ก.แรงงาน ยังไม่ได้รับรายงานกรณีซาอุดีอาระเบียลดความสัมพันธ์ ชี้ไม่มีการนำเข้าแรงงานไทยกว่า 20 ปีแล้ว ด้าน กกจ. เตือนแรงงานที่จะไปเกาหลีระวังถูกหลอก เผยปัจจุบันส่งแรงงานแบบรัฐต่อรัฐ ไม่มีการจัดส่งจากบริษัทจัดหางาน
นายสิงหเดช ชูอำนาจ ผู้ตรวจราชการกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงสถานการณ์แรงงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย ภายหลังมีกระแสข่าวการลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศไทย ว่า ยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องดังกล่าว ส่วนสถานการณ์ของแรงงานไทยนั้น ข้อมูลของสำนักงานแรงงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย (กรุงริยาด) ระบุว่า ซาอุดีอาระเบียไม่เปิดให้นำเข้าแรงงานจากประเทศไทยมานานกว่า 20 ปีแล้ว ซึ่งข้อมูลในปี 2554 นั้น มีแรงงานไทยและคนไทยอยู่ในซาอุดิอาระเบียจำนวน 9,114 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานที่ทำงานมานานกว่า 20 ปี มีอายุการทำงานนานและมีทักษะฝีมือสูงเป็นที่ต้องการของนายจ้าง โดยจะทำงานในภาคการผลิตในสาขาช่างฝีมือต่างๆ เช่น ช่างไฟฟ้า ช่างซ่อมเครื่องยนต์ ช่างจักรกลหนัก พนักงานขับรถจักรกลหนัก และพนักงานขับรถบรรทุก เป็นต้น ซึ่งแรงงานไทยส่วนใหญ่เป็นชาวไทยมุสลิม และมองว่าหากในอนาคตทางการซาอุดีอาระเบียเปิดให้นำเข้าแรงงานไทย ก็ถือเป็นโอกาสที่ดี เพราะเป็นประเทศที่ศักยภาพในการจ้างแรงงานสูง
นายสิงหเดช กล่าวอีกว่า ส่วนทิศทางตลาดแรงงานไทยในต่างประเทศนั้น สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) เป็นประเทศที่เหมาะสำหรับการเดินทางไปทำงานของแรงงานไทย เพราะมีระบบการดูแลแรงงานต่างชาติที่ดี และในปีหน้ารัฐบาลจะมีการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเดือนละประมาณ 45,000 บาท ไทย พร้อมแสดงความเป็นห่วงว่าในกลางเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคม จะมีการจัดมหกรรมกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ที่เกาหลีใต้ ทำให้เป็นช่องทางของนายหน้าที่จะพาแรงงานแฝงตัวเข้าไปทำงาน เพราะคนไทยสามารถพำนักในเกาหลีใต้ได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าเป็นเวลา 90 วัน จึงขอเตือนคนที่ต้องการเดินทางไปทำงานที่เกาหลีใต้ว่าปัจจุบันการส่งแรงงานไปทำงานที่เกาหลีใต้มีเพียงระบบจัดส่งแบบรัฐต่อรัฐเท่านั้น ไม่มีการจัดส่งแบบบริษัทจัดหางาน โดยที่ผ่านมามีแรงงานไทยแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว เพื่อลักลอบเข้าเกาหลีใต้และถูกจับกุมดำเนินคดีมาหลายรายแล้ว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นายสิงหเดช ชูอำนาจ ผู้ตรวจราชการกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงสถานการณ์แรงงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย ภายหลังมีกระแสข่าวการลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศไทย ว่า ยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องดังกล่าว ส่วนสถานการณ์ของแรงงานไทยนั้น ข้อมูลของสำนักงานแรงงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย (กรุงริยาด) ระบุว่า ซาอุดีอาระเบียไม่เปิดให้นำเข้าแรงงานจากประเทศไทยมานานกว่า 20 ปีแล้ว ซึ่งข้อมูลในปี 2554 นั้น มีแรงงานไทยและคนไทยอยู่ในซาอุดิอาระเบียจำนวน 9,114 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานที่ทำงานมานานกว่า 20 ปี มีอายุการทำงานนานและมีทักษะฝีมือสูงเป็นที่ต้องการของนายจ้าง โดยจะทำงานในภาคการผลิตในสาขาช่างฝีมือต่างๆ เช่น ช่างไฟฟ้า ช่างซ่อมเครื่องยนต์ ช่างจักรกลหนัก พนักงานขับรถจักรกลหนัก และพนักงานขับรถบรรทุก เป็นต้น ซึ่งแรงงานไทยส่วนใหญ่เป็นชาวไทยมุสลิม และมองว่าหากในอนาคตทางการซาอุดีอาระเบียเปิดให้นำเข้าแรงงานไทย ก็ถือเป็นโอกาสที่ดี เพราะเป็นประเทศที่ศักยภาพในการจ้างแรงงานสูง
นายสิงหเดช กล่าวอีกว่า ส่วนทิศทางตลาดแรงงานไทยในต่างประเทศนั้น สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) เป็นประเทศที่เหมาะสำหรับการเดินทางไปทำงานของแรงงานไทย เพราะมีระบบการดูแลแรงงานต่างชาติที่ดี และในปีหน้ารัฐบาลจะมีการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเดือนละประมาณ 45,000 บาท ไทย พร้อมแสดงความเป็นห่วงว่าในกลางเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคม จะมีการจัดมหกรรมกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ที่เกาหลีใต้ ทำให้เป็นช่องทางของนายหน้าที่จะพาแรงงานแฝงตัวเข้าไปทำงาน เพราะคนไทยสามารถพำนักในเกาหลีใต้ได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าเป็นเวลา 90 วัน จึงขอเตือนคนที่ต้องการเดินทางไปทำงานที่เกาหลีใต้ว่าปัจจุบันการส่งแรงงานไปทำงานที่เกาหลีใต้มีเพียงระบบจัดส่งแบบรัฐต่อรัฐเท่านั้น ไม่มีการจัดส่งแบบบริษัทจัดหางาน โดยที่ผ่านมามีแรงงานไทยแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว เพื่อลักลอบเข้าเกาหลีใต้และถูกจับกุมดำเนินคดีมาหลายรายแล้ว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่