กรมอนามัยเตือน “ข้าวมันไก่” ห้ามทำเป็นอาหารกล่อง สำหรับการเดินทาง เหตุต้องเก็บไว้นานก่อนกิน เสี่ยงบูดง่าย เผยเก็บเกิน 4 ชั่วโมงปนเปื้อนเชื้อก่อโรคท้องร่วง แนะผู้ประกอบการลวกไก่ให้สุกทุก 2 ชั่วโมงขณะขาย
นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ข้าวมันไก่เป็นเมนูยอดฮิตที่หารับประทานได้ง่าย สะดวก โดยเฉพาะเวลาเร่งรีบ แต่ไม่เหมาะนำมาเป็นเมนูอาหารกล่องในการจัดทัศนศึกษาหรือท่องเที่ยว เพราะต้องปรุงประกอบในปริมาณมาก ใช้เวลาเก็บไว้นานเกิน 4 ชั่วโมง เสี่ยงต่อการบูดเสียง่าย จนก่อโรคท้องร่วง ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อสแตปฟิโลคอคัสออเรียส ที่เจริญเติบโตและผลิตสารพิษปนเปื้อนอยู่ในข้าวมันไก่ โดยเฉพาะเนื้อไก่ที่เก็บไว้นานเกิน 4 ชั่วโมง อาการของโรคจะแสดงหลังจากรับสารพิษเข้าไปประมาณ 1 - 7 ชั่วโมง คือ คลื่นไส้ อาเจียนอย่างรุนแรง ท้องเดิน ปวดท้อง เป็นตะคริวที่ท้อง ชักกระตุก หนาวสั่น อ่อนเพลีย ช็อก และอาจเป็นลม หมดสติได้
นพ.พรเทพ กล่าวว่า แม้แต่การขายไก่ที่ร้านก็ต้องให้ความสำคัญ เพราะหากแขวนไก่ไว้นานเกิน 4 ชั่วโมง ก็อาจปนเปื้อนเชื้อดังกล่าวได้ ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตามหลักสุขาภิบาลอาหารอย่างเคร่งครัด โดยไม่ควรนำไก่แช่แข็งมาต้มทันที เพราะจะสุกไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะเนื้อที่ติดกระดูกจะสังเกตว่ามีเลือดสดๆ ติดอยู่ จึงควรนำไก่แช่แข็งมาแช่ในตู้เย็นที่อุณหภูมิไม่เกิน 5 องศาเซลเซียส 1 คืน ก่อนนำมาต้ม ส่วนไก่ที่ต้มสุกแล้วหากนำมาแขวนในตู้ ต้องนำไปลวกในน้ำเดือด 15 วินาที ทุก 2 ชั่วโมง การใช้มีด เขียง ควรแยกสำหรับหั่นเนื้อไก่โดยเฉพาะ ข้าวมันต้องรักษาอุณหภูมิให้ร้อนประมาณ 60 องศาเซลเซียสตลอดเวลา ผักชี แตงกวา ต้องล้างให้สะอาด
“ด้านผู้บริโภคควรเลือกร้านที่มีความสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย สังเกตข้าวมัน เนื้อไก่ ผัก น้ำจิ้ม ต้องมีภาชนะปิดและไม่มีกลิ่นบูด ผู้ปรุง ผู้เสิร์ฟ แต่งกายสะอาด สวมผ้ากันเปื้อนและหมวกคลุมผม และต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ คือ ไก่ที่แขวนในตู้ต้องสดใหม่ ผิวหนังเต่งตึง ไม่มีกลิ่นเหม็น หากไม่มั่นใจให้ผู้ขายลวกเนื้อไก่ในน้ำซุปที่เดือด 15 วินาที เพื่อฆ่าเชื้อโรค” อธิบดีกรมอนามัย กล่าวและว่า นอกจากข้าวมันไก่แล้ว อาหารกล่องที่ไม่ควรทำ คือ อาหารที่ใช้กะทิเป็นส่วนประกอบ หรืออาหารสุกๆ ดิบๆ ให้เปลี่ยนเป็นอาหารแห้ง เช่น ข้าวเหนียวหมูทอด ข้าวเหนียวไก่ทอด และการบรรจุควรแยกกับข้าวใส่ถุงพลาสติกไว้ต่างหาก และแสดงวันเวลาที่ผลิตและระยะเวลาในการบริโภคบนกล่องอาหารเพื่อความปลอดภัย
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ข้าวมันไก่เป็นเมนูยอดฮิตที่หารับประทานได้ง่าย สะดวก โดยเฉพาะเวลาเร่งรีบ แต่ไม่เหมาะนำมาเป็นเมนูอาหารกล่องในการจัดทัศนศึกษาหรือท่องเที่ยว เพราะต้องปรุงประกอบในปริมาณมาก ใช้เวลาเก็บไว้นานเกิน 4 ชั่วโมง เสี่ยงต่อการบูดเสียง่าย จนก่อโรคท้องร่วง ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อสแตปฟิโลคอคัสออเรียส ที่เจริญเติบโตและผลิตสารพิษปนเปื้อนอยู่ในข้าวมันไก่ โดยเฉพาะเนื้อไก่ที่เก็บไว้นานเกิน 4 ชั่วโมง อาการของโรคจะแสดงหลังจากรับสารพิษเข้าไปประมาณ 1 - 7 ชั่วโมง คือ คลื่นไส้ อาเจียนอย่างรุนแรง ท้องเดิน ปวดท้อง เป็นตะคริวที่ท้อง ชักกระตุก หนาวสั่น อ่อนเพลีย ช็อก และอาจเป็นลม หมดสติได้
นพ.พรเทพ กล่าวว่า แม้แต่การขายไก่ที่ร้านก็ต้องให้ความสำคัญ เพราะหากแขวนไก่ไว้นานเกิน 4 ชั่วโมง ก็อาจปนเปื้อนเชื้อดังกล่าวได้ ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตามหลักสุขาภิบาลอาหารอย่างเคร่งครัด โดยไม่ควรนำไก่แช่แข็งมาต้มทันที เพราะจะสุกไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะเนื้อที่ติดกระดูกจะสังเกตว่ามีเลือดสดๆ ติดอยู่ จึงควรนำไก่แช่แข็งมาแช่ในตู้เย็นที่อุณหภูมิไม่เกิน 5 องศาเซลเซียส 1 คืน ก่อนนำมาต้ม ส่วนไก่ที่ต้มสุกแล้วหากนำมาแขวนในตู้ ต้องนำไปลวกในน้ำเดือด 15 วินาที ทุก 2 ชั่วโมง การใช้มีด เขียง ควรแยกสำหรับหั่นเนื้อไก่โดยเฉพาะ ข้าวมันต้องรักษาอุณหภูมิให้ร้อนประมาณ 60 องศาเซลเซียสตลอดเวลา ผักชี แตงกวา ต้องล้างให้สะอาด
“ด้านผู้บริโภคควรเลือกร้านที่มีความสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย สังเกตข้าวมัน เนื้อไก่ ผัก น้ำจิ้ม ต้องมีภาชนะปิดและไม่มีกลิ่นบูด ผู้ปรุง ผู้เสิร์ฟ แต่งกายสะอาด สวมผ้ากันเปื้อนและหมวกคลุมผม และต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ คือ ไก่ที่แขวนในตู้ต้องสดใหม่ ผิวหนังเต่งตึง ไม่มีกลิ่นเหม็น หากไม่มั่นใจให้ผู้ขายลวกเนื้อไก่ในน้ำซุปที่เดือด 15 วินาที เพื่อฆ่าเชื้อโรค” อธิบดีกรมอนามัย กล่าวและว่า นอกจากข้าวมันไก่แล้ว อาหารกล่องที่ไม่ควรทำ คือ อาหารที่ใช้กะทิเป็นส่วนประกอบ หรืออาหารสุกๆ ดิบๆ ให้เปลี่ยนเป็นอาหารแห้ง เช่น ข้าวเหนียวหมูทอด ข้าวเหนียวไก่ทอด และการบรรจุควรแยกกับข้าวใส่ถุงพลาสติกไว้ต่างหาก และแสดงวันเวลาที่ผลิตและระยะเวลาในการบริโภคบนกล่องอาหารเพื่อความปลอดภัย
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
