ครม. รับทราบผลการทำงานของโครงการทุนวิจัยอาจารย์รุ่นใหม่ ระบุ 10 ปี มีผลงานตีพิมพ์วารสารระดับนานชาติกว่า 2 พันเรื่อง ได้จดสิทธิบัตร 39 ผลงาน ส่วนงานวิจัยเฉพาะด้านมนุษยศาสตร์และสังคม มีมากรวมกว่า 100 เรื่อง ที่ได้ถูกเสนอในประชุมวิชาการและเผยแพร่วารสารนานาชาติและหลังสิ้นสุดโครงการมีนักวิจัยกว่าครึ่งได้รับทุนทำวิจัยต่อเนื่อง ขณะที่ ครม. แนะพัฒนางานวิจัยและสร้างนักวิจัยให้ครอบคลุมทั้งระบบเพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ที่ผ่านมา ได้รับทราบรายงานผลการดำเนินการโครงการทุนพัฒนาศักยภาพในการทำงานวิจัยของอาจารย์รุ่นใหม่ ตามแผนระยะยาว 10 ปี (พ.ศ. 2547 - 2556) ตามที่ ศธ. โดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เสนอ ทั้งนี้ สกอ. ได้สนับสนุนทุนในการพัฒนาศักยภาพการทำงานวิจัยของอาจารย์รุ่นใหม่ ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย จำนวน 3,000 ทุน เป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 1,172 ล้านบาท และจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่า ผู้รับทุนสามารถผลิตผลงานวิจัยที่มีคุณภาพ อันเป็นประโยชน์ต่อแวดวงวิชาการและสามารถนำงานวิจัยไปต่อยอดเป็นงานวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศได้อย่างต่อเนื่อง มีการตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิจัยและจดสิทธิบัตรผลงานวิจัย และสิ่งประดิษฐ์ที่มีคุณภาพสู่สาธารณะทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ โดยการเผยแพร่ผลงานวิจัยของผู้ได้รับทุนจะครอบคลุมโครงการวิจัย ทั้งจากสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสามารถมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ขณะที่ภาพรวมผลงานวิจัยของผู้ได้รับทุน ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2547 - 2556 มีผลงานตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติ จำนวน 2,789 เรื่อง ผลงานวิจัยที่ได้รับการจดสิทธิบัตร จำนวน 39 ผลงาน และผลงานวิจัยเฉพาะโครงการสาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ที่นำเสนอในการประชุมวิชาการ จำนวน 66 เรื่อง และวารสารระดับนานาชาติ จำนวน 55 เรื่อง
ทั้งนี้ โครงการทุนพัฒนาศักยภาพในการทำงานวิจัยของอาจารย์รุ่นใหม่ ได้เปิดโอกาสให้นักวิจัยรุ่นใหม่มีโอกาสทำงานวิจัยร่วมกับนักวิจัยผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อพัฒนาศักยภาพในการทำงานวิจัย รวมถึงการสร้างสมประสบการณ์เพื่อพัฒนาไปสู่นักวิจัยที่มีความสามารถ มีศักยภาพในการทำงานวิจัยในระดับสูงขึ้น ซึ่งจากการประเมินผลพบว่าหลังสิ้นสุดโครงการมีผู้ได้รับทุนและมีทุนวิจัยต่อเนื่องถึงร้อยละ 67.94 และยังนำผลงานวิจัยไปใช้ขอเลื่อนตำแหน่งทางวิชาการเพื่อความก้าวหน้าด้วย อย่างไรก็ตาม มีข้อเสนอจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าควรมีการศึกษาแนวทางพัฒนา นักวิจัยให้เกิดความครอบคลุมทั้งระบบ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและความเข็มแข็งของประเทศ และให้นำผลการศึกษาดังกล่าวมาเป็นแนวทางดำเนินโครงการในระยะต่อไป
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่