สธ. จ่อถกเพิ่มฐานเงินเดือน พกส. เชื่อพิจารณาให้ตามพื้นที่ไร้ปัญหาไม่พอใจ คาด ก.ย. นี้ ได้ข้อสรุปกองทุน พกส. ตั้งกองทุนประกันความมั่นคงหลังเกษียณ ใช้ระบบเดียวกับประกันสังคม หักเงินสะสม ร่วม สธ. จ่ายสมทบ พร้อมย้ายสิทธิรักษาพยาบาลมาเป็นบัตรทองพลัส
นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ในวันที่ 26 ส.ค. จะมีการหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาเรื่องการปรับฐานเงินเดือนให้กับพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (พกส.) แต่ยังไม่สามารถระบุขั้นต่ำได้ คาดว่า อาจอยู่ที่ประมาณ 10% ตามนโยบายที่เคยให้ไว้ ส่วนค่าตอบแทนที่จะพิจารณาตามพื้นที่นั้น เนื่องจากแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน อย่างเขตปริมณฑลจะมีการแข่งขันสูง ค่าครองชีพสูง ก็ต้องเพิ่มค่าตอบแทนสูงตาม อย่างอีสานที่ไม่มีการแข่งขันสูงก็จะพิจารณาตามความเหมาะสม ซึ่งเชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาความไม่พอใจ เพราะมีการคุยกันตลอด และเข้าใจดีว่าอัตราค่าตอบแทนไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน ทั้งนี้ ได้มีหนังสือสั่งการให้สถานพยาบาลยุติการรับลูกจ้างชั่วคราวไปก่อน เพื่อให้ระบบการเงินนิ่ง แล้วรอให้ดำเนินการเสร็จจะพิจารณาลักษณะการจ้างงานอีกครั้งว่าผู้ที่จะเข้าสู่สถานพยาบาล จะเป็น พกส. เลย หรือบางสายงานอาจเป็นลูกจ้างชั่วคราว ต้องมีการหารือกันอีกครั้ง
“การพิจารณาเพิ่มเงินค่าตอบแทน จะใช้หลักเกณฑ์เดียวกัน ทั้งส่วนของสายวิชาชีพ สายสนับสนุน อาจจะแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย ก็ต้องมาคุยกันอีกครั้งหนึ่งว่าจะเป็นอย่างไร ส่วนความคืบหน้าการตั้งกองทุนสวัสดิการ พกส. อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งต้องทำให้แล้วเสร็จหลังจากที่มีคณะกรรมการกองทุนถาวรแล้ว 1 ปี ซึ่งภายใน ก.ย. จะได้ข้อสรุป เบื้องต้น กองทุน พกส. จะตั้งกองทุนประกันความมั่นคงหลังเกษียณ คล้ายกองทุนชราภาพของประกันสังคมโดยหักเงินสะสมจาก พกส.คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ และ สธ.จ่ายสมทบในอัตราเท่ากัน แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะหักกี่เปอร์เซ็นต์” รองปลัด สธ. กล่าว
นพ.วชิระ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังจะเปลี่ยนสิทธิการรักษาพยาบาลจากเดิมที่ใช้ประกันสังคมมาเป็นบัตรทองพลัส (บัตรทองบวก) แต่สิทธิประโยชน์คล้ายกับข้าราชการคือมีสิทธิในการรับยาพิเศษ ห้องพิเศษ อาหารพิเศษ และให้สิทธิการรักษาพยาบาลสำหรับครอบครัว เป็นต้น ขณะนี้กำลังพิจารณาว่าจะให้ได้แค่ไหน
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ในวันที่ 26 ส.ค. จะมีการหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาเรื่องการปรับฐานเงินเดือนให้กับพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (พกส.) แต่ยังไม่สามารถระบุขั้นต่ำได้ คาดว่า อาจอยู่ที่ประมาณ 10% ตามนโยบายที่เคยให้ไว้ ส่วนค่าตอบแทนที่จะพิจารณาตามพื้นที่นั้น เนื่องจากแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน อย่างเขตปริมณฑลจะมีการแข่งขันสูง ค่าครองชีพสูง ก็ต้องเพิ่มค่าตอบแทนสูงตาม อย่างอีสานที่ไม่มีการแข่งขันสูงก็จะพิจารณาตามความเหมาะสม ซึ่งเชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาความไม่พอใจ เพราะมีการคุยกันตลอด และเข้าใจดีว่าอัตราค่าตอบแทนไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน ทั้งนี้ ได้มีหนังสือสั่งการให้สถานพยาบาลยุติการรับลูกจ้างชั่วคราวไปก่อน เพื่อให้ระบบการเงินนิ่ง แล้วรอให้ดำเนินการเสร็จจะพิจารณาลักษณะการจ้างงานอีกครั้งว่าผู้ที่จะเข้าสู่สถานพยาบาล จะเป็น พกส. เลย หรือบางสายงานอาจเป็นลูกจ้างชั่วคราว ต้องมีการหารือกันอีกครั้ง
“การพิจารณาเพิ่มเงินค่าตอบแทน จะใช้หลักเกณฑ์เดียวกัน ทั้งส่วนของสายวิชาชีพ สายสนับสนุน อาจจะแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย ก็ต้องมาคุยกันอีกครั้งหนึ่งว่าจะเป็นอย่างไร ส่วนความคืบหน้าการตั้งกองทุนสวัสดิการ พกส. อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งต้องทำให้แล้วเสร็จหลังจากที่มีคณะกรรมการกองทุนถาวรแล้ว 1 ปี ซึ่งภายใน ก.ย. จะได้ข้อสรุป เบื้องต้น กองทุน พกส. จะตั้งกองทุนประกันความมั่นคงหลังเกษียณ คล้ายกองทุนชราภาพของประกันสังคมโดยหักเงินสะสมจาก พกส.คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ และ สธ.จ่ายสมทบในอัตราเท่ากัน แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะหักกี่เปอร์เซ็นต์” รองปลัด สธ. กล่าว
นพ.วชิระ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังจะเปลี่ยนสิทธิการรักษาพยาบาลจากเดิมที่ใช้ประกันสังคมมาเป็นบัตรทองพลัส (บัตรทองบวก) แต่สิทธิประโยชน์คล้ายกับข้าราชการคือมีสิทธิในการรับยาพิเศษ ห้องพิเศษ อาหารพิเศษ และให้สิทธิการรักษาพยาบาลสำหรับครอบครัว เป็นต้น ขณะนี้กำลังพิจารณาว่าจะให้ได้แค่ไหน
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่