สปสช. ยันเดินหน้ากองทุนดูแลคนแก่ เตรียมของบประมาณจากรัฐ จัดทำโครงการเป็นของขวัญเหล่าวัยเกษียณ เริ่ม เม.ย. 2558 เน้นตั้งศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิต มีฝึกอบรมอาสาสมัครผู้ดูแล
นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า จากการเปลี่ยนแปลงทางด้านการเมือง รวมถึงสภาวะทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้การจัดตั้งกองทุนดูแลผู้สูงอายุในระดับพื้นที่ ซึ่ง สปสช.เคยเตรียมของบประมาณกลางปี 2558 จากรัฐบาลจำนวน 800 ล้านบาทนั้น ยังไม่สามารถเดินหน้าดำเนินการได้ แต่การจัดระบบดูแลผู้สูงอายุในชุมชนจะต้องดำเนินการแน่นอน เพราะเป็นปัญหาของประเทศ เบื้องต้นจึงต้องดำเนินการโดยใช้งบประมาณจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ประมาณ 4-5 ล้านบาทมาใช้แทนไปก่อน และจะเตรียมของบประมาณเพิ่มในภายหลัง
นพ.ประทีป กล่าวว่า โครงการดูแลผู้สูงอายุในพื้นที่ จะเน้นรูปแบบการดูแลผู้สูงอายุในชุมชนเชิงรุก มีการจัดตั้งศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ จัดให้มีเจ้าหน้าที่พยาบาลเวชปฏิบัติ เจ้าหน้าที่ด้านกายภาพ และมีการฝึกอบรมอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่ หรือในบางแห่งที่มีความพร้อมจะพัฒนาไปเป็นศูนย์เดย์แคร์ที่รับดูแลผู้สูงอายุระหว่างวัน หรือดูแลแบบเช้าไปเย็นกลับ ซึ่งขณะนี้เริ่มดำเนินการนำร่องไปแล้วหลายพื้นที่ อาทิ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ อบต.ดอนแก้ว จ.เชียงใหม่ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก เทศบาลตำบลบางสีทอง จ.นนทบุรี เทศบาลนครรังสิต จ.ปทุมธานี เทศบาลเมืองมหาสารคาม จ.มหาสารคาม อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด อ.จักรราช จ.นครราชสีมา อ.ประทิว จ.ชุมพร อ.บางกล่ำ จ.สงขลา และเทศบาลตำบลปริก จ.สงขลา เป็นต้น
“ในอนาคตจะต้องขออนุมัติงบประมาณจากรัฐแน่นอน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ และตัวท่านนายกฯ เองก็บอกว่าเดี๋ยวจะให้ของขวัญแก่คนไทย เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ทางเราก็อยากจะให้เป็นของขวัญให้กับผู้สูงอายุเหมือนกัน โดยเริ่มในเดือน เม.ย. ปี 2558 เป็นต้นไป และดำเนินการต่อไปในระยะยาวอย่างยั่งยืน” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า จากการเปลี่ยนแปลงทางด้านการเมือง รวมถึงสภาวะทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้การจัดตั้งกองทุนดูแลผู้สูงอายุในระดับพื้นที่ ซึ่ง สปสช.เคยเตรียมของบประมาณกลางปี 2558 จากรัฐบาลจำนวน 800 ล้านบาทนั้น ยังไม่สามารถเดินหน้าดำเนินการได้ แต่การจัดระบบดูแลผู้สูงอายุในชุมชนจะต้องดำเนินการแน่นอน เพราะเป็นปัญหาของประเทศ เบื้องต้นจึงต้องดำเนินการโดยใช้งบประมาณจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ประมาณ 4-5 ล้านบาทมาใช้แทนไปก่อน และจะเตรียมของบประมาณเพิ่มในภายหลัง
นพ.ประทีป กล่าวว่า โครงการดูแลผู้สูงอายุในพื้นที่ จะเน้นรูปแบบการดูแลผู้สูงอายุในชุมชนเชิงรุก มีการจัดตั้งศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ จัดให้มีเจ้าหน้าที่พยาบาลเวชปฏิบัติ เจ้าหน้าที่ด้านกายภาพ และมีการฝึกอบรมอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่ หรือในบางแห่งที่มีความพร้อมจะพัฒนาไปเป็นศูนย์เดย์แคร์ที่รับดูแลผู้สูงอายุระหว่างวัน หรือดูแลแบบเช้าไปเย็นกลับ ซึ่งขณะนี้เริ่มดำเนินการนำร่องไปแล้วหลายพื้นที่ อาทิ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ อบต.ดอนแก้ว จ.เชียงใหม่ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก เทศบาลตำบลบางสีทอง จ.นนทบุรี เทศบาลนครรังสิต จ.ปทุมธานี เทศบาลเมืองมหาสารคาม จ.มหาสารคาม อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด อ.จักรราช จ.นครราชสีมา อ.ประทิว จ.ชุมพร อ.บางกล่ำ จ.สงขลา และเทศบาลตำบลปริก จ.สงขลา เป็นต้น
“ในอนาคตจะต้องขออนุมัติงบประมาณจากรัฐแน่นอน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ และตัวท่านนายกฯ เองก็บอกว่าเดี๋ยวจะให้ของขวัญแก่คนไทย เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ทางเราก็อยากจะให้เป็นของขวัญให้กับผู้สูงอายุเหมือนกัน โดยเริ่มในเดือน เม.ย. ปี 2558 เป็นต้นไป และดำเนินการต่อไปในระยะยาวอย่างยั่งยืน” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
Loadingเครื่อง oncothermia ความหวังใหม่รักษามะเร็งเต้านม-ตับระยะท้าย ใช้คลื่นวิทยุยิงเฉพาะจุดมะเร็งจนเกิดความร้อน เอื้อยาเคมีบำบัดเข้าถึงมะเร็งง่ายขึ้น ผลศึกษาก้แนมะเร็งเต้านมยุบทั้งหมด 22% ผู้ป่วยมะเร็งตับอายุยืนขึ้น