เหตุไฟไหม้โรงงานผลิตพลาสติก ย่านพระราม 2 กระทบลูกจ้าง 300 ราย กสร. ตรวจส่ง จนท. สอบข้อเท็จจริงเจ้าของกิจการ ชี้หากเป็นเหตุสุดวิสัยไม่ต้องจ่ายค่าจ้างช่วงปิดงาน
วันนี้ (1 ธ.ค.)นายวรานนท์ ปีติวรรณ รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้ บริษัท ไทยโพลีพลาสแพ็ค จำกัด ประกอบกิจการผลิตภัณฑ์พลาสติก ตั้งอยู่เลขที่ 72 หมู่ 10 ซ.พระราม 2 แขวงจอมทอง เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ว่า วันนี้เจ้าหน้าที่สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานพื้นที่ 7 ได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พร้อมนัดเจ้าของกิจการมาสอบถามข้อเท็จจริงถึงสาเหตุเพลิงไหม้ โดยเบื้องต้นยังไม่มีการแจ้งปิดงาน หรือเลิกจ้างลูกจ้าง แต่เหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ส่งผลกระทบจนไม่สามารถเปิดงานได้ ซึ่งมีลูกจ้างทั้งหมด 300 คน แบ่งการทำงานเป็น 2 กะ ขณะเดียวกัน กรมโรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม ได้สั่งปิดโรงงานเป็นเวลา 60 วัน แต่หากเจ้าหน้าที่ กสร. พิจารณาว่าเปิดงานได้บางส่วนลูกจ้างจะสามารถทำงานได้ 150 คน และจะต้องหยุดงาน จำนวน 150 คน ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วว่าเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวเกิดจากเหตุสุดวิสัย นายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าจ้างในช่วงที่ปิดงาน แต่หากพิจารณาแล้วว่าไม่ใช่เหตุสุดวิสัยและนายจ้างสามารถป้องกันได้ นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างตามมาตรา 75 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2545 ในอัตราร้อยละ 75 ของค่าจ้างตาม จนกว่าจะสามารถเปิดดำเนินกิจการต่อไปได้
นายวรานนท์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ในตั้งแต่เดือนมกราคม - ตุลาคม ที่ผ่านมา มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับสถานประกอบการจำนวนทั้งหมด 233 ครั้ง มีจำนวนแรงงานที่บาดเจ็บทั้งหมด 252 ราย เสียชีวิต จำนวน 119 ราย โดยอุบัติเหตุที่เกิดมากที่สุด คือ เพลิงไหม้ จำนวน 99 ครั้ง รองลงมา เครื่องจักรหนีบ / ทับ / บด / ตัดลูกจ้าง จำนวน 23 ครั้ง ตกจากที่สูง จำนวน 19 ครั้ง ระเบิด จำนวน 19 ครั้ง ไฟฟ้าดูด / ช็อต จำนวน 18 ครั้ง ส่วนอุบัติเหตุที่เกิดน้อยที่สุด คือ ลิฟต์ตก และแผ่นดินไหว 1 ครั้ง
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (1 ธ.ค.)นายวรานนท์ ปีติวรรณ รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้ บริษัท ไทยโพลีพลาสแพ็ค จำกัด ประกอบกิจการผลิตภัณฑ์พลาสติก ตั้งอยู่เลขที่ 72 หมู่ 10 ซ.พระราม 2 แขวงจอมทอง เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ว่า วันนี้เจ้าหน้าที่สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานพื้นที่ 7 ได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พร้อมนัดเจ้าของกิจการมาสอบถามข้อเท็จจริงถึงสาเหตุเพลิงไหม้ โดยเบื้องต้นยังไม่มีการแจ้งปิดงาน หรือเลิกจ้างลูกจ้าง แต่เหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ส่งผลกระทบจนไม่สามารถเปิดงานได้ ซึ่งมีลูกจ้างทั้งหมด 300 คน แบ่งการทำงานเป็น 2 กะ ขณะเดียวกัน กรมโรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม ได้สั่งปิดโรงงานเป็นเวลา 60 วัน แต่หากเจ้าหน้าที่ กสร. พิจารณาว่าเปิดงานได้บางส่วนลูกจ้างจะสามารถทำงานได้ 150 คน และจะต้องหยุดงาน จำนวน 150 คน ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วว่าเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวเกิดจากเหตุสุดวิสัย นายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าจ้างในช่วงที่ปิดงาน แต่หากพิจารณาแล้วว่าไม่ใช่เหตุสุดวิสัยและนายจ้างสามารถป้องกันได้ นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างตามมาตรา 75 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2545 ในอัตราร้อยละ 75 ของค่าจ้างตาม จนกว่าจะสามารถเปิดดำเนินกิจการต่อไปได้
นายวรานนท์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ในตั้งแต่เดือนมกราคม - ตุลาคม ที่ผ่านมา มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับสถานประกอบการจำนวนทั้งหมด 233 ครั้ง มีจำนวนแรงงานที่บาดเจ็บทั้งหมด 252 ราย เสียชีวิต จำนวน 119 ราย โดยอุบัติเหตุที่เกิดมากที่สุด คือ เพลิงไหม้ จำนวน 99 ครั้ง รองลงมา เครื่องจักรหนีบ / ทับ / บด / ตัดลูกจ้าง จำนวน 23 ครั้ง ตกจากที่สูง จำนวน 19 ครั้ง ระเบิด จำนวน 19 ครั้ง ไฟฟ้าดูด / ช็อต จำนวน 18 ครั้ง ส่วนอุบัติเหตุที่เกิดน้อยที่สุด คือ ลิฟต์ตก และแผ่นดินไหว 1 ครั้ง
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
