มูลนิธิแอลพีเอ็นรับร้องเรียนแรงงานไทย-พม่าถูกหลอกทำงานบนเรือประมงในอินโดนีเซีย 30 ราย ส่งเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมประสาน ก.ต่างประเทศ - ตำรวจพม่าเข้าช่วยเหลือ ด้านสมาคมประมงเผยไม่นิ่งนอนใจเร่งหาข้อมูลสมาชิกฝ่าฝืนจรรยาบรรณ ยันไม่สนับสนุนค้าแรงงานผิด กม. พร้อมร่วมมือทุกฝ่าย
วันนี้ (21 ก.ย.) นายสมพงศ์ สระแก้ว ผู้อำนวยการมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (แอลพีเอ็น) กล่าวถึงกรณีกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงคนไทยไปทำงานบนเรือประมงในอินโดนีเซียว่า มูลนิธิแอลพีเอ็นได้รับร้องเรียนว่ามีคนไทย 15 คนในภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพม่า 15 คนถูกหลอกลวงไปทำงานบนเรือประมงของคนไทยในน่านน้ำประเทศอินโดนีเซียซึ่งบางรายถูกหลอกตั้งแต่เมื่อ 5 ปีที่แล้ว บางรายเพิ่งถูกหลอกเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ขณะได้ประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศของไทยและตำรวจของพม่าเพื่อช่วยเหลือแรงงานทั้ง 30 คน อยากให้หน่วยงานรัฐ เอกชน ประสานงานกันอย่างรวดเร็วและใกล้ชิด ลงพื้นที่ไปยังประเทศอินโดนีเซีย จะทำให้การช่วยเหลือทำได้รวดเร็วขึ้น
นายสมพงศ์กล่าวด้วยว่า ส่วนมาตรการป้องกันนั้น ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องร่วมมือกันโดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์เพื่อให้คนไทยและต่างด้าวได้รับทราบ ระมัดระวังตนเองจากกลุ่มมิจฉาชีพโดยมีการประกาศข้อความเตือน และเบอร์โทรศัพท์หน่วยงานรัฐที่ให้ความช่วยเหลือ เช่น เบอร์โทร.ของกระทรวงแรงงาน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตำรวจโดยติดข้อความไว้บนรถและขึ้นข้อความทีวีบนรถทัวร์ รถตู้ และรถไฟที่ขนส่งผู้โดยสารจากต่างจังหวัดมายังกรุงเทพมาลงที่สถานีขนส่งหมอชิต สถานีรถไฟหัวลำโพง ทั้งภาษาไทย พม่า กัมพูชา ลาว นอกจากนี้ ในส่วนของเรือประมงไทยทั้งในและนอกน่านน้ำไทยนั้น หน่วยงานรัฐที่ดูแลจะต้องมีการขึ้นทะเบียนเรือ และตรวจสอบบัญชีรายชื่อลูกจ้างที่ทำงานบนเรือ รู้ถึงพื้นที่ที่เรือจะออกไปหาปลา และเจ้าของเรือต้องไม่ปล่อยให้ไต๋กงเรือหาแรงงานมาโดยไม่รู้ที่มาที่ไปของแรงงานจะต้องมีการตรวจสอบประวัติและจัดทำบัญชีรายชื่อแรงงานให้ชัดเจน
ด้านนายภูเบศ จันทนิมิ ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ทางสมาคมฯ พยายามตรวจสอบและหาข้อมูลเพิ่มเติมว่า มีเรือประมงของสมาชิกรายใดฝ่าฝืนจรรยาบรรณ เพื่อส่งเสริมการจ้างแรงงาน และการคุ้มครองแรงงานประมง ของสมาคม ที่ไปล่อลวง บังคับให้คนมาเป็นแรงงานบนเรือประมงโดยไม่สมัครใคร และขอยืนยันทางสมาคมฯไม่สนับสนุนให้มีการค้าแรงงานประมงอย่างผิดกฎหมาย เพราะนอกจากจะทำให้ภาพลักษณ์ผู้ประกอบการเรือประมงไทยที่ถูกต้องตามกฎหมายเสียหายแล้ว ยังทำให้จะสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศย่ำแย่ลงไปอีก สมาคมพร้อมจะให้ความร่วมมือกับรัฐบาล กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงทางการอินโดนีเซียในการติดตามและดำเนินคดีต่อเจ้าของเรือที่กระทำผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาดโดยเร็ว เพื่อไม่ให้ประเทศคู่ค้าอย่างสหรัฐอเมริกา หรือสหภาพยุโรป ใช้เป็นข้ออ้างกีดกันทางการค้าอีก
ติดตาม Instagram และ Facebook
Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
allowtransparency="true">
วันนี้ (21 ก.ย.) นายสมพงศ์ สระแก้ว ผู้อำนวยการมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (แอลพีเอ็น) กล่าวถึงกรณีกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงคนไทยไปทำงานบนเรือประมงในอินโดนีเซียว่า มูลนิธิแอลพีเอ็นได้รับร้องเรียนว่ามีคนไทย 15 คนในภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพม่า 15 คนถูกหลอกลวงไปทำงานบนเรือประมงของคนไทยในน่านน้ำประเทศอินโดนีเซียซึ่งบางรายถูกหลอกตั้งแต่เมื่อ 5 ปีที่แล้ว บางรายเพิ่งถูกหลอกเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ขณะได้ประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศของไทยและตำรวจของพม่าเพื่อช่วยเหลือแรงงานทั้ง 30 คน อยากให้หน่วยงานรัฐ เอกชน ประสานงานกันอย่างรวดเร็วและใกล้ชิด ลงพื้นที่ไปยังประเทศอินโดนีเซีย จะทำให้การช่วยเหลือทำได้รวดเร็วขึ้น
นายสมพงศ์กล่าวด้วยว่า ส่วนมาตรการป้องกันนั้น ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องร่วมมือกันโดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์เพื่อให้คนไทยและต่างด้าวได้รับทราบ ระมัดระวังตนเองจากกลุ่มมิจฉาชีพโดยมีการประกาศข้อความเตือน และเบอร์โทรศัพท์หน่วยงานรัฐที่ให้ความช่วยเหลือ เช่น เบอร์โทร.ของกระทรวงแรงงาน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตำรวจโดยติดข้อความไว้บนรถและขึ้นข้อความทีวีบนรถทัวร์ รถตู้ และรถไฟที่ขนส่งผู้โดยสารจากต่างจังหวัดมายังกรุงเทพมาลงที่สถานีขนส่งหมอชิต สถานีรถไฟหัวลำโพง ทั้งภาษาไทย พม่า กัมพูชา ลาว นอกจากนี้ ในส่วนของเรือประมงไทยทั้งในและนอกน่านน้ำไทยนั้น หน่วยงานรัฐที่ดูแลจะต้องมีการขึ้นทะเบียนเรือ และตรวจสอบบัญชีรายชื่อลูกจ้างที่ทำงานบนเรือ รู้ถึงพื้นที่ที่เรือจะออกไปหาปลา และเจ้าของเรือต้องไม่ปล่อยให้ไต๋กงเรือหาแรงงานมาโดยไม่รู้ที่มาที่ไปของแรงงานจะต้องมีการตรวจสอบประวัติและจัดทำบัญชีรายชื่อแรงงานให้ชัดเจน
ด้านนายภูเบศ จันทนิมิ ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ทางสมาคมฯ พยายามตรวจสอบและหาข้อมูลเพิ่มเติมว่า มีเรือประมงของสมาชิกรายใดฝ่าฝืนจรรยาบรรณ เพื่อส่งเสริมการจ้างแรงงาน และการคุ้มครองแรงงานประมง ของสมาคม ที่ไปล่อลวง บังคับให้คนมาเป็นแรงงานบนเรือประมงโดยไม่สมัครใคร และขอยืนยันทางสมาคมฯไม่สนับสนุนให้มีการค้าแรงงานประมงอย่างผิดกฎหมาย เพราะนอกจากจะทำให้ภาพลักษณ์ผู้ประกอบการเรือประมงไทยที่ถูกต้องตามกฎหมายเสียหายแล้ว ยังทำให้จะสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศย่ำแย่ลงไปอีก สมาคมพร้อมจะให้ความร่วมมือกับรัฐบาล กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงทางการอินโดนีเซียในการติดตามและดำเนินคดีต่อเจ้าของเรือที่กระทำผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาดโดยเร็ว เพื่อไม่ให้ประเทศคู่ค้าอย่างสหรัฐอเมริกา หรือสหภาพยุโรป ใช้เป็นข้ออ้างกีดกันทางการค้าอีก
ติดตาม Instagram และ Facebook
Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
allowtransparency="true">