กกจ. พาแรงงานถูกหลอกไปทำงานต่างประเทศผ่านเฟซบุ๊กไปแจ้งความที่ตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ ประสานตำรวจเร่งหาผู้กระทำผิด คาดผู้เสียหายมี 50 - 60 คน
วันนี้ (14 ต.ค.) เวลา 09.00 น. ที่กรมการจัดหางาน มีแรงงานเกือบ 10 คนที่ถูกนายหน้าเถื่อนหลอกไปทำงานต่างประเทศผ่านทางเฟซบุ๊กบัญชี “nong narak” ได้มารวมตัวกัน หลังจากนั้นเวลา 09.30 น. เจ้าหน้าที่กองตรวจและคุ้มครองคนหางานของ กกจ. ได้นำแรงงานทั้งหมดไปแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ
นางสาวนรินทร (ขอสงวนนามสกุล) วัย 24 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ หนึ่งในแรงงานที่ถูกหลอก กล่าวว่า ได้ข้อมูลจากเพื่อนว่ามีนายหน้าติดต่อไปทำงานต่างประเทศโดยผ่านทางเฟซบุ๊ก nongnarak จึงติดต่อกลับไปทางโทรศัพท์และไลน์แจ้งว่าตนและแฟน อยากไปทำสวนที่ประเทศออสเตรเลียโดยโอนเงินผ่านธนาคารไป 2 ครั้ง รวมเป็นเงิน 3.5 หมื่นบาท นายหน้าแจ้งว่าจะส่งรถมารับที่บ้านในวันที่ 2 ต.ค. ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่มีรถมารับ เมื่อโทรศัพท์ติดต่อกลับไปก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก หลังจากนี้ จะแจ้งความดำเนินคดีกับนายหน้า ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ตนเคยไปทำงานโรงงานในเกาหลีใต้โดยผ่านนายหน้าซึ่งมีรายได้ดี จึงอยากไปทำงานต่างประเทศอีก
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคม. ที่รับแจ้งความระบุว่า จะสอบถามข้อมูลและรวบรวมเอกสารหลักฐานจากแรงงานทุกคนที่มาร้องเรียนและเสนอไปยังกอง ปคม. เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาว่า กอง ปคม. จะทำคดีนี้หรือกระจายให้สถานีตำรวจในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดทำคดี เนื่องจากแรงงานผู้เสียหายอยู่หลายพื้นที่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เช่น บุรีรัมย์ ส่วนความผิดของนายหน้าเถื่อนเบื้องต้นนั้นผิดข้อหาหลอกลวงคนไปทำงานต่างประเทศตามพ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528
นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กล่าวว่า ขณะนี้มีแรงงานที่ถูกหลอกโดยสายนายหน้าดังกล่าวมาร้องเรียนกับ กรมการจัดหางานแล้ว 15 คน ซึ่งปัจจุบันการหลอกลวงผ่านสื่อออนไลน์มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น กกจ. จึงได้ตั้งเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจติดตามการหลอกลวงผ่านอินเทอร์เน็ตโดยเฉพาะ ทั้งสังคมออนไลน์และเว็บไซด์ต่างๆ เพื่อจัดการกรณีที่เป็นการหลอกลวงหรือการจัดหางาน โดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ ขอเตือนผู้ที่สนใจจะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ให้ติดต่อสอบถามข้อมูลกับสำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศหรือสอบถามสายด่วน 1694 ของ กกจ. เท่านั้น เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง โดยในกรณีดังกล่าวกรมการจัดหางานได้ประสานนำแรงงานไปแจ้งความที่กอง ปคม. แล้ว ซึ่งจากการสอบถามน่าจะมีผู้เสียมากกว่า 50 - 60 คน ทั้งนี้ ขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูลรายชื่อและจำนวนผู้เสียหาย โดยอยากให้ผู้ที่ถูกหลอกลวงทั้งหมดมาแสดงตนและแจ้งความกับนายหน้า ซึ่งในกรณีนี้ได้ประสานกับตำรวจเจ้าของคดี ในการเร่งรัดออกหมายจับ และกรมการจัดหางานได้จัดเจ้าหน้าที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อออกติดตามตัวนายหน้ารายนี้มาดำเนินคดีต่อไป
“ผู้เสียหายกลุ่มนี้หลายคนเคยไปทำงานต่างประเทศ บางรายไปแบบผิดกฎหมายและผู้เสียหายทราบว่าเป็นการเดินทางที่ไม่ผ่านกรมการจัดหางาน และพร้อมที่จะเสี่ยง แต่กลับถูกหลอกลวงจนเกิดความเสียหายขึ้น อย่างไรก็ตาม สายหรือนายหน้าเถื่อน จะมีบทลงโทษตามมาตรา 91 ของพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 โทษฐานหลอกลวงคนไปทำงานต่างประเทศ มีโทษปรับ 60,000 - 200,000 บาท จำคุก 3 - 10 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับต่อการหลอกลวงหนึ่งครั้ง” นายสุเมธ กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (14 ต.ค.) เวลา 09.00 น. ที่กรมการจัดหางาน มีแรงงานเกือบ 10 คนที่ถูกนายหน้าเถื่อนหลอกไปทำงานต่างประเทศผ่านทางเฟซบุ๊กบัญชี “nong narak” ได้มารวมตัวกัน หลังจากนั้นเวลา 09.30 น. เจ้าหน้าที่กองตรวจและคุ้มครองคนหางานของ กกจ. ได้นำแรงงานทั้งหมดไปแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ
นางสาวนรินทร (ขอสงวนนามสกุล) วัย 24 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ หนึ่งในแรงงานที่ถูกหลอก กล่าวว่า ได้ข้อมูลจากเพื่อนว่ามีนายหน้าติดต่อไปทำงานต่างประเทศโดยผ่านทางเฟซบุ๊ก nongnarak จึงติดต่อกลับไปทางโทรศัพท์และไลน์แจ้งว่าตนและแฟน อยากไปทำสวนที่ประเทศออสเตรเลียโดยโอนเงินผ่านธนาคารไป 2 ครั้ง รวมเป็นเงิน 3.5 หมื่นบาท นายหน้าแจ้งว่าจะส่งรถมารับที่บ้านในวันที่ 2 ต.ค. ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่มีรถมารับ เมื่อโทรศัพท์ติดต่อกลับไปก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก หลังจากนี้ จะแจ้งความดำเนินคดีกับนายหน้า ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ตนเคยไปทำงานโรงงานในเกาหลีใต้โดยผ่านนายหน้าซึ่งมีรายได้ดี จึงอยากไปทำงานต่างประเทศอีก
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคม. ที่รับแจ้งความระบุว่า จะสอบถามข้อมูลและรวบรวมเอกสารหลักฐานจากแรงงานทุกคนที่มาร้องเรียนและเสนอไปยังกอง ปคม. เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาว่า กอง ปคม. จะทำคดีนี้หรือกระจายให้สถานีตำรวจในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดทำคดี เนื่องจากแรงงานผู้เสียหายอยู่หลายพื้นที่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เช่น บุรีรัมย์ ส่วนความผิดของนายหน้าเถื่อนเบื้องต้นนั้นผิดข้อหาหลอกลวงคนไปทำงานต่างประเทศตามพ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528
นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กล่าวว่า ขณะนี้มีแรงงานที่ถูกหลอกโดยสายนายหน้าดังกล่าวมาร้องเรียนกับ กรมการจัดหางานแล้ว 15 คน ซึ่งปัจจุบันการหลอกลวงผ่านสื่อออนไลน์มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น กกจ. จึงได้ตั้งเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจติดตามการหลอกลวงผ่านอินเทอร์เน็ตโดยเฉพาะ ทั้งสังคมออนไลน์และเว็บไซด์ต่างๆ เพื่อจัดการกรณีที่เป็นการหลอกลวงหรือการจัดหางาน โดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ ขอเตือนผู้ที่สนใจจะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ให้ติดต่อสอบถามข้อมูลกับสำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศหรือสอบถามสายด่วน 1694 ของ กกจ. เท่านั้น เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง โดยในกรณีดังกล่าวกรมการจัดหางานได้ประสานนำแรงงานไปแจ้งความที่กอง ปคม. แล้ว ซึ่งจากการสอบถามน่าจะมีผู้เสียมากกว่า 50 - 60 คน ทั้งนี้ ขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูลรายชื่อและจำนวนผู้เสียหาย โดยอยากให้ผู้ที่ถูกหลอกลวงทั้งหมดมาแสดงตนและแจ้งความกับนายหน้า ซึ่งในกรณีนี้ได้ประสานกับตำรวจเจ้าของคดี ในการเร่งรัดออกหมายจับ และกรมการจัดหางานได้จัดเจ้าหน้าที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อออกติดตามตัวนายหน้ารายนี้มาดำเนินคดีต่อไป
“ผู้เสียหายกลุ่มนี้หลายคนเคยไปทำงานต่างประเทศ บางรายไปแบบผิดกฎหมายและผู้เสียหายทราบว่าเป็นการเดินทางที่ไม่ผ่านกรมการจัดหางาน และพร้อมที่จะเสี่ยง แต่กลับถูกหลอกลวงจนเกิดความเสียหายขึ้น อย่างไรก็ตาม สายหรือนายหน้าเถื่อน จะมีบทลงโทษตามมาตรา 91 ของพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 โทษฐานหลอกลวงคนไปทำงานต่างประเทศ มีโทษปรับ 60,000 - 200,000 บาท จำคุก 3 - 10 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับต่อการหลอกลวงหนึ่งครั้ง” นายสุเมธ กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
กำลังโหลดเครื่อง oncothermia ความหวังใหม่รักษามะเร็งเต้านม-ตับระยะท้าย ใช้คลื่นวิทยุยิงเฉพาะจุดมะเร็งจนเกิดความร้อน เอื้อยาเคมีบำบัดเข้าถึงมะเร็งง่ายขึ้น ผลศึกษาก้แนมะเร็งเต้านมยุบทั้งหมด 22% ผู้ป่วยมะเร็งตับอายุยืนขึ้น
