ เป็นต้น ตรวจเช็คสภาพรถ คาดเข็มขัดนิรภัย/สวมหมวกนิรภัย ไม่ขับรถเร็ว ปฏิบัติตามกฎจราจร และที่สำคัญดื่มไม่ขับ ข้อมูลจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยช่วง 7 วันเทศกาลปีใหม่ 2557 มีอุบัติเหตุจำนวน 3,174 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 366 ราย และมีผู้บาดเจ็บนอนโรงพยาบาล 3,345 ราย สาเหตุมาจากพฤติกรรม ได้แก่ เมาแล้วขับร้อยละ70 ขับรถเร็ว ง่วงแล้วขับ/หลับใน โดยมีปัจจัยเสริมที่ทำให้บาดเจ็บรุนแรงและเสียชีวิต คือ ไม่สวมหมวกนิรภัย/ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย นั่งท้ายรถกระบะ
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
