สมาคมการประมงนอกน่านน้ำไทย ประสาน ก.ต่างประเทศ ช่วยคนไทยในอินโดนีเซีย ตรวจสอบผู้ต้องการกลับไทยแยกเป็นกรณีสมัครใจมาทำงานแต่สู้ไม่ไหว - ถูกหลอกมาทำงาน ยืนยันดูแลสมาชิกกว่า 260 ลำ ไม่ให้ใช้แรงงานผิดกฎหมาย
นายวิริยะ ศิริชัยเอกวัฒน์ นายกสมาคมการประมงนอกน่านน้ำไทย กล่าวถึงกรณีคนไทยถูกหลอกลวงไปทำงานบนเรือประมงไทยในน่านน้ำประเทศอินโดนีเซีย ว่า คาดว่ามีคนไทยนับร้อยคน ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่สมัครใจไปทำงานบนเรือประมงและมีเอกสารรับรอง เช่น มีหนังสือคนประจำเรือหรือ ซี-แมนบุ๊ก มีสัญญาจ้าง รวมทั้งมีการจัดทำบัญชีรายชื่อลูกเรือ บันทึกข้อมูลการเข้า-ออกด่านตรวจศุลกากรซึ่งลูกเรือทุกคนต้องเซ็นชื่อกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จึงจะออกไปนอกน่านน้ำไทยกับเรือประมงได้ นอกจากนี้ มีการจดทะเบียนและผ่านการตรวจสอบตามขั้นตอนจากกรมเจ้าท่า ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและด่านศุลากร อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าสสมาคมฯพยายามดูแลไม่ให้สมาชิกใช้แรงงานผิดกฎหมาย ใช้แรงงานที่ถูกหลอกลวงมาทำงาน แต่ควบคุมและตรวจสอบได้ยาก ทำให้ปัญหานี้ยังคงมีอยู่
นายวิริยะ กล่าวอีกว่า ส่วนการช่วยเหลือคนไทยที่ทำงานบนเรือประมงในอินโดนีเซีย ล่าสุด สมาคมฯได้ประชุมสมาชิกจะร่วมมือกับกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศตรวจสอบข้อมูลว่า มีคนไทยต้องการเดินทางกลับประเทศไทยจำนวนทั้งหมดกี่คน และมีปัญหาในกรณีใดบ้าง เช่น กรณีสมัครใจมาทำงานแล้วทำงานไม่ไหวมาทำงานประมงแล้วหนีขึ้นฝั่งไปทำงานอื่น ทำให้เป็นแรงงานผิดกฎหมายในอินโดนีเซีย ทั้งนี้ ได้กำชับสมาชิกสมาคมที่มีกว่า 260 ลำทั่วประเทศ ไม่ให้มีการใช้แรงงานผิดกฎหมาย ไม่ให้มีการหลอกลวงมาทำงาน และเมื่อช่วง 2-3 เดือนก่อน ได้แก้ไขระเบียบของสมาคมมีทั้งหมด 12 ข้อโดยเพิ่มเติมเนื้อหา เช่น เจ้าของเรือต้องแจ้งสัมปทานการหาปลา มีการจดทะเบียนเรือ มีสำเนารายชื่อลูกเรือ ใบแจ้งการออกเรือ
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นายวิริยะ ศิริชัยเอกวัฒน์ นายกสมาคมการประมงนอกน่านน้ำไทย กล่าวถึงกรณีคนไทยถูกหลอกลวงไปทำงานบนเรือประมงไทยในน่านน้ำประเทศอินโดนีเซีย ว่า คาดว่ามีคนไทยนับร้อยคน ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่สมัครใจไปทำงานบนเรือประมงและมีเอกสารรับรอง เช่น มีหนังสือคนประจำเรือหรือ ซี-แมนบุ๊ก มีสัญญาจ้าง รวมทั้งมีการจัดทำบัญชีรายชื่อลูกเรือ บันทึกข้อมูลการเข้า-ออกด่านตรวจศุลกากรซึ่งลูกเรือทุกคนต้องเซ็นชื่อกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จึงจะออกไปนอกน่านน้ำไทยกับเรือประมงได้ นอกจากนี้ มีการจดทะเบียนและผ่านการตรวจสอบตามขั้นตอนจากกรมเจ้าท่า ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและด่านศุลากร อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าสสมาคมฯพยายามดูแลไม่ให้สมาชิกใช้แรงงานผิดกฎหมาย ใช้แรงงานที่ถูกหลอกลวงมาทำงาน แต่ควบคุมและตรวจสอบได้ยาก ทำให้ปัญหานี้ยังคงมีอยู่
นายวิริยะ กล่าวอีกว่า ส่วนการช่วยเหลือคนไทยที่ทำงานบนเรือประมงในอินโดนีเซีย ล่าสุด สมาคมฯได้ประชุมสมาชิกจะร่วมมือกับกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศตรวจสอบข้อมูลว่า มีคนไทยต้องการเดินทางกลับประเทศไทยจำนวนทั้งหมดกี่คน และมีปัญหาในกรณีใดบ้าง เช่น กรณีสมัครใจมาทำงานแล้วทำงานไม่ไหวมาทำงานประมงแล้วหนีขึ้นฝั่งไปทำงานอื่น ทำให้เป็นแรงงานผิดกฎหมายในอินโดนีเซีย ทั้งนี้ ได้กำชับสมาชิกสมาคมที่มีกว่า 260 ลำทั่วประเทศ ไม่ให้มีการใช้แรงงานผิดกฎหมาย ไม่ให้มีการหลอกลวงมาทำงาน และเมื่อช่วง 2-3 เดือนก่อน ได้แก้ไขระเบียบของสมาคมมีทั้งหมด 12 ข้อโดยเพิ่มเติมเนื้อหา เช่น เจ้าของเรือต้องแจ้งสัมปทานการหาปลา มีการจดทะเบียนเรือ มีสำเนารายชื่อลูกเรือ ใบแจ้งการออกเรือ
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
