เด้งฟ้าผ่า! บอร์ด สวรส. มีมติเลิกจ้าง “หมอสมเกียรติ” ออกจากตำแหน่ง ผอ.สวรส. ยันไม่ใช่การล้างขั้วอำนาจการเมืองเก่า รมช.สธ. ยันยึดผลประโยชน์องค์กรเป็นหลัก เปิดสาเหตุเลิกจ้างเพราะขัดขวางอำนาจบอร์ด
วันนี้ (12 ธ.ค.) นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (บอร์ด สวรส.) ร่วมกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ศ.นพ.สมเกียรติ วัฒนศิริชัยกุล ผอ.สวรส. ว่า เป็นวาระพิจารณาพิเศษ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบข้อเท็จจริงพฤติกรรม ศ.นพ.สมเกียรติ ตามที่ถูกเจ้าหน้าที่ สวรส. ร้องเรียน ซึ่งกำหนดมีระยะเวลา 30 วัน อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องใหญ่กว่านั้น โดยพบว่า ศ.นพ.สมเกียรติ ไม่ปฏิบัติตามข้อ 6 ในสัญญาจ้าง มีพฤติกรรมขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของบอร์ด สวรส. ทำให้ไม่สามารถเดินหน้างานต่างๆ ได้ บอร์ดจึงพิจารณาและมีมติเลิกจ้าง ศ.นพ.สมเกียรติ จากตำแหน่ง ผอ.สวรส. โดยประธานบอร์ดจะมีหนังสือคำสั่งอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ และจะเข้าสู่กระบวนการสรรหา ผอ.สวรส. คนใหม่ ซึ่งระหว่างนี้จะพิจารณาสรรหารักษาการ ผอ.สวรส. ต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามถึงสาเหตุของการเลิกจ้าง นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า คือ การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งข้อ 6 คือ ในการประชุมบอร์ด สวรส. ครั้งแรกหลังจากที่มีคณะกรรมการชุดใหม่ เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา นั้น นพ.สมเกียรติ ติดภารกิจที่ต่างประเทศ และมอบอำนาจให้มีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน แต่ไม่อนุญาตให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นเลขานุการบอร์ด สวรส. ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผิดปกติ เพราะเมื่อมอบให้ปฏิบัติหน้าที่แทนจะต้องปฏิบัติหน้าที่เป็นเลขานุการบอร์ดด้วย ส่งผลให้บอร์ดไม่สามารถลงมติหรือตั้งอนุกรรมการอื่นๆ ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังมีสาเหตุอื่นอีกหรือไม่ นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า มี แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ขอให้รอผลการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เนื่องจากหากกล่าวออกไปอาจจะไม่เป็นธรรมได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่เกิดขึ้นถูกมองว่าเป็นการล้างขั้วอำนาจเก่า นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า เรามองจากองค์กรเป็นหลัก หากไม่มีมติเช่นนี้งานก็ล่าช้าไม่สามารถเดินหน้างานต่างๆ ได้
ผู้สื่อข่าวถามเพิ่มเติมว่าคณะกรรมการได้มีการตรวจสอบความโปร่งใสเกี่ยวกับการใช้งบประมาณที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรสนับสนุนทุนวิจัยจากประเทศแคนาดา (IDRC) ด้วยหรือไม่ นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเช่นเดียวกัน
ศ.นพ.สมเกียรติ กล่าวว่า เรื่องทั้งหมดตนได้ขอความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายไปก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งการร้องต่อหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราบการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งสิ่งที่ต้องการ คือ การทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมายโดยที่ได้ยื่นคัดค้านไปแล้วก็เป็นเรื่องการประพฤติมิชอบ และเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อนใน สวรส. ซึ่งตนได้ยื่นคัดค้าน การสรรหาบอร์ดชุดดังกล่าวไปแล้วว่าไม่ถูกต้องทั้งในส่วนของคณะกรรมการทั้ง 7 คน และประธาน เพราะเป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ทับซ้อนจากการรับทุน ทั้งนี้ ตนได้ยื่นฟ้องศาลปกครองเพื่อขอความเป็นธรรมในเรื่องดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตาม ต้องถามกลับไปยังบอร์ดด้วยว่า ได้กระทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ มีอำนาจในการตัดสินจริงหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศ.นพ.สมเกียรติ ได้ยื่นหนังสือไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่อขอความเป็นธรรมในประเด็น คือ ตรวจพบทุจริตในโครงการวิจัยระหว่างประเทศที่ทำกันมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 จนถึงปัจจุบัน ได้รับงบประมาณจากองค์กรสนับสนุนทุนวิจัยประเทศแคนาดา (IDRC) แต่พบว่ามีความไม่โปร่งใสในโครงการที่ดำเนินมาจากอดีตผู้อำนวยการและพวก ซึ่งขณะนี้ใกล้ชิดกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งได้รายงานตามขั้นตอนไปยัง รมว. และ รมช.สาธาณสุข แต่ไม่ได้รับการตอบสนองใดๆ และกลับถูกรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขร่วมกับกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดใหม่ที่แต่งตั้งจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2557 ที่ผ่านมา กลับพยายามปลด ออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการ โดยกล่าวหาด้วยบัตรสนเท่ห์ และไม่ใส่ใจกับปัญหาทุจริตประพฤติมิชอบ 5 ประเด็นใหญ่ที่ได้ส่งให้ และกลับแต่งตั้งคณะกรรมการสอบหาข้อเท็จจริงในการกล่าวโทษเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2557 ที่ผ่านมา จน นพ.สมเกียรติ ได้ทำหนังสือร้องต่อ ป.ป.ช. สตง. และ ป.ป.ท. เพื่อคุ้มครองในฐานะเป็นพยานแจ้งเบาะแส จนถูกปลดดังกล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (12 ธ.ค.) นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (บอร์ด สวรส.) ร่วมกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ศ.นพ.สมเกียรติ วัฒนศิริชัยกุล ผอ.สวรส. ว่า เป็นวาระพิจารณาพิเศษ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบข้อเท็จจริงพฤติกรรม ศ.นพ.สมเกียรติ ตามที่ถูกเจ้าหน้าที่ สวรส. ร้องเรียน ซึ่งกำหนดมีระยะเวลา 30 วัน อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องใหญ่กว่านั้น โดยพบว่า ศ.นพ.สมเกียรติ ไม่ปฏิบัติตามข้อ 6 ในสัญญาจ้าง มีพฤติกรรมขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของบอร์ด สวรส. ทำให้ไม่สามารถเดินหน้างานต่างๆ ได้ บอร์ดจึงพิจารณาและมีมติเลิกจ้าง ศ.นพ.สมเกียรติ จากตำแหน่ง ผอ.สวรส. โดยประธานบอร์ดจะมีหนังสือคำสั่งอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ และจะเข้าสู่กระบวนการสรรหา ผอ.สวรส. คนใหม่ ซึ่งระหว่างนี้จะพิจารณาสรรหารักษาการ ผอ.สวรส. ต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามถึงสาเหตุของการเลิกจ้าง นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า คือ การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งข้อ 6 คือ ในการประชุมบอร์ด สวรส. ครั้งแรกหลังจากที่มีคณะกรรมการชุดใหม่ เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา นั้น นพ.สมเกียรติ ติดภารกิจที่ต่างประเทศ และมอบอำนาจให้มีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน แต่ไม่อนุญาตให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นเลขานุการบอร์ด สวรส. ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผิดปกติ เพราะเมื่อมอบให้ปฏิบัติหน้าที่แทนจะต้องปฏิบัติหน้าที่เป็นเลขานุการบอร์ดด้วย ส่งผลให้บอร์ดไม่สามารถลงมติหรือตั้งอนุกรรมการอื่นๆ ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังมีสาเหตุอื่นอีกหรือไม่ นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า มี แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ขอให้รอผลการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เนื่องจากหากกล่าวออกไปอาจจะไม่เป็นธรรมได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่เกิดขึ้นถูกมองว่าเป็นการล้างขั้วอำนาจเก่า นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า เรามองจากองค์กรเป็นหลัก หากไม่มีมติเช่นนี้งานก็ล่าช้าไม่สามารถเดินหน้างานต่างๆ ได้
ผู้สื่อข่าวถามเพิ่มเติมว่าคณะกรรมการได้มีการตรวจสอบความโปร่งใสเกี่ยวกับการใช้งบประมาณที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรสนับสนุนทุนวิจัยจากประเทศแคนาดา (IDRC) ด้วยหรือไม่ นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเช่นเดียวกัน
ศ.นพ.สมเกียรติ กล่าวว่า เรื่องทั้งหมดตนได้ขอความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายไปก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งการร้องต่อหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราบการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งสิ่งที่ต้องการ คือ การทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมายโดยที่ได้ยื่นคัดค้านไปแล้วก็เป็นเรื่องการประพฤติมิชอบ และเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อนใน สวรส. ซึ่งตนได้ยื่นคัดค้าน การสรรหาบอร์ดชุดดังกล่าวไปแล้วว่าไม่ถูกต้องทั้งในส่วนของคณะกรรมการทั้ง 7 คน และประธาน เพราะเป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ทับซ้อนจากการรับทุน ทั้งนี้ ตนได้ยื่นฟ้องศาลปกครองเพื่อขอความเป็นธรรมในเรื่องดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตาม ต้องถามกลับไปยังบอร์ดด้วยว่า ได้กระทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ มีอำนาจในการตัดสินจริงหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศ.นพ.สมเกียรติ ได้ยื่นหนังสือไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่อขอความเป็นธรรมในประเด็น คือ ตรวจพบทุจริตในโครงการวิจัยระหว่างประเทศที่ทำกันมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 จนถึงปัจจุบัน ได้รับงบประมาณจากองค์กรสนับสนุนทุนวิจัยประเทศแคนาดา (IDRC) แต่พบว่ามีความไม่โปร่งใสในโครงการที่ดำเนินมาจากอดีตผู้อำนวยการและพวก ซึ่งขณะนี้ใกล้ชิดกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งได้รายงานตามขั้นตอนไปยัง รมว. และ รมช.สาธาณสุข แต่ไม่ได้รับการตอบสนองใดๆ และกลับถูกรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขร่วมกับกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดใหม่ที่แต่งตั้งจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2557 ที่ผ่านมา กลับพยายามปลด ออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการ โดยกล่าวหาด้วยบัตรสนเท่ห์ และไม่ใส่ใจกับปัญหาทุจริตประพฤติมิชอบ 5 ประเด็นใหญ่ที่ได้ส่งให้ และกลับแต่งตั้งคณะกรรมการสอบหาข้อเท็จจริงในการกล่าวโทษเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2557 ที่ผ่านมา จน นพ.สมเกียรติ ได้ทำหนังสือร้องต่อ ป.ป.ช. สตง. และ ป.ป.ท. เพื่อคุ้มครองในฐานะเป็นพยานแจ้งเบาะแส จนถูกปลดดังกล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่