อธิการบดีปทุมวันฯ ยันไม่ย้ายสถาบันไปที่ จ.พิจิตร แจงแค่มีโครงการไปเปิดวิทยาเขตเท่านั้นซึ่งเตรียมการมาเกือบ 3 ปีแล้ว รับเสนอโครงการดังกล่าวต่อ รมว.ศึกษาฯ จริงแต่คาดว่าการสื่อสารผิดพลาดจนเข้าใจคลาดเคลื่อน จ่อขอเข้าพบแจงอีกครั้ง ด้าน “ณรงค์” ลั่นไม่ต้องปรับความเข้าใจ อธิการบอกไม่ย้ายก็คือไม่ย้าย ขณะที่ สกอ. เผยปทุมวัน มีแผนขยับ นศ. ไปเรียนวิทยาเขตพิจิตร เพราะที่ตั้งปัจจุบันต้องเช่าราคาสูง แต่ยังต้องหารือ สภาสถาบันฯก่อน
วันนี้ (3 ต.ค.) รศ.ดร.ปัญญา มินยง อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน เปิดเผยถึงกรณีกระแสข่าวการย้ายสถาบันฯ จากที่ตั้งในปัจจุบันไปยังจังหวัดพิจิตร ว่า ยืนยันว่าสถาบันฯ ปทุมวัน จะไม่มีการย้ายจากที่ตั้งอยู่ในย่านปทุมวันไปอยู่ที่จ.พิจิตร ทั้งนี้ ในส่วนของการไปตั้งสถาบันที่ จ.พิจิตร นั้นเป็นการไปเปิดวิทยาเขตเท่านั้น แต่ในวันที่ตนเข้าพบ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นั้น ทางสถาบันฯ ปทุมวัน ได้เสนอว่ามีโครงการจัดตั้งสถาบันฯ ที่ จ.พิจิตร ซึ่งคาดว่าการสื่อสารของตนอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าสถาบันจะย้าย ทั้งนี้ หลังจากนี้ ตนจะทำหนังสือเข้าพบ รมว.ศึกษาธิการ อีกครั้ง เพื่อชี้แจงว่าสถาบันฯ ไม่ได้ย้ายเพียงแต่จะขอเปิดวิทยาเขตที่ จ.พิจิตร เท่านั้น เพราะการจะขอเปิดวิทยาเขตนั้น ทางสถาบันฯ ต้องรายงานต่อ รมว.ศึกษาธิการ ซึ่งถือเป็นผู้บังคับบัญชา เพื่อเสนอต่อไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้เห็นชอบ
อย่างไรก็ตาม โครงการจัดตั้งสถาบันฯ ที่ จ.พิจิตร นั้น ขณะนี้ได้มีการวางโครงการไว้เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงเสนอรมว.ศึกษาธิการ ส่วนที่มีข้อเสนอแนะให้จัดทำเป็น ปทุมวันโมเดล ในการเป็นสถาบันลักษณะวิชาชีพ ให้เป็นโรงเรียนประจำนั้น ถ้าหาก รมว.ศึกษาธิการ ผู้บริหารกระทรวง หรือ ครม. เห็นชอบอย่างไร ก็คงต้องปรับไปตามความเหมาะสมเพื่อประโยชน์ด้านการศึกษาในการพัฒนาคน
“ยืนยันว่าปทุมวันไม่ได้ย้ายไปไหนและไม่ได้ย้ายหนีใคร เรายังคงตั้งอยู่ที่เดิม เพียงแต่มีแผนจะเปิดวิทยาเขตเพิ่มเติมที่จ.พิจิตร เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษา โดยโครงการดังกล่าวสถาบันเตรียมการมา 3-4 ปี ตั้งแต่เราได้รับบริจาคพื้นที่มา สภาสถาบันฯ ก็ได้ขอให้ทางคณะผู้บริหารสถาบันฯ ไปจัดตั้งโครงการเพื่อพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งขณะนี้รายละเอียดโครงการต่างๆได้กำหนดไว้แล้ว เบื้องต้นคาดว่าจะเปิด 2 คณะ คือ คณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะวิทยาศาสตร์ ส่วนการดำเนินการก็เหมือนกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ ที่เปิดวิทยาเขต เปิดรับนักศึกษาใหม่ จะไม่มีการย้ายนักศึกษาที่เรียนอยู่ที่สถาบันฯปทุมวัน ที่กรุงเทพฯ ไปเรียนอย่างแน่นอน ดังนั้น อยากฝากไปยังประชาชน นักเรียนนักศึกษา และศิษย์เก่าของปทุมวัน ว่าสถาบันฯ ไม่มีการย้ายใดๆ ทั้งสิ้น” รศ.ดร.ปัญญากล่าว
ด้าน พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวว่า ขอให้ไปถามกับทางอธิการบดีสถาบันฯ ปทุมวัน โดยตรง ซึ่งการจะย้ายหรือไม่ย้ายนั้นเป็นสิทธิของทางสถาบันเองเพราะท่านเป็นเจ้าของ และตนก็ไม่ได้จะไปย้ายสถาบันฯ ปทุมวันแต่อย่างใด เพราะฉะนั้น เรื่องนี้คงไม่มีความเข้าใจผิดและไม่ต้องปรับความเข้าใจอะไร เมื่ออธิการบดีบอกมาอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น ไม่ย้ายก็คือไม่ย้าย
รศ.นพ.กำจร ตติยกวี เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) กล่าวว่า ทางคณะผู้บริหารสถาบันฯ ปทุมวัน ได้ขอเข้าพบ รมว.ศึกษาธิการ เพื่อเสนอโครงการจัดตั้งวิทยาเขต ที่จังหวัดพิจิตร ซึ่งมีผู้บริจาคที่ดินไว้แล้วจำนวน 500 ไร่ ซึ่งที่ประชุมที่มี รมว.ศึกษาธิการ ผู้บริหารองค์กรหลัก ศธ. ก็เห็นชอบ และมีการพูดคุยกันว่าในอนาคต อาจจะค่อยๆ ขยับให้นักศึกษาส่วนใหญ่ย้ายไปเรียนในวิทยาเขตดังกล่าว เพราะที่ตั้งปัจจุบัน ยังเป็นสัญญาเช่า ซึ่งแต่ละปีมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ซึ่งเรื่องนี้ทางอธิการบดีสถาบันฯปทุมวัน จะนำเข้าหารือสภาสถาบันฯอีกครั้ง
“เป็นความตั้งใจของ รมว.ศึกษาธิการ ที่จะแก้ปัญหาให้นักเรียนใช้เวลาในการฝึกทักษะวิชาชีพมากขึ้น โดยสนับสนุนให้ทางสถาบันฯ ปทุมวัน จัดการเรียนการสอนในรูปแบบโรงเรียนประจำ ศธ. จะสนับสนุนในส่วนของการสร้างหอพัก และประสานผู้ประกอบการให้มาตั้งกิจการในพื้นที่เพื่อให้นักศึกษาได้มีพื้นที่ฝึกงาน” รศ.นพ.กำจร กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่