ประธาน IM Japan เข้าหารือ รมว.แรงงาน การจัดส่งผู้ฝึกงานไทยไปฝึกงานที่ญี่ปุ่น เผยกำลังปรับกฎหมายยืดอายุฝึกงานจาก 3 ปีเป็น 5 ปี "สุรศักดิ์" เผยก.แรงงานส่งเสริมให้ผู้มีศักยภาพในการทำงานประกอบกิจการด้วยตนเอง จัดตั้งศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทยมีงานทำ เป็นศูนย์กลางให้ผู้ประกอบการกับผู้หางาน เห็นผลภายใน 31 ธันวาคมนี้
พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ผู้ฝึกงานของไทยที่ได้ฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่นได้มีระบบและทำงานได้มีประสิทธิภาพ เมื่อกลับมาประเทศไทย ถึงแม้จะมีเงินทุนส่วนหนึ่ง แต่ประสบการณ์ยังน้อย IM Japan จึงอยากให้กระทรวงแรงงานสนับสนุนกลุ่มคนเหล่านี้ ซึ่งขณะนี้กระทรวงแรงงานกำลังดำเนินการจัดตั้งศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทยมีงานทำ ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางให้ผู้ประกอบการกับผู้หางานมาพบกันผ่านศูนย์ดังกล่าว ส่วนผู้ที่มีศักยภาพในการทำงานก็จะส่งเสริมให้ประกอบกิจการด้วยตนเอง รวมทั้งนักเรียนที่จบอาชีวศึกษาด้วย โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงานจะเป็นหน่วยงานในการส่งเสริมทักษะฝีมือแรงงานให้กลุ่มคนเหล่านี้ โดยศูนย์ดังกล่าวจะเห็นผลเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นภายในวันที่ 31 ธันวาคมนี้ ส่วนการเดินทางไปเยี่ยมผู้ฝึกงานไทยที่ญี่ปุ่นไม่ลำบากใจ โดยนำประสบการณ์ของคนไทยที่ไปฝึกงานในญี่ปุ่นมาปรับการทำงานของคนไทยในประเทศไทยให้สอดคล้องกัน
ด้าน Mr.Kyoei Yanagisawa ผู้อำนวยการ IM Japan กล่าวว่า องค์กร IM Japan เป็นองค์กรที่มีความร่วมมือMOU กับไทยมาตั้งแต่ ค.ศ. 2002 เกี่ยวกับการส่งผู้ฝึกงานไทยไปทำงานในญี่ปุ่น โดยมีเป้าหมายต้องการหนุ่มสาวในไทยที่มีความสามารถไปฝึกงานในญี่ปุ่น เพื่อกลับมาเป็นผู้บริหาร SMEs จนถึงปัจจุบันมีผู้ฝึกงานที่จบออกมาแล้วกว่า 3,200 คน และยังฝึกงานอยู่ในญี่ปุ่นอีกราว 700 คน ซึ่งผู้ฝึกงานเหล่านี้เมื่อจบออกมาแล้วจะช่วยพัฒนาประเทศไทย สร้างสถานประกอบการระดับ SMEs และพัฒนาประเทศต่อไป และเนื่องจากผู้ฝึกงานเหล่านี้ยังอายุน้อย ยังไม่มีประสบการณ์มากนัก จึงขอให้กระทรวงแรงงานช่วยสนับสนุนคนกลุ่มนี้ด้วย อย่างไรก็ตามขณะนี้รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังปรับปรุงกฎหมายโดยยืดอายุระยะเวลาฝึกงานออกไปจาก 3 ปีเป็น 5 ปี โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการนำเรื่องเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาในต้นปีหน้า คาดว่าประมาณเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน จะผ่านความเห็นชอบหลังจากนั้นราวเดือนตุลาคมเป็นต้นไปอาจจะนำมาใช้ได้
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ผู้ฝึกงานของไทยที่ได้ฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่นได้มีระบบและทำงานได้มีประสิทธิภาพ เมื่อกลับมาประเทศไทย ถึงแม้จะมีเงินทุนส่วนหนึ่ง แต่ประสบการณ์ยังน้อย IM Japan จึงอยากให้กระทรวงแรงงานสนับสนุนกลุ่มคนเหล่านี้ ซึ่งขณะนี้กระทรวงแรงงานกำลังดำเนินการจัดตั้งศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทยมีงานทำ ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางให้ผู้ประกอบการกับผู้หางานมาพบกันผ่านศูนย์ดังกล่าว ส่วนผู้ที่มีศักยภาพในการทำงานก็จะส่งเสริมให้ประกอบกิจการด้วยตนเอง รวมทั้งนักเรียนที่จบอาชีวศึกษาด้วย โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงานจะเป็นหน่วยงานในการส่งเสริมทักษะฝีมือแรงงานให้กลุ่มคนเหล่านี้ โดยศูนย์ดังกล่าวจะเห็นผลเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นภายในวันที่ 31 ธันวาคมนี้ ส่วนการเดินทางไปเยี่ยมผู้ฝึกงานไทยที่ญี่ปุ่นไม่ลำบากใจ โดยนำประสบการณ์ของคนไทยที่ไปฝึกงานในญี่ปุ่นมาปรับการทำงานของคนไทยในประเทศไทยให้สอดคล้องกัน
ด้าน Mr.Kyoei Yanagisawa ผู้อำนวยการ IM Japan กล่าวว่า องค์กร IM Japan เป็นองค์กรที่มีความร่วมมือMOU กับไทยมาตั้งแต่ ค.ศ. 2002 เกี่ยวกับการส่งผู้ฝึกงานไทยไปทำงานในญี่ปุ่น โดยมีเป้าหมายต้องการหนุ่มสาวในไทยที่มีความสามารถไปฝึกงานในญี่ปุ่น เพื่อกลับมาเป็นผู้บริหาร SMEs จนถึงปัจจุบันมีผู้ฝึกงานที่จบออกมาแล้วกว่า 3,200 คน และยังฝึกงานอยู่ในญี่ปุ่นอีกราว 700 คน ซึ่งผู้ฝึกงานเหล่านี้เมื่อจบออกมาแล้วจะช่วยพัฒนาประเทศไทย สร้างสถานประกอบการระดับ SMEs และพัฒนาประเทศต่อไป และเนื่องจากผู้ฝึกงานเหล่านี้ยังอายุน้อย ยังไม่มีประสบการณ์มากนัก จึงขอให้กระทรวงแรงงานช่วยสนับสนุนคนกลุ่มนี้ด้วย อย่างไรก็ตามขณะนี้รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังปรับปรุงกฎหมายโดยยืดอายุระยะเวลาฝึกงานออกไปจาก 3 ปีเป็น 5 ปี โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการนำเรื่องเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาในต้นปีหน้า คาดว่าประมาณเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน จะผ่านความเห็นชอบหลังจากนั้นราวเดือนตุลาคมเป็นต้นไปอาจจะนำมาใช้ได้
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
Loadingเครื่อง oncothermia ความหวังใหม่รักษามะเร็งเต้านม-ตับระยะท้าย ใช้คลื่นวิทยุยิงเฉพาะจุดมะเร็งจนเกิดความร้อน เอื้อยาเคมีบำบัดเข้าถึงมะเร็งง่ายขึ้น ผลศึกษาก้แนมะเร็งเต้านมยุบทั้งหมด 22% ผู้ป่วยมะเร็งตับอายุยืนขึ้น