เสนอ กพร. ยกเครื่องยุทธศาสตร์พัฒนาแรงงานแก้ปัญหาขาดแคลน - ตกงาน ฝึกแล้วใช้งานได้จริง-สร้างแรงจูงใจเข้าฝึกอบรม
นายนพดล กรรณิกา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวในการเป็นประธานเปิดประชุมเชิงปฏิบัติเรื่องการจัดทำแผนพัฒนาฝีมือแรงงานเพื่อขอตั้งงบประมาณประจำปี 2559 ว่า อยากให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) ยกเครื่องการจัดทำยุทธศาสตร์ใหม่ ซึ่งการจะจัดทำยุทธศาสตร์ได้ดีจะต้องได้ข้อมูลที่ถูกต้องจะสามารถกำหนดนโยบายที่ถูกต้องได้ ทั้งนี้ นโยบายของ กพร. ที่สำคัญจะต้องไปคิดว่าจะพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานเพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานของภาคอุตสาหกรรมได้อย่างไร ตรงจุดนี้จะต้องมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาติดตามผู้ที่จะเข้ามาขึ้นทะเบียนพัฒนาทักษะฝีมือ
นายนพดล กล่าวอีกว่า ช่วง 6 เดือนหลังจากนี้ไปจะต้องมีการวางแผนทักษะฝีมือแรงงาน เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานให้ได้ ที่ผ่านมา กพร. มักจะเน้นไปที่การฝึกทักษะภาษา แต่เมื่อฝึกแล้วได้นำไปใช้ประโยชน์จริงหรือไม่ หากไม่ได้ใช้จริงก็สูญเปล่า ดังนั้น อยากให้ กพร. ไปคิดแผนยุทธศาสตร์พัฒนาฝีมือแรงงานให้ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนและตลาดแรงงาน
“ปัจจุบันข้อมูลที่มีการพูดว่าประเทศไทยมีผู้ว่างงานจำนวน 3 แสนคน ยังมีความคลาดเคลื่อน เพราะในจำนวนนี้ไม่ได้นับแรงงานนอกระบบอีกกว่า 26 ล้านคน และไม่รวมแรงงานจบใหม่อีกกว่า 1.5 แสนคน การสำรวจจำนวนผู้ว่างจะต้องมีการทำร่วมกับหลายหน่วยงานและสอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่สุดจากที่มีการสำรวจประเมินว่าประเทศไทยจะมีกลุ่มคนที่ประสบปัญหามีความไม่มั่นคงในการทำงานประมาณ 5 - 10 ล้านคน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ ลำพังศักยภาพของ กพร. สามารถฝึกทักษะฝีมือให้แก่คนเหล่านี้ได้หลักแสนต่อปี แต่ถ้าประสานเชื่อมโยงกับเครือข่ายจะทำให้การพัฒนาฝีมือแรงงานเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายนับล้านคน” นายนพดล กล่าวและว่า นอกจากนี้ อยากให้ กพร. ไปคิดรูปแบบการสร้างจูงใจให้อยากฝีกอบรมโดยเห็นของจริงด้วยการผ่านการถ่ายทอดสดทางทีวี เช่น การฝึกช่างเชื่อม ช่างอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ประชาชนได้ความรู้ความเข้าใจมากขึ้นโดยให้นำร่องที่ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานในกรุงเทพฯ หากทำได้ดีก็จะขยายไปยังศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานอีก 64 แห่งทั่วประเทศ
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นายนพดล กรรณิกา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวในการเป็นประธานเปิดประชุมเชิงปฏิบัติเรื่องการจัดทำแผนพัฒนาฝีมือแรงงานเพื่อขอตั้งงบประมาณประจำปี 2559 ว่า อยากให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) ยกเครื่องการจัดทำยุทธศาสตร์ใหม่ ซึ่งการจะจัดทำยุทธศาสตร์ได้ดีจะต้องได้ข้อมูลที่ถูกต้องจะสามารถกำหนดนโยบายที่ถูกต้องได้ ทั้งนี้ นโยบายของ กพร. ที่สำคัญจะต้องไปคิดว่าจะพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานเพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานของภาคอุตสาหกรรมได้อย่างไร ตรงจุดนี้จะต้องมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาติดตามผู้ที่จะเข้ามาขึ้นทะเบียนพัฒนาทักษะฝีมือ
นายนพดล กล่าวอีกว่า ช่วง 6 เดือนหลังจากนี้ไปจะต้องมีการวางแผนทักษะฝีมือแรงงาน เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานให้ได้ ที่ผ่านมา กพร. มักจะเน้นไปที่การฝึกทักษะภาษา แต่เมื่อฝึกแล้วได้นำไปใช้ประโยชน์จริงหรือไม่ หากไม่ได้ใช้จริงก็สูญเปล่า ดังนั้น อยากให้ กพร. ไปคิดแผนยุทธศาสตร์พัฒนาฝีมือแรงงานให้ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนและตลาดแรงงาน
“ปัจจุบันข้อมูลที่มีการพูดว่าประเทศไทยมีผู้ว่างงานจำนวน 3 แสนคน ยังมีความคลาดเคลื่อน เพราะในจำนวนนี้ไม่ได้นับแรงงานนอกระบบอีกกว่า 26 ล้านคน และไม่รวมแรงงานจบใหม่อีกกว่า 1.5 แสนคน การสำรวจจำนวนผู้ว่างจะต้องมีการทำร่วมกับหลายหน่วยงานและสอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่สุดจากที่มีการสำรวจประเมินว่าประเทศไทยจะมีกลุ่มคนที่ประสบปัญหามีความไม่มั่นคงในการทำงานประมาณ 5 - 10 ล้านคน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ ลำพังศักยภาพของ กพร. สามารถฝึกทักษะฝีมือให้แก่คนเหล่านี้ได้หลักแสนต่อปี แต่ถ้าประสานเชื่อมโยงกับเครือข่ายจะทำให้การพัฒนาฝีมือแรงงานเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายนับล้านคน” นายนพดล กล่าวและว่า นอกจากนี้ อยากให้ กพร. ไปคิดรูปแบบการสร้างจูงใจให้อยากฝีกอบรมโดยเห็นของจริงด้วยการผ่านการถ่ายทอดสดทางทีวี เช่น การฝึกช่างเชื่อม ช่างอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ประชาชนได้ความรู้ความเข้าใจมากขึ้นโดยให้นำร่องที่ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานในกรุงเทพฯ หากทำได้ดีก็จะขยายไปยังศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานอีก 64 แห่งทั่วประเทศ
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
