“กฤษณพงศ์” เร่งสะสางปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา ชี้ส่วนใหญ่เรียกร้องแต่เพื่อตนเอง เห็นคนอื่นมีก็อยากมี แต่ไม่มีใครร้องเพื่อเด็กหรือเพื่อคุณภาพ มอบ “กำจร” เข้ามารายงานคืบหน้าการจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศต่อ “ณรงค์” เพราะเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ รมว.ศึกษาฯ สั่งให้เร่งตรวจสอบ
นายกฤษณพงศ์ กีรติกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ ได้มอบหมายงานในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ที่ตนกำกับดูแลให้เร่งดำเนินการและตรวจสอบหลักๆ มี 2 เรื่อง ได้แก่ การจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศจำนวน 11 ศูนย์ ซึ่งจะต้องใช้งบประมาณทั้งหมด จำนวน 9,000 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งเป็นเงินกู้จากสถาบันการเงินต่างประเทศซึ่งตนจะมอบหมายให้ รศ.นพ.กำจร ตติยกวี เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เข้าไปชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวให้ รมว.ศึกษาธิการ รับทราบ และเข้าใจเหตุผลที่ต้องกู้เงิน ส่วนอีกเรื่อง คือ ปัญหาร้องเรียนต่างๆ ของสถาบันอุดมศึกษา ซึ่ง เบื้องต้น พล.ร.อ.ณรงค์ ได้ส่งมาให้ตนดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 10 เรื่อง แต่คาดว่าน่าจะมีมากกว่านั้นและเท่าที่ดูส่วนใหญ่จะเป็นการร้องเรียนเรื่องเงินเดือน หรือค่าตอบแทนในส่วนต่างๆ
“ปัญหานี้เป็นส่วนหนึ่งของความมีธรรมาภิบาลในมหาวิทยาลัย ที่ผ่านมาผมได้หารือกับคุณหญิงสุมณฑา พรหมบุญ ประธานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) และเลขาธิการ กกอ. เกี่ยวกับการดูแลระบบธรรมาภิบาลในมหาวิทยาลัย แต่การมีเรื่องร้องเรียนเข้ามาจำนวนมากแสดงให้เห็นถึงความแตกแยก ไม่สามัคคีกัน และแม้ว่าเรื่องร้องเรียนของ สกอ. จะน้อยกว่าเรื่องร้องเรียนขององค์กรหลักอื่นๆ แต่ก็เป็นที่น่าสังเกตว่าข้อร้องเรียนส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่เรียกร้องเพื่อประโยชน์ของตัวเอง หรือเห็นคนอื่นมีแล้วเราไม่มี ก็เรียกร้องให้มีเหมือนกัน แต่ไม่เห็นมีใครเรียกร้องให้เด็ก เรียกร้องให้แก้ไขความเดือนร้อนของนิสิต นักศึกษา หรือเรียกร้องในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อคุณภาพการศึกษา ซึ่งก็เป็นเรื่องน่าคิด” นายกฤษณพงศ์ กล่าว
ด้าน รศ.นพ.กำจร กล่าวต่อว่า สกอ. ได้รับเรื่องร้องเรียนอยู่ตลอดเวลา โดยส่วนใหญ่จะเป็นประเด็นถูกผู้บริหารกลั่นแกล้ง ความไม่โปร่งใสในการสรรหาอธิการบดี ความไม่โปร่งใสในการสรรหากรรมการสภามหาวิทยาลัย ซึ่งตนเคยบอก รมว.ศึกษาธิการ ไปแล้วว่า เรื่องที่เกี่ยวข้องกับธรรมาภิบาล ปัญหาคืออำนาจไม่ได้อยู่ที่ สกอ. ดังนั้น สิ่งที่ดำเนินการอยู่ขณะนี้คือให้ กกอ. เข้าไปมีส่วนในการแก้ปัญหาดังกล่าวได้ โดยเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษา แต่ก็ยังมีปัญหา เพราะมหาวิทยาลัยเองก็กังวลว่าหากให้อำนาจตรงนี้จะทำให้ สกอ. เข้าไปล้วงลูกการบริหารจัดการภายในมหาวิทยาลัย ซึ่งก็ได้พยายามชี้แจงว่า การแก้ปัญหาธรรมาภิบาลดังกล่าว ไม่ใช่อำนาจของ สกอ. แต่เป็นรูปแบบองค์คณะบุคคล เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
