วธ. เร่งตั้ง คกก. ศึกษาแนวทางการลดหย่อนภาษี ยก 3 ประเทศต้นแบบทั้งอังกฤษ เกาหลี สิงคโปร์ คาดได้ผลสรุปภายในเดือนตุลาคมนี้
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว วธ. กล่าวภายหลังประชุมกำหนดแนวทางการลดหย่อนภาษี ครั้งที่ 1 ว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณากรณีที่หลายฝ่ายเสนอให้มีการผลักดันมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคเงินเพื่อการดำเนินงานด้านวัฒนธรรม ซึ่งขณะนี้ในประเทศไทยมีเฉพาะมาตรการลดหย่อนภาษีเพื่อสนับสนุนผู้บริจาคเงินให้เพื่อการบูรณะโบราณสถาน โบราณวัตถุ และศิลปวัตถุ งานพิพิธภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังไม่ครอบคลุมถึงผู้ที่บริจาคหรือสนับสนุนงานด้านหอสมุดแห่งชาติ หอจดหมายเหตุ หอศิลปะทั่วไป โรงละครต่างๆ รวมไปถึงกิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรม งานบริการด้านศิลปวัฒนธรรม
นายวีระ กล่าวว่า ตนจึงได้เสนอในที่ประชุมให้ดำเนินการเร่งด่วน ดังนี้ 1. ตั้งคณะกรรมการพิจารณาเพื่อหาแนวทางในการลดหย่อนภาษีสำหรับผู้บริจาคเพื่องานและกิจกรรมทางวัฒนธรรม 2. ศึกษามาตรการภาษีจากต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จ อาทิ อังกฤษ เกาหลี สิงคโปร์ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้บริจาคได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้จำนวน 2 เท่าของจำนวนที่บริจาค 3. มีการทำวิจัยศึกษาผลดีผลเสีย รวมไปถึงศึกษาจำนวนเงินภาษีที่กรมสรรพากรขาดหายไปเปรียบเทียบกับประโยชน์ในสิ่งที่ประเทศชาติได้รับจากการสนับสนุนงานด้านวัฒนธรรม คาดว่า ภายในเดือนตุลาคมนี้ วธ. จะได้แนวทางการลดหย่อนภาษีอย่างเป็นรูปธรรม
“ยกตัวอย่างกระทรวงศึกษาธิการจะมีการลดหย่อนภาษีสำหรับการดำเนินงานด้านการศึกษา สถานศึกษา ซึ่งถือว่าเป็นการศึกษาในระบบ ส่วน วธ. ส่วนใหญ่เป็นแหล่งโบราณสถาน หอสมุดแห่งชาติ หอจดหมายเหตุ และโรงละคร สถานบริการด้านวัฒนธรรม ซึ่งก็ถือเป็นแหล่งเรียนรู้ศึกษาให้แก่ประชาชน เด็กและเยาวชนเช่นเดียวกัน ก็น่าจะมีความเป็นไปได้ในการขอลดหย่อนภาษี ซึ่งหากมาตรการนี้สำเร็จจะจูงใจประชาชน ภาคเอกชนมีการบริจาคเพื่องานด้านวัฒนธรรมมากขึ้น” นายวีระ กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว วธ. กล่าวภายหลังประชุมกำหนดแนวทางการลดหย่อนภาษี ครั้งที่ 1 ว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณากรณีที่หลายฝ่ายเสนอให้มีการผลักดันมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคเงินเพื่อการดำเนินงานด้านวัฒนธรรม ซึ่งขณะนี้ในประเทศไทยมีเฉพาะมาตรการลดหย่อนภาษีเพื่อสนับสนุนผู้บริจาคเงินให้เพื่อการบูรณะโบราณสถาน โบราณวัตถุ และศิลปวัตถุ งานพิพิธภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังไม่ครอบคลุมถึงผู้ที่บริจาคหรือสนับสนุนงานด้านหอสมุดแห่งชาติ หอจดหมายเหตุ หอศิลปะทั่วไป โรงละครต่างๆ รวมไปถึงกิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรม งานบริการด้านศิลปวัฒนธรรม
นายวีระ กล่าวว่า ตนจึงได้เสนอในที่ประชุมให้ดำเนินการเร่งด่วน ดังนี้ 1. ตั้งคณะกรรมการพิจารณาเพื่อหาแนวทางในการลดหย่อนภาษีสำหรับผู้บริจาคเพื่องานและกิจกรรมทางวัฒนธรรม 2. ศึกษามาตรการภาษีจากต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จ อาทิ อังกฤษ เกาหลี สิงคโปร์ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้บริจาคได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้จำนวน 2 เท่าของจำนวนที่บริจาค 3. มีการทำวิจัยศึกษาผลดีผลเสีย รวมไปถึงศึกษาจำนวนเงินภาษีที่กรมสรรพากรขาดหายไปเปรียบเทียบกับประโยชน์ในสิ่งที่ประเทศชาติได้รับจากการสนับสนุนงานด้านวัฒนธรรม คาดว่า ภายในเดือนตุลาคมนี้ วธ. จะได้แนวทางการลดหย่อนภาษีอย่างเป็นรูปธรรม
“ยกตัวอย่างกระทรวงศึกษาธิการจะมีการลดหย่อนภาษีสำหรับการดำเนินงานด้านการศึกษา สถานศึกษา ซึ่งถือว่าเป็นการศึกษาในระบบ ส่วน วธ. ส่วนใหญ่เป็นแหล่งโบราณสถาน หอสมุดแห่งชาติ หอจดหมายเหตุ และโรงละคร สถานบริการด้านวัฒนธรรม ซึ่งก็ถือเป็นแหล่งเรียนรู้ศึกษาให้แก่ประชาชน เด็กและเยาวชนเช่นเดียวกัน ก็น่าจะมีความเป็นไปได้ในการขอลดหย่อนภาษี ซึ่งหากมาตรการนี้สำเร็จจะจูงใจประชาชน ภาคเอกชนมีการบริจาคเพื่องานด้านวัฒนธรรมมากขึ้น” นายวีระ กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่