บอร์ด กยศ. ให้ทบทวนโปรโมชันลดหย่อนหนี้ 3% ของเงินต้นในปี 58 ให้ลูกหนี้ที่ค้างและไม่ค้างชำระ เหตุปี 57 มีโปรคล้ายกันแต่ลดหย่อนหนี้ 3 - 3.5% ชี้ลูกหนี้อาจคาดหวังโปรเดิมหรืออัตราลดหย่อนที่สูงขึ้น ขณะที่ ปลัด ศธ. เสนอ กยศ. ดูแลลูกหนี้ชั้นดีที่ชำระหนี้ต่อเนื่องไม่ค้าง ให้ได้รับการลดหย่อนเพื่อสร้างแรงจูงใจ แนะไม่ควรกำหนดมาตรการปิดบัญชี เพียงอย่างเดียว แต่ให้สร้างแนวทางเลือกอื่นๆ ด้วย เบื้องต้น กยศ.รับไปศึกษาเพื่อนำมาเสนอบอร์ดต่อไป
นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการเป็นเจ้าภาพ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมนั้น นายกฯ ได้แสดงความเป็นห่วงเรื่องกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไปพิจารณาว่า กองทุน กยศ. มีความจำเป็นหรือไม่ ถ้ายังมีความจำเป็นเพื่อที่จะช่วยเหลือลูกหลานชาวนา และผู้ด้อยโอกาส ก็ควรจะบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ ซึ่ง ปลัดกระทรวงการคลังในฐานะประธานบอร์ด กยศ. ได้รายงานว่ากำลังอยู่ระหว่างดำเนินการยุบรวมกองทุน กยศ.และกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) เข้าด้วยกันและปรับปรุงหลักเกณฑ์โดยเน้นให้กู้ยืมในสาขาขาดแคลนที่เป็นความต้องการของประเทศเป็นหลัก และให้กู้สำหรับเด็กที่ยากจนจริงๆ
ปลัด ศธ. กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ ในการประชุมคณะกรรมการคณะกรรมการกองทุน กยศ. ได้มีการพิจารณาโครงการรณรงค์ชำระหนี้ ซึ่งทางกองทุน กยศ. ได้เสนอที่จะจัดโปรโมชันลดหย่อนหนี้ในปี 2558 ให้กับลูกหนี้ที่ค้างชำระและไม่ค้างชำระ โดยหากนำเงินมาปิดบัญชีจะได้รับการลดหย่อนหนี้ 3% ของเงินต้น รวมทั้งลดเบี้ยปรับ/ค่าธรรมเนียมกรณีผิดนัดชำระหนี้ 100% ซึ่งตนได้เสนอต่อที่ประชุมว่าเมื่อปี 2557 ก็มีการจัดโปรโมชันในลักษณะนี้มาแล้ว โดยลดหย่อนหนี้ให้ 3 - 3.5% ซึ่งเกรงว่าอาจส่งผลให้ผู้กู้คิดว่าในปีต่อไปก็คงมีการลดหย่อนเงินกู้ให้อีกและอาจจะเพิ่มอัตรามากกว่าเดิม อาจจะเป็นสาเหตุให้ลูกหนี้รอโปรโมชั่นในปีต่อไป ซึ่ง บอร์ด กยศ. จึงให้ทางกองทุนฯกลับไปทบทวนเรื่องนี้อีกครั้งว่าควรจะมีโปรโมชั่นในลักษณะดังกล่าวต่อไปหรือไม่
“ได้เสนอต่อที่ประชุมด้วยว่าควรจะช่วยเหลือลูกหนี้ที่ชำระหนี้อย่างต่อเนื่องไม่เคยติดค้าง ซึ่งถือว่าเป็นผู้มีวินัยทางการเงิน ก็น่าจะมีการลดหย่อนเงินกู้ให้เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับคนทำดี ขณะเดียวกัน กยศ. ไม่ควรจะกำหนดมาตรการเดียว คือ การปิดบัญชี แต่ควรจะยืดหยุ่นให้ปิดบัญชีตามศักยภาพของลูกหนี้ เช่น อาจจะจ่าย 2 - 3 งวด เพราะการปิดบัญชีรวดเดียวเป็นเรื่องที่ทำได้ลำบาก เป็นต้น น่าจะมีแนวทางอื่นๆ จึงเสนอให้ กยศ. ไปพิจารณาซึ่งที่ประชุมส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยโดยมอบหมายให้ กองทุน กยศ. รับความเห็นของที่ประชุมไปดำเนินการ และให้นำกลับมาเสนออีกครั้งในการประชุมครั้งต่อไป” นางสุทธศรี กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
Loadingเครื่อง oncothermia ความหวังใหม่รักษามะเร็งเต้านม-ตับระยะท้าย ใช้คลื่นวิทยุยิงเฉพาะจุดมะเร็งจนเกิดความร้อน เอื้อยาเคมีบำบัดเข้าถึงมะเร็งง่ายขึ้น ผลศึกษาก้แนมะเร็งเต้านมยุบทั้งหมด 22% ผู้ป่วยมะเร็งตับอายุยืนขึ้น