แนะปรุงอาหารเหลือหลังไหว้สารทจีน เน้นร้อน สุก สะอาด

กรมอนามัย แนะเลือกซื้อเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ที่สะอาด ปลอดภัยในวันสารทจีน ย้ำคุมเข้มการปรุงประกอบอาหารอย่างถูกสุขลักษณะก่อนบริโภค

ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า วันสารทจีนของทุกปี ชาวไทยเชื้อสายจีนจำนวนมากจะมีพิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษและไหว้เจ้า การเฝ้าระวังในเรื่องของความปลอดภัยด้านอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะผู้ประกอบการค้าทั้งในตลาดค้าส่ง ตลาดสด ร้านอาหาร และแผงลอยจำหน่ายอาหารจะต้องมีความตระหนักด้านสุขลักษณะ ความสะอาด ส่วนผู้บริโภคต้องมีความรู้ในการเลือกซื้ออาหารต่างๆ ที่จะนำมาไหว้ ด้วยการเลือกซื้อเป็ด ไก่ ต้องสดใหม่ เนื้อไม่มีสีคล้ำ ผิวหนังหรือเครื่องในไม่มีจ้ำเลือด ไม่มีการทาสีตามตัว ไม่มีกลิ่นเหม็น สำหรับเนื้อหมูต้องเลือกเนื้อหมูที่มีสีแดงตามธรรมชาติ เมื่อกดดูเนื้อจะนุ่มไม่กระด้าง และต้องไม่มีเม็ดสาคูหรือตัวอ่อนของพยาธิตัวตืด ส่วนไข่ต้องเลือกไข่ที่สด ใหม่ เปลือกไข่ไม่แตก หรือบุบร้าว ไม่มีมูลติด เพราะสาเหตุที่มีเชื้อปนเปื้อนในไข่พบว่าเกิดจากการที่เปลือกไข่มีเลือด หรืออุจจาระปนเปื้อนในขณะที่ทำการเก็บไข่ เป็นผลจากการเลี้ยงไก่ในที่ไม่สะอาด ไม่ถูกสุขลักษณะ เพื่อความมั่นใจควรเลือกซื้อจากตลาดสดที่ได้รับการรับรองเป็นตลาดสด น่าซื้อ ตามมาตรฐานของกรมอนามัย นอกจากนี้ ควรแยกเขียงสำหรับอาหารที่ปรุงสุกและอาหารดิบ หรือเขียงผักผลไม้โดยเฉพาะ อาหารประเภทเนื้อสัตว์ต้องปรุงให้สุกด้วยความร้อนไม่ต่ำกว่า 70 องศา เพื่อทำลายเชื้อแบคทีเรียและไวรัส

ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า ผักและผลไม้ ก่อนนำมารับประทานควรล้างผัก ผลไม้ด้วยน้ำสะอาด 1 - 2 ครั้ง ก่อนแช่ผัก ผลไม้ในน้ำผสมเกลือ 2 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 4 ลิตร น้ำผสมน้ำส้มสายชู ครึ่งถ้วยตวงต่อน้ำ 4 ลิตร หรือน้ำผสมโซเดียมไบคาร์บอเนต 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 4 ลิตร แช่นาน 15 - 30 นาที แล้วล้างน้ำเปล่าอีกสองครั้ง สำหรับผักบางชนิด เช่น คะน้า กะหล่ำ ถั่วฝักยาว หากมีคราบขาวจับที่กาบใบ หรือฝัก มากเกินไปล้างน้ำหลายๆ ครั้ง และคลี่ใบถูหรือล้างด้วยการเปิดน้ำไหลผ่านผักสดอย่างน้อย 2 นาที และในขณะประกอบอาหารไม่ควรใช้มือที่เปื้อนมาสัมผัสจมูก ตา และ ปาก และแต่งกายให้ถูกสุขลักษณะคือ สวมเสื้อมีแขน ใส่ผ้ากันเปื้อนและหมวกคลุม

“หากนำอาหารที่เหลือจากการไหว้มาประกอบเป็นอาหารไว้รับประทาน เช่น จับฉ่าย นั้น ควรปรุงด้วยความร้อนให้เดือด เมื่อรับประทานไม่หมดควรแบ่งใส่ภาชนะที่ปิดมิดชิดแล้วใส่ในตู้เย็น ที่อุณหภูมิไม่เกิน 5 องศาเซลเซียส ซึ่งจะสามารถเก็บได้ 3 - 5 วัน และเมื่อนำออกมารับประทานควรอุ่นด้วยความร้อนให้เดือด และไม่ควรทำการอุ่นซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง ทั้งนี้ คุณค่าอาหารก็จะลดลงไป และมีโอกาสรับสารก่อมะเร็งด้วย ส่วนท่านที่เดินทางไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ นั้น ควรเลือกใช้บริการจากร้านอาหารที่ ได้รับป้ายรับรองมาตรฐาน อาหารสะอาด รสชาติอร่อย (Clean Food Good Test) เพื่อให้มั่นใจในความสะอาดและปลอดภัย นอกจากนี้ การเผากระดาษเงินและกระดาษทอง ควรจะทำในที่เฉพาะที่ใช้สำหรับการเผาหรือที่โล่งแจ้ง โดยยืนเหนือลม และระวังไม่ให้สูดดมควันจากการเผาเข้าสู่ร่างกาย ในกรณีที่ไปไหว้เจ้าที่ศาลเจ้าต้องระวังควันจากธูป เพราะจะทำให้เกิดการระคายเคืองตาได้ง่าย และไม่ควรให้เด็กเล็กไปด้วยเพราะอาจจะมีอันตรายต่อสุขภาพได้” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

ติดตาม Instagram และ Facebook

Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่