เตรียมประชุม คกก. แก้ปัญหา รพ. ขาดทุน 19 ธ.ค. นี้ “หมอวินัย” เผยมีอำนาจเรียกดูข้อมูลทั้งโรงพยาบาล ทั้งรายรับรายจ่าย รวมถึง สปสช. หาสาเหตุภาพรวม รพ. ขาดทุน
วันนี้ (16 ธ.ค.) นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงกรณี ศ.นพ.รัชตะ รัตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการตรวจสอบและปรับปรุงสถานะทางการเงินของหน่วยบริการในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) โดยมี นพ.ยุทธ โพธารามิก เป็นประธาน หลังจากที่ สปสช. เสนอ ว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวจะมีการนัดหารือครั้งแรกในวันที่ 19 ธ.ค. นี้ ที่ สปสช. โดยจะมีกรรมการร่วมทั้งจาก สปสช. สป.สธ. และกรมบัญชีกลาง สำนักงบประมาณ เข้าร่วมรวมทั้งหมด 16 คน เพื่อแก้ปัญหาโรงพยาบาลขาดทุนทั้งระบบ เบื้องต้นคณะกรรมการชุดนี้จะมีอำนาจในการขอข้อมูลทั้งหมดทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาดูว่าปัญหาการขาดทุนเกิดจากสาเหตุใด เช่น โรงพยาบาลแต่ละแห่งมีการบริหารดำเนินการอย่างไร รายรับรายจ่ายเป็นอย่างไร สปสช. มีการจัดสรรเงินอย่างไร เป็นต้น โดยนำมาวิเคราะห์ภาพรวม ว่า มีโรงพยาบาลขาดทุนสูงสุด หรือระดับ 7 กี่แห่ง เพราะข้อมูลตัวเลขโรงพยาบาลขาดทุนยังแตกต่างกันอยู่ พร้อมทั้งจะมีการเสนอตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาของโรงพยาบาลด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า คณะกรรมการชุดนี้จะดูเรื่องตั้งกองทุนสุขภาพชายแดนหรือไม่ นพ.วินัย กล่าวว่า จะมีการเสนอ เพราะโรงพยาบาลชายแดนที่ประสบปัญหาทางการเงินเป็นปัญหามานาน ไม่ใช่แค่ รพ.อุ้มผาง เท่านั้น ยังมีโรงพยาบาลอื่นๆ ด้วย จึงอาจต้องมีกองทุนช่วยเหลือเฉพาะ แต่จะเป็นอย่างไรจำเป็นต้องหารืออย่างละเอียด เนื่องจากเดิมที สธ. รับผิดชอบดูแลกองทุนรักษาพยาบาลสำหรับบุคคลรอพิสูจน์สถานะ ซึ่งก่อตั้งขึ้นตามมติ ครม. เมื่อปี 2553 ตรงนี้ต้องมาหารือว่าจะนำมาเป็นอีกแนวทางในการแก้ปัญหาโรงพยาบาลชายแดนที่ประสบปัญหาทางการเงินหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า สปสช. จะเป็นผู้ดูแลกองทุนทั้ง รพ.ชายแดน และกองทุนรักษาพยาบาลสำหรับบุคคลรอพิสูจน์สถานะเป็นไปได้หรือไม่ นพ.วินัย กล่าวว่า สปสช. เคยเสนอในการช่วยบริหารกองทุนฯบุคคลรอพิสูจน์สถานะ แต่ขณะนั้นคณะกรรมการกฤษฎีการะบุในการประชุม ครม. ว่า สปสช. ดูแลได้เฉพาะสัญชาติไทยเท่านั้น คนรอพิสูจน์สถานะและสิทธิจึงต้องให้ สธ. ดูแล
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (16 ธ.ค.) นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงกรณี ศ.นพ.รัชตะ รัตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการตรวจสอบและปรับปรุงสถานะทางการเงินของหน่วยบริการในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) โดยมี นพ.ยุทธ โพธารามิก เป็นประธาน หลังจากที่ สปสช. เสนอ ว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวจะมีการนัดหารือครั้งแรกในวันที่ 19 ธ.ค. นี้ ที่ สปสช. โดยจะมีกรรมการร่วมทั้งจาก สปสช. สป.สธ. และกรมบัญชีกลาง สำนักงบประมาณ เข้าร่วมรวมทั้งหมด 16 คน เพื่อแก้ปัญหาโรงพยาบาลขาดทุนทั้งระบบ เบื้องต้นคณะกรรมการชุดนี้จะมีอำนาจในการขอข้อมูลทั้งหมดทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาดูว่าปัญหาการขาดทุนเกิดจากสาเหตุใด เช่น โรงพยาบาลแต่ละแห่งมีการบริหารดำเนินการอย่างไร รายรับรายจ่ายเป็นอย่างไร สปสช. มีการจัดสรรเงินอย่างไร เป็นต้น โดยนำมาวิเคราะห์ภาพรวม ว่า มีโรงพยาบาลขาดทุนสูงสุด หรือระดับ 7 กี่แห่ง เพราะข้อมูลตัวเลขโรงพยาบาลขาดทุนยังแตกต่างกันอยู่ พร้อมทั้งจะมีการเสนอตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาของโรงพยาบาลด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า คณะกรรมการชุดนี้จะดูเรื่องตั้งกองทุนสุขภาพชายแดนหรือไม่ นพ.วินัย กล่าวว่า จะมีการเสนอ เพราะโรงพยาบาลชายแดนที่ประสบปัญหาทางการเงินเป็นปัญหามานาน ไม่ใช่แค่ รพ.อุ้มผาง เท่านั้น ยังมีโรงพยาบาลอื่นๆ ด้วย จึงอาจต้องมีกองทุนช่วยเหลือเฉพาะ แต่จะเป็นอย่างไรจำเป็นต้องหารืออย่างละเอียด เนื่องจากเดิมที สธ. รับผิดชอบดูแลกองทุนรักษาพยาบาลสำหรับบุคคลรอพิสูจน์สถานะ ซึ่งก่อตั้งขึ้นตามมติ ครม. เมื่อปี 2553 ตรงนี้ต้องมาหารือว่าจะนำมาเป็นอีกแนวทางในการแก้ปัญหาโรงพยาบาลชายแดนที่ประสบปัญหาทางการเงินหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า สปสช. จะเป็นผู้ดูแลกองทุนทั้ง รพ.ชายแดน และกองทุนรักษาพยาบาลสำหรับบุคคลรอพิสูจน์สถานะเป็นไปได้หรือไม่ นพ.วินัย กล่าวว่า สปสช. เคยเสนอในการช่วยบริหารกองทุนฯบุคคลรอพิสูจน์สถานะ แต่ขณะนั้นคณะกรรมการกฤษฎีการะบุในการประชุม ครม. ว่า สปสช. ดูแลได้เฉพาะสัญชาติไทยเท่านั้น คนรอพิสูจน์สถานะและสิทธิจึงต้องให้ สธ. ดูแล
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
