สปสช. จวก อภ. พูดไม่จริง ยันไม่เคยแนะนำให้เช่าพื้นที่ รพ. เอกชน พักน้ำยาล้างไต ชี้เพิ่มขั้นตอนและค่าใช้จ่ายไม่จำเป็น อัดกล่าวหาโครงการ CAPD สปสช. มีอัตราตายสูงกว่าสถิติทั่วโลก แจงข้อเท็จจริงต่ำกว่า
นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงกรณี นพ.สุวัช เซียศิริวัฒนา ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ชี้แจงการเปิดโครงการศูนย์สนับสนุนงานล้างไตและฟอกเลือดเพื่อผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง โดยการเช่าพื้นที่ รพ.มหาสารคามอินเตอร์นั้น ไม่มีการทุจริต ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบการรักษาโรคไตวายเรื้อรังร่วมกับ สปสช. เพื่อแก้ปัญหาโครงการบริการผู้ป่วยไตวายเรื้อรังล้างไตผ่านช่องท้องของ สปสช. ว่า การตั้งศูนย์บริการผู้ป่วยไตวายโดยตรงไม่ใช่หน้าที่ของ อภ. และ สปสช. ไม่เคยมีนโยบายให้ รพ. เอกชน หรือ อภ. ดำเนินการให้บริการผู้ป่วยไตวายล้างไตทางช่องท้อง (CAPD) ที่สำคัญไม่เคยแนะนำให้ อภ. ทำโครงการเช่าพื้นที่ รพ. เอกชน เพื่อตั้งศูนย์ดังกล่าว ที่ผ่านมามีเพียงแค่เรื่องการจัดส่งน้ำยา CAPD ให้ผู้ป่วยไตวายเท่านั้นที่ สปสช. มอบให้ อภ. ดำเนินการ โดยจัดส่งจากคลังเก็บน้ำยาใน กทม. ปีละกว่า 20 ล้านถุง ไปยังบ้านผู้ป่วยโดยตรง ซึ่งก็ไม่มีความจำเป็นต้องพักน้ำยาระหว่างทางที่ รพ. เอกชน ในพื้นที่ เพราะเป็นการเพิ่มขั้นตอนและค่าใช้จ่ายให้แก่เอกชนโดยไม่จำเป็น
“การชี้แจงของผู้อำนวยการ อภ. ไม่เป็นความจริง อย่างการกล่าวอ้างว่าโครงการบริการ CAPD ของ สปสช. มีอัตราตายของผู้ป่วยปีละกว่า 2,000 คน หรือร้อยละ 25 ต่อปี สูงกว่าสถิติทั่วโลก ทั้งที่ นพ.สุวัช ไม่ใช่เป็นผู้รับผิดชอบการจัดบริการผู้ป่วยโดยตรง ก็เป็นการให้ข้อมูลเท็จ ทำให้ผู้ป่วย CAPD ที่มีมากกว่า 17,000 ราย สับสน ตื่นตระหนก และสร้างความเสียหายกับ สปสช. เพื่อกลบเกลื่อนข่าวปัญหาการบริหารงานภายใน อภ. จริงๆ แล้วปีที่ผ่านมามีผู้ป่วยเสียชีวิตจากสาเหตุต่างๆ 1,279 คน หรือคิดเป็นเพียงร้อยละ 7 ซึ่งต่ำกว่าสถิติทั่วโลกที่อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยรายใหม่อยู่ที่ประมาณร้อยละ 10 ต่อปี” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว
แหล่งข่าวแวดวงสาธารณสุข กล่าวว่า รพ.มหาสารคามอินเตอร์ เพิ่งมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของ และอยู่ระหว่างคดีความถูกเจ้าของเดิมฟ้องร้องข้อหาฉ้อโกง และ นพ.ดำรัส โรจนเสถียร กรรมการบริษัทปัจจุบัน เป็นผู้ลงนามให้ อภ. เช่าเป็นเวลา 18 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2557 ในวงเงิน 8.316 ล้านบาท ทั้งที่เป็นที่ปรึกษาโครงการของ อภ. อยู่
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงกรณี นพ.สุวัช เซียศิริวัฒนา ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ชี้แจงการเปิดโครงการศูนย์สนับสนุนงานล้างไตและฟอกเลือดเพื่อผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง โดยการเช่าพื้นที่ รพ.มหาสารคามอินเตอร์นั้น ไม่มีการทุจริต ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบการรักษาโรคไตวายเรื้อรังร่วมกับ สปสช. เพื่อแก้ปัญหาโครงการบริการผู้ป่วยไตวายเรื้อรังล้างไตผ่านช่องท้องของ สปสช. ว่า การตั้งศูนย์บริการผู้ป่วยไตวายโดยตรงไม่ใช่หน้าที่ของ อภ. และ สปสช. ไม่เคยมีนโยบายให้ รพ. เอกชน หรือ อภ. ดำเนินการให้บริการผู้ป่วยไตวายล้างไตทางช่องท้อง (CAPD) ที่สำคัญไม่เคยแนะนำให้ อภ. ทำโครงการเช่าพื้นที่ รพ. เอกชน เพื่อตั้งศูนย์ดังกล่าว ที่ผ่านมามีเพียงแค่เรื่องการจัดส่งน้ำยา CAPD ให้ผู้ป่วยไตวายเท่านั้นที่ สปสช. มอบให้ อภ. ดำเนินการ โดยจัดส่งจากคลังเก็บน้ำยาใน กทม. ปีละกว่า 20 ล้านถุง ไปยังบ้านผู้ป่วยโดยตรง ซึ่งก็ไม่มีความจำเป็นต้องพักน้ำยาระหว่างทางที่ รพ. เอกชน ในพื้นที่ เพราะเป็นการเพิ่มขั้นตอนและค่าใช้จ่ายให้แก่เอกชนโดยไม่จำเป็น
“การชี้แจงของผู้อำนวยการ อภ. ไม่เป็นความจริง อย่างการกล่าวอ้างว่าโครงการบริการ CAPD ของ สปสช. มีอัตราตายของผู้ป่วยปีละกว่า 2,000 คน หรือร้อยละ 25 ต่อปี สูงกว่าสถิติทั่วโลก ทั้งที่ นพ.สุวัช ไม่ใช่เป็นผู้รับผิดชอบการจัดบริการผู้ป่วยโดยตรง ก็เป็นการให้ข้อมูลเท็จ ทำให้ผู้ป่วย CAPD ที่มีมากกว่า 17,000 ราย สับสน ตื่นตระหนก และสร้างความเสียหายกับ สปสช. เพื่อกลบเกลื่อนข่าวปัญหาการบริหารงานภายใน อภ. จริงๆ แล้วปีที่ผ่านมามีผู้ป่วยเสียชีวิตจากสาเหตุต่างๆ 1,279 คน หรือคิดเป็นเพียงร้อยละ 7 ซึ่งต่ำกว่าสถิติทั่วโลกที่อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยรายใหม่อยู่ที่ประมาณร้อยละ 10 ต่อปี” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว
แหล่งข่าวแวดวงสาธารณสุข กล่าวว่า รพ.มหาสารคามอินเตอร์ เพิ่งมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของ และอยู่ระหว่างคดีความถูกเจ้าของเดิมฟ้องร้องข้อหาฉ้อโกง และ นพ.ดำรัส โรจนเสถียร กรรมการบริษัทปัจจุบัน เป็นผู้ลงนามให้ อภ. เช่าเป็นเวลา 18 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2557 ในวงเงิน 8.316 ล้านบาท ทั้งที่เป็นที่ปรึกษาโครงการของ อภ. อยู่
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
