แพทย์ฯ ย้ำไม่พบพยาธิตัวตืดในปลาทะเล ชี้ส่วนใหญ่พบมากในหมู และวัว ซึ่งมาจากการกินดิบ ขณะที่ปลาน้ำจืดของไทยพบเจอพยาธิตัวกลม และตัวจี๊ดมากสุด เตือน ปชช. อย่าแตกตื่นข่าว
วันนี้ (26 ก.ย.) รศ.นพ.ทวีศักดิ์ แทนวันดี หัวหน้าสาขาวิชาระบบทางเดินอาหาร คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล (มม.) กล่าวถึงกรณีที่วานนี้ (25 ก.ย.) จอร์เจียนิวส์ สื่อต่างประเทศรายงานว่า มีชาวจีนคนหนึ่งไปพบแพทย์ เพราะมีอาการคันยุบยิบที่ช่องท้องและผิวหนังทั่วตัว เมื่อทำการตรวจเอกซเรย์ภายในพบพยาธิตัวตืดจำนวนมากกระจายเต็มร่างกาย โดยจากการวินิจฉัยและสอบถามพฤติกรรมกินอาหารของผู้ป่วยชาวจีนพบว่าชอบรับประทานปลาดิบมาก จึงเชื่อว่าพยาธิจำนวนมากที่พบในร่างกายมาจากการกินปลาดิบมาต่อเนื่องและยาวนานนั้น ว่า ส่วนใหญ่แล้วประเทศไทยจะไม่พบพยาธิตัวตืดในปลาทะเล แต่กลับเจอพยาธิตัวกลม พยาธิตัวจี๊ด ซึ่งพบได้ในปลาน้ำจืดของบ้านเรา ส่วนพยาธิตัวตืดนั้นเราจะพบมากที่สุดในหมูและวัว ซึ่งถ้าผู้บริโภครับประทานเนื้อหมูดิบ เนื้อวัวดิบบ่อยๆ ก็มีโอกาสที่พยาธิตัวตืดเข้าสู่ร่างกายได้ และหากตัวอ่อนพยาธิเข้าไปสู่กระเพาะอาหารก็มีโอกาสที่จะกระจายไปเกาะตามอวัยวะภายในต่างๆ ของร่างกาย นำไปสู่ความเจ็บป่วยแต่ความรุนแรงจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับว่าปริมาณของพยาธิมีมากน้อยเพียงใด รวมถึงการกระจายตัวของพยาธิไปอยู่ในบริเวณอวัยวะหรือจุดที่อันตรายหรือไม่ และโดยทั่วไปผู้ที่มีพยาธิในร่างกายจะไม่ค่อยแสดงอาการชัดมากเท่าไรนักจะต้องดูสุขภาพและภูมิคุ้มกันของบุคคลนั้นๆ ด้วย
“ส่วนใหญ่เราจะนำเข้าปลาทะเลขนาดใหญ่มาจากต่างประเทศ ขณะที่ปลาทะเลในบ้านเราก็ไม่พบปัญหาเรื่องพยาธิตัวตืด ที่น่าห่วงคือพยาธิในปลาน้ำจืดมากกว่า เพราะฉะนั้น ขอย้ำว่าผู้บริโภคอย่าเพิ่งแตกตื่นหรือวิตกกังวล”รศ.นพ.ทวีศักดิ์ กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่