หมออนามัยชี้ “ทีมหมอครอบครัว” ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่เป็นเรื่องที่ทำมานานแล้ว ย้ำจะสำเร็จต้องสนับสนุนงบหมู่บ้านจัดการสุขภาพ ส่วนค่าตอบแทนต้องพิจารณาให้ดี หวั่นเหลื่อมล้ำวิชาชีพ
วันนี้ (23 ธ.ค.) นายสาคร นาต๊ะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) บ้านต๋อม จ.พะเยา ในฐานะนายกสมาคมหมออนามัย กล่าวถึงการจัดตั้งทีมหมอครอบครัวของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ว่า ชาวหมออนามัยทุกคนใน รพ.สต. สำนักงานสาธารณสุขชุมชน (สสช.) สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ (สสอ.) ต่างเห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว เพราะจะช่วยพลิกฟื้นการพัฒนารากฐานของระบบบริการสาธารณสุขในระดับพื้นที่ ในรูปแบบใหม่ที่เน้นการป้องกัน มากกว่าการรักษา แต่การจะขับเคลื่อนให้ประสบความสำเร็จ จะต้องพัฒนาระบบให้ถูกจุด คือ ต้องพัฒนาต่อยอดจากงานที่ทำอยู่แล้ว เนื่องจากทีมหมอครอบครัว ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่มีการทำในระดับพื้นที่ผ่านหมออนามัย ซึ่งปฏิบัติงานในสถานีอนามัย หรือ รพ.สต. มานานแล้ว ทั้งนักวิชาการสาธารณสุข พยาบาลวิชาชีพ เจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชน ทันตภิบาล แพทย์แผนไทย เจ้าพนักงานเภสัชกรรม เป็นต้น
นายสราคร กล่าวว่า การพัฒนาจะต้องสนับสนุนสิ่งที่บุคลากรเหล่านี้ทำงานเป็นประจำอยู่แล้ว คือ หมู่บ้านจัดการสุขภาพ สธ. ควรสนับสนุนงบประมาณลงมาเพื่อให้คนในพื้นที่ได้บริหารจัดการให้ดียิ่งขึ้น เพราะที่ผ่านมางบไม่เพียงพอ ทั้งๆ ที่มีการทำงานกันอยู่แล้ว และถือเป็นศูนย์ประสานงานในระดับชุมชน ที่ไม่ต้องจัดตั้งใหม่อีก ซึ่งจุดนี้สำคัญมาก ส่วนที่ รมช.สาธารณสุข เตรียมให้ค่าตอบแทนทีมหมอครอบครัว โดยพิจารณาจากผลการปฏิบัติงานถือเป็นเรื่องที่ดี แต่การสนับสนุนงบประมาณเพื่อต่อยอดหมู่บ้านจัดการสุขภาพก็เป็นสิ่งจำเป็น เพราะค่าตอบแทนมีรายละเอียดค่อนข้างมาก เนื่องจากต้องพิจารณาความเหมาะสมให้ดี มิเช่นนั้นจะเกิดปัญหาได้ เนื่องจากใน 1 ทีมการทำงานของแต่ละคนจะแตกต่างกัน ทั้งพยาบาลวิชาชีพ บุคลากรอื่นๆ ซึ่งหากคิดคำนวณไม่เหมาะสมก็จะเกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำในวิชาชีพได้หรือไม่
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (23 ธ.ค.) นายสาคร นาต๊ะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) บ้านต๋อม จ.พะเยา ในฐานะนายกสมาคมหมออนามัย กล่าวถึงการจัดตั้งทีมหมอครอบครัวของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ว่า ชาวหมออนามัยทุกคนใน รพ.สต. สำนักงานสาธารณสุขชุมชน (สสช.) สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ (สสอ.) ต่างเห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว เพราะจะช่วยพลิกฟื้นการพัฒนารากฐานของระบบบริการสาธารณสุขในระดับพื้นที่ ในรูปแบบใหม่ที่เน้นการป้องกัน มากกว่าการรักษา แต่การจะขับเคลื่อนให้ประสบความสำเร็จ จะต้องพัฒนาระบบให้ถูกจุด คือ ต้องพัฒนาต่อยอดจากงานที่ทำอยู่แล้ว เนื่องจากทีมหมอครอบครัว ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่มีการทำในระดับพื้นที่ผ่านหมออนามัย ซึ่งปฏิบัติงานในสถานีอนามัย หรือ รพ.สต. มานานแล้ว ทั้งนักวิชาการสาธารณสุข พยาบาลวิชาชีพ เจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชน ทันตภิบาล แพทย์แผนไทย เจ้าพนักงานเภสัชกรรม เป็นต้น
นายสราคร กล่าวว่า การพัฒนาจะต้องสนับสนุนสิ่งที่บุคลากรเหล่านี้ทำงานเป็นประจำอยู่แล้ว คือ หมู่บ้านจัดการสุขภาพ สธ. ควรสนับสนุนงบประมาณลงมาเพื่อให้คนในพื้นที่ได้บริหารจัดการให้ดียิ่งขึ้น เพราะที่ผ่านมางบไม่เพียงพอ ทั้งๆ ที่มีการทำงานกันอยู่แล้ว และถือเป็นศูนย์ประสานงานในระดับชุมชน ที่ไม่ต้องจัดตั้งใหม่อีก ซึ่งจุดนี้สำคัญมาก ส่วนที่ รมช.สาธารณสุข เตรียมให้ค่าตอบแทนทีมหมอครอบครัว โดยพิจารณาจากผลการปฏิบัติงานถือเป็นเรื่องที่ดี แต่การสนับสนุนงบประมาณเพื่อต่อยอดหมู่บ้านจัดการสุขภาพก็เป็นสิ่งจำเป็น เพราะค่าตอบแทนมีรายละเอียดค่อนข้างมาก เนื่องจากต้องพิจารณาความเหมาะสมให้ดี มิเช่นนั้นจะเกิดปัญหาได้ เนื่องจากใน 1 ทีมการทำงานของแต่ละคนจะแตกต่างกัน ทั้งพยาบาลวิชาชีพ บุคลากรอื่นๆ ซึ่งหากคิดคำนวณไม่เหมาะสมก็จะเกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำในวิชาชีพได้หรือไม่
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
