พม. ร่วมกับภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนนโยบายพัฒนาเด็กและเยาวชน คาดปี 2568 ประชากรเด็กลดลง เกิดปัญหาขาดแคลนแรงงาน วัยแรงงานรับภาระสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น เล็งวางมาตรการแก้ไข เตรียมความพร้อม 5 ข้อ
วันนี้ (6 ต.ค.) เวลา 13.30 น. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วม สภาองค์การเด็กและเยาวชนในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ชมรม CSR สมาคมธนาคารไทย สหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ และภาคีโครงการชั่วโมงนี้...เพื่อเด็กและเยาวชน จัดงาน “รวมพลังไตรภาคี เพื่ออนาคตเด็กและเยาวชน” เนื่องในโอกาสวันเยาวชนแห่งชาติ ประจำปี 2557 โดยมี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พม. เป็นประธาน
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า ในฐานะที่ต้องดูแลงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตนขอประกาศเจตนารมณ์ว่า “จะลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม พัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ของกระทรวงที่ให้ไว้คือ มุ่งสู่สังคมคุณภาพ บนพื้นฐานความรับผิดชอบร่วมกัน” ซึ่งสอดคล้องกับการรวมพลังทั้ง 3 ภาคส่วน ที่จะขับเคลื่อนนโยบายของรัฐ ไปสู่การปฏิบัติได้ และเกิดประสิทธิผลสูงสุดตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ ซึ่งงานด้านเด็กและเยาวชนนั้น มีความสำคัญมาก เนื่องจากในอนาคตอัตราการเกิดจะน้อยลง ทำให้จำนวนประชากรวัยเด็กลดน้อยลง โดยคาดว่าในปี 2568 ประชากรเด็กในประเทศไทยจะมีสัดส่วนเหลือเพียงร้อยละ 15.8 ซึ่งทำให้มีปัญหาขาดแคลนแรงงาน และการนำเข้าแรงงานมีความรุนแรงขึ้นต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน ผู้สูงอายุในประเทศไทยในปี 2556 เป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 9.9 ของประชากรทั้งหมด ทำให้ประเทศไทยเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งในอนาคตประชากรวัยแรงงาน จะต้องมีภาระรับผิดชอบสวัสดิการของผู้สูงอายุมากขึ้น จึงต้องเร่งพัฒนาศักยภาพของเด็กและเยาวชน เพื่อให้เติบโตขึ้นเป็นประชากรที่มีคุณภาพ และเป็นกำลังสำคัญในการดูแลสังคมได้
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า พม. มีนโยบายการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต และมีนโยบายตามพันธกิจในด้านเด็กและเยาวชน 5 ข้อ คือ 1. ส่งเสริมคุ้มครองพิทักษ์สิทธิเด็ก พัฒนาศักยภาพให้มีความสามารถ และคุณภาพชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี มีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพสังคม 2. ปลูกฝังจิตสำนึก คุณธรรม จริยธรรม สิทธิและหน้าที่พลเมืองการมีส่วนร่วมทางสังคม 3. ป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อม และส่งเสริมความรู้ด้านอนามัยเจริญพันธุ์ จัดบริการที่เหมาะสมให้กับแม่และเด็กที่มีปัญหา 4. ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็กและเยาวชน ให้เป็นกลไกหลักในการพัฒนาเด็กและเยาวชน และ 5. ส่งเสริมความเข้มแข็งของสภาเด็กและเยาวชน ให้เป็นกลไกหลักในการพัฒนาเด็กและเยาวชน
โดยหวังว่า นโยบายทั้ง 5 จะเป็นแนวทางที่ทำให้เกิดความร่วมมือ และบูรณาการการทำงานของทั้งภาครัฐ ภาคเศรษฐกิจ และภาคสังคม ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้เกิดพลังในการขับเคลื่อน การเตรียมความพร้อมของคนไทยรุ่นใหม่ที่จะนำพาให้สังคมไทยมี ความเจริญ และเป็นผู้นำในประชาคมอาเซียนและประชาคมโลกต่อไปในอนาคต
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (6 ต.ค.) เวลา 13.30 น. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วม สภาองค์การเด็กและเยาวชนในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ชมรม CSR สมาคมธนาคารไทย สหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ และภาคีโครงการชั่วโมงนี้...เพื่อเด็กและเยาวชน จัดงาน “รวมพลังไตรภาคี เพื่ออนาคตเด็กและเยาวชน” เนื่องในโอกาสวันเยาวชนแห่งชาติ ประจำปี 2557 โดยมี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พม. เป็นประธาน
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า ในฐานะที่ต้องดูแลงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตนขอประกาศเจตนารมณ์ว่า “จะลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม พัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ของกระทรวงที่ให้ไว้คือ มุ่งสู่สังคมคุณภาพ บนพื้นฐานความรับผิดชอบร่วมกัน” ซึ่งสอดคล้องกับการรวมพลังทั้ง 3 ภาคส่วน ที่จะขับเคลื่อนนโยบายของรัฐ ไปสู่การปฏิบัติได้ และเกิดประสิทธิผลสูงสุดตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ ซึ่งงานด้านเด็กและเยาวชนนั้น มีความสำคัญมาก เนื่องจากในอนาคตอัตราการเกิดจะน้อยลง ทำให้จำนวนประชากรวัยเด็กลดน้อยลง โดยคาดว่าในปี 2568 ประชากรเด็กในประเทศไทยจะมีสัดส่วนเหลือเพียงร้อยละ 15.8 ซึ่งทำให้มีปัญหาขาดแคลนแรงงาน และการนำเข้าแรงงานมีความรุนแรงขึ้นต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน ผู้สูงอายุในประเทศไทยในปี 2556 เป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 9.9 ของประชากรทั้งหมด ทำให้ประเทศไทยเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งในอนาคตประชากรวัยแรงงาน จะต้องมีภาระรับผิดชอบสวัสดิการของผู้สูงอายุมากขึ้น จึงต้องเร่งพัฒนาศักยภาพของเด็กและเยาวชน เพื่อให้เติบโตขึ้นเป็นประชากรที่มีคุณภาพ และเป็นกำลังสำคัญในการดูแลสังคมได้
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า พม. มีนโยบายการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต และมีนโยบายตามพันธกิจในด้านเด็กและเยาวชน 5 ข้อ คือ 1. ส่งเสริมคุ้มครองพิทักษ์สิทธิเด็ก พัฒนาศักยภาพให้มีความสามารถ และคุณภาพชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี มีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพสังคม 2. ปลูกฝังจิตสำนึก คุณธรรม จริยธรรม สิทธิและหน้าที่พลเมืองการมีส่วนร่วมทางสังคม 3. ป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อม และส่งเสริมความรู้ด้านอนามัยเจริญพันธุ์ จัดบริการที่เหมาะสมให้กับแม่และเด็กที่มีปัญหา 4. ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็กและเยาวชน ให้เป็นกลไกหลักในการพัฒนาเด็กและเยาวชน และ 5. ส่งเสริมความเข้มแข็งของสภาเด็กและเยาวชน ให้เป็นกลไกหลักในการพัฒนาเด็กและเยาวชน
โดยหวังว่า นโยบายทั้ง 5 จะเป็นแนวทางที่ทำให้เกิดความร่วมมือ และบูรณาการการทำงานของทั้งภาครัฐ ภาคเศรษฐกิจ และภาคสังคม ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้เกิดพลังในการขับเคลื่อน การเตรียมความพร้อมของคนไทยรุ่นใหม่ที่จะนำพาให้สังคมไทยมี ความเจริญ และเป็นผู้นำในประชาคมอาเซียนและประชาคมโลกต่อไปในอนาคต
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
กำลังโหลดรุ่นพี่เทคโนฯสวนนันขอขมาอธิการบดี กรณีหยดน้ำตาเทียนใส่รุ่นน้อง ขณะที่ผลสอบวินัยสั่งลงโทษไม่ร้ายแรง ตักเตือน 23 คน ภาคทัณฑ์ 10 คน ตัดคะแนนความประพฤติอีก 10 คน
