ผู้สูงอายุรับบำนาญชราภาพเตรียมเฮ คกก. กฤษฎีกาตีความมีสิทธิได้รับเบี้ยยังชีพ ไม่ขัดระเบียบมหาดไทย ชี้ ลงทะเบียนใช้สิทธิที่เทศบาล - อบต. ตั้งแต่เดือนธันวาคมนี้
นายอารักษ์ พรหมณี รองปลัดกระทรวงแรงงาน (รง.) เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ กระทรวงแรงงาน เคยหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ว่า ผู้ประกันตนที่รับเงินสิทธิประโยชน์กรณีบำนาญชราภาพจะมีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุหรือไม่ ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา แจ้งว่า มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เนื่องจากเงินสิทธิประโยชน์กรณีบำนาญชราภาพจากกองทุนประกันสังคมไม่ใช่เงินสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานรัฐ ดังนั้น ผู้ประกันตนดังกล่าวจึงเป็นผู้สูงอายุที่ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 6(4) ของระเบียบกระทรวงมหาดไทย (มท.) ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2552 ที่กำหนดให้ผู้สูงอายุที่ได้รับเงินเบี้ยยังชีพ จะต้องไม่เป็นผู้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เช่น ผู้รับเงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ
นายอารักษ์ กล่าวอีกว่า เมื่อผลการตีความของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาออกมาดังข้างต้น ทำให้ผู้สูงอายุซึ่งเป็นผู้ประกันตนที่รับเงินสิทธิประโยชน์กรณีบำนาญชราภาพให้ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุสามารถไปลงทะเบียนเพื่อใช้สิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลทั่วประเทศได้ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2557 ส่วนการจ่ายเงินสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพของสำนักงานประกันสังคมนั้น เป็นเงินบำเหน็จชราภาพตั้งแต่เดือน มกราคม - กันยายน 2557 มีผู้ประกันตนได้รับทั้งหมด 169,233 คน คิดเป็นเงินรวม 4,715 ล้านบาท และเงินบำนาญชราภาพตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ - กันยายน 2557 มีผู้ประกันตนได้รับ 17,066 คน คิดเป็นเงินรวม 228 ล้านบาท
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นายอารักษ์ พรหมณี รองปลัดกระทรวงแรงงาน (รง.) เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ กระทรวงแรงงาน เคยหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ว่า ผู้ประกันตนที่รับเงินสิทธิประโยชน์กรณีบำนาญชราภาพจะมีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุหรือไม่ ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา แจ้งว่า มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เนื่องจากเงินสิทธิประโยชน์กรณีบำนาญชราภาพจากกองทุนประกันสังคมไม่ใช่เงินสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานรัฐ ดังนั้น ผู้ประกันตนดังกล่าวจึงเป็นผู้สูงอายุที่ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 6(4) ของระเบียบกระทรวงมหาดไทย (มท.) ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2552 ที่กำหนดให้ผู้สูงอายุที่ได้รับเงินเบี้ยยังชีพ จะต้องไม่เป็นผู้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เช่น ผู้รับเงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ
นายอารักษ์ กล่าวอีกว่า เมื่อผลการตีความของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาออกมาดังข้างต้น ทำให้ผู้สูงอายุซึ่งเป็นผู้ประกันตนที่รับเงินสิทธิประโยชน์กรณีบำนาญชราภาพให้ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุสามารถไปลงทะเบียนเพื่อใช้สิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลทั่วประเทศได้ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2557 ส่วนการจ่ายเงินสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพของสำนักงานประกันสังคมนั้น เป็นเงินบำเหน็จชราภาพตั้งแต่เดือน มกราคม - กันยายน 2557 มีผู้ประกันตนได้รับทั้งหมด 169,233 คน คิดเป็นเงินรวม 4,715 ล้านบาท และเงินบำนาญชราภาพตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ - กันยายน 2557 มีผู้ประกันตนได้รับ 17,066 คน คิดเป็นเงินรวม 228 ล้านบาท
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่